รวบหนุ่มใหญ่ลักรถแบ็กโฮราคาร่วมล้านขายเศษเหล็ก

ผบช.น.แถลงข่าว ตำรวจ สน.คลองตันจับกุมผู้ต้องหาลักรถแบ็กโฮ ราคาร่วม 1 ล้านบาท ขายเป็นเศษเหล็กชั่งกิโลฯ กิโลละ 10 บาท-คันละ 4 หมื่นบาท สอบประวัติสุดแสบโชกโชนคุกก่อเหตุมาแล้ว 5 ครั้งหลายพื้นที่ สารภาพนั่งรถเมล์ตระเวนหาเหยื่อรอบ กทม.และปริมลฑล

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 31 ม.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ปริญญา จันทร์สุริยา พล.ต.ต.วรัญวัส การุณยธัช พล.ต.ต.มานิต วงศ์สมบูรณ์ รอง ผบช.น. พ.ต.อ.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผกก.สน.คลองตัน พ.ต.ท.กิตติพัทธ์ เที่ยงน้อย รอง ผกก.สส. และพ.ต.ต.วชิรากรณ์ วงศ์บุญ สว.สส. แถลงข่าวจับกุมนายสุตา ชอบกล้า อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 615 ต.สังขละ อ.สังขละ จ.สุรินทร์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่จ.65/2556 ลงวันที่ 27 ม.ค. 56 ข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะ พร้อมของกลางรถแบ็กโฮยี่ห้อคูโบต้า ราคาประมาณ 1 ล้านบาท จับกุมได้ที่บริเวณถนนรองเมือง แขวงจารุเมือง เขตปทุมวัน กทม.

พ.ต.อ.โชติวัฒน์กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมา ผู้เสียหายซึ่งทำงานเป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง ได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.คลองตัน ว่ารถแบ็กโฮที่จอดไว้ริมถนนระหว่างซอยปรีดีพนมยงค์ 12-14 ถนนสุขุมวิท 71 แขวงพระโขนงเหนือ เขตวัฒนา กทม. ถูกคนร้ายลักไป ฝ่ายสืบสวนจึงตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุพบว่า คนร้ายได้ใช้รถบรรทุก 10 ล้อยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน 82-7935 ชัยภูมิ บรรทุกแบ็กโฮไปในเวลา 04.30 น.ของวันที่ 15 ม.ค. เมื่อตรวจสอบทะเบียนรถก็ทราบชื่อเจ้าของ และพักอยู่ย่านลาดพร้าว เจ้าหน้าที่จึงนำตัวมาสอบสวนจนทราบว่า นายสุตาได้ว่าจ้างในราคา 4,000 บาทให้ไปยกรถ โดยอ้างว่าเป็นเจ้าของรถแบ็กโฮจะนำมาขุดเจาะถนนเพื่อเดินท่อประปา จากนั้นก็นำรถไปขายให้ร้านรับซื้อของเก่าที่บริษัท ล็อกเวล จำกัด เลขที่ 77/373 หมู่ 5 ถนนพระราม 2 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กทม. โดยชุดสืบสวนสามารถติดตามยึดรถคืนมาได้

จากการสอบสวนนายสุตาให้การรับสารภาพว่า ทำงานขายอาหารอีสานย่านรองเมืองในช่วงกลางคืน ส่วนตอนกลางวันจะนั่งรถเมล์ตระเวนรอบ กทม.และปริมณฑล เพื่อหารถแบ็กโฮและแผ่นเหล็กที่ใช้ทำงานขุดท่อประปา หรือสร้างทาง เมื่อพบแล้วก็จะจดจำสถานที่ไว้ พอกลางดึกก็จะมาดูว่ามีคนเฝ้าหรือไม่ จากนั้นก็ว่าจ้างรถยกให้ไปขนแบ็กโฮ โดยหลอกลวงว่าเป็นรถของตนเอง หรือไม่ก็บริษัทสั่งให้มายกรถกลับ จากนั้นก็นำไปขายต่อให้กับร้านรับซื้อของเก่า ล่าสุดนำรถของกลางไปชั่งกิโลขายราคากิโลกรัมละ 10 บาท ได้เงินมาประมาณ 4 หมื่นบาท ก่อนหน้านี้เคยลักรถแบ็กโฮไปขายที่ย่านแสมดำ ถนนพระราม 3 และบางบัวทอง จ.นนทบุรี มาแล้วหลายครั้ง สาเหตุที่เลือกขโมยรถแบ็กโฮเพราะขับรถชนิดนี้เป็น ตนจะถามร้านรับซื้อของเก่าก่อน ถ้ารับซื้อค่อยขโมยรถไปชั่งกิโลขายเหมือนเศษเหล็ก

พ.ต.อ.โชติวัฒน์กล่าวอีกว่า จากการสอบสวนขยายผลพบว่านายสุตา เคยก่อเหตุลักรถแบ๊กโฮมาแล้ว 5 ครั้ง ในปี 51 ท้องที่ สภ.สำโรงใต้ จ.สมุทรปราการ สน.บางเขน และสน.ท่าข้าม และกลางเดือน พ.ย. 55 ก่อเหตุท้องที่ สน.พลับพลาไชย 1 นอกจากนี้เดือน ธ.ค. 55 ลักแผ่นเหล็กขนาดใหญ่ บริเวณถนนเทียนทะเลไปขายร้านขายของเก่าย่านพระราม 2 ก่อเหตุ 2 ครั้ง ได้เงิน 2.6 หมื่นบาท และลักแผ่นเหล็กแถวถนนสาธุประดิษฐ์ไปขาย ได้เงิน 2.4 หมื่นบาท ผู้ต้องหาเพิ่งพ้นโทษจากเรือนจำกลางคลองด่าน จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 18 ส.ค. 55 ในคดีลักทรัพย์ มีหมายจับคดีลักรถ 2 คดี คือ หมายจับที่ จ.930/2551 ศาลอาญาธนบุรี ลงวันที่ 18 ก.ย. 55 ท้องที่ สน.ท่าข้าม และหมายจับที่ จ.1016/2551 ศาลอาญากรุงเทพใต้ ลงวันที่ 3 พ.ย. 51 ท้องที่ สน.ลุมพินี หลังจากนี้จะควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สน.คลองตัน พร้อมทั้งประสานท้องที่ที่นายสุตาเคยก่อเหตุให้เดินทางมาอายัดตัวเพื่อดำเนินคดีต่อไป