โฆษก สตช.แถลงกรณีการก่อสร้างสถานีตำรวจ 369 แห่งที่มีปัญหาล่าช้า จ่อยกเลิกสัญญาการก่อสร้าง 99.99 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากพบว่าผู้รับเหมาทิ้งงานและผิดสัญญาชัดเจน อีกเรื่องหนึ่ง สตช.เตรียมบรรจุลูกตำรวจที่เสียชีวิตในหน้าที่เข้าเป็นตำรวจสัญญาบัตรจำนวน 23 รายเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้ตำรวจที่เสียสละ
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) วันนี้ (29 ม.ค.) พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงถึงกรณีการก่อสร้างสถานีตำรวจ 369 แห่งที่มีปัญหาล่าช้าว่า ในวันที่ 30 มกราคม นี้ ซึ่งเป็นวันครบกำหนดที่ พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รอง ผบ.ตร. มีคำสั่งให้แต่ละหน่วยส่งข้อมูลความล่าช้าของการก่อสร้างสถานีตำรวจมาให้พิจารณา เดิมทีกำหนดให้ส่งเพียงรายงานเอกสารหลักฐาน แต่ล่าสุดได้มีคำสั่งใหม่ให้ ผบก.อก.ของแต่ละกองบัญชาการนำเอกสารข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงด้วยตนเอง ซึ่งมีแนวโน้มถึงร้อยละ 99.99 ว่าจะต้องมีการยกเลิกสัญญา เนื่องจากกรณีนี้ผู้รับเหมาเป็นฝ่ายผิดสัญญาค่อนข้างชัดเจน
“เรื่องสำคัญในตอนนี้คือกระบวนการในการแก้ไขปัญหา โดยจะให้วิศวกรและสถาปนิกลงไปตรวจสอบเชิงลึกในทุกสถานีตำรวจ ซึ่งหากจะมีการยกเลิกสัญญาหรือฟ้องร้องก็ต้องมาว่ากัน หากจะมีการทำสัญญาใหม่ทั้งหมดก็จะมีขั้นตอนตามกฎหมายในการประมูลใหม่ หรือเรียกว่า อี-อ็อกชัน ซึ่งก็ต้องใช้เวลาอีก 85 วัน ซึ่งตรงนี้เป็นกระบวนการทั้งกฎหมาย โดย ผบ.ตร.ได้เน้นย้ำว่าการดำเนินการต้องถูกต้อง รอบคอบ และรวดเร็ว ท่านยังเน้นว่าต้องสร้างให้เร็วที่สุด เพื่อการบริการประชาชนเป็นหลัก และตำรวจจะได้มีสถานที่ทำงาน” โฆษก ตร.กล่าว และว่า นอกจากนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้จัดสรรงบประมาณในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าในการสร้างที่ทำการชั่วคราวให้สามารถรองรับการให้บริการประชาชน รวมทั้งให้ ผบช.และผบก.ลงไปช่วยดูแลด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้มีการวิเคราะห์ถึงสาเหตุของปัญหาความล่าช้าหรือไม่ พล.ต.ต.ปิยะกล่าวว่า สำหรับสาเหตุของปัญหาเรื่องนี้ได้มีการพูดคุยกัน ซึ่งปัญหาความล่าช้าในการก่อสร้างสถานีตำรวจมีหลายสาเหตุ เช่น ความไม่สามารถในการเข้าไปทำงานของผู้รับเหมา รวมทั้งการไปมีผู้รับเหมารายย่อยไปทำ ปัญหาการเข้าพื้นที่ไปทำงาน ซึ่งเรื่องนี้มีประเด็นย่อยอีกหลายๆ ส่วน อย่างไรก็ตาม คาดว่าในวันที่ 30 มกราคม นี้น่าจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจน
อีกเรื่องหนึ่ง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติเปิดเผยว่า พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.ได้มีคำสั่งบรรจุทายาทข้าราชการตำรวจที่เสียชีวิตเนื่องจากการปฏิบัติหน้าที่ เข้าเป็นตำรวจชั้นสัญญาบัตร จำนวน 23 ราย โดยแบ่งเป็นทายาทข้าราชการตำรวจที่เสียชีวิตในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวน 15 ราย จากกองบัญชาการอื่นๆ 8 ราย ทั้งนี้ ผบ.ตร.เน้นย้ำว่าเรื่องนี้เป็นขวัญกำลังใจ และเป็นการตอบแทนข้าราชการตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความกล้าหาญ เสียสละ ซึ่งให้ดำเนินการในทันที ไม่ต้องรอ โดยคณะกรรมการที่พิจารณาเรื่องนี้จะมีการประชุมพิจารณาทุกเดือน
