ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- ตำรวจสภ.เมืองโคราช รวบ 8 โจ๋แก๊ง “13 พระนคร”โหด ก่อเหตุไล่ฟันลูกชาย “ผกก.” ปางตาย รับสารภาพร่วมกันรุมทำร้ายจริง อ้างโกรธแค้น ถูกกลุ่มผู้บาดเจ็บไล่ทำร้ายและเผารถจยย.ก่อนและไม่ทราบเป็นลูกตำรวจ ด้านรองผู้การฯ ชี้เป็นคดีสะเทือนใจ ผู้ก่อเหตุล้วนเป็นเยาวชน วอนผู้ปกครองช่วยดูแลเอาใจใส่ลูกหลานให้มาก
วันนี้ (8 พ.ย.) เมื่อเวลา 16.00 น. ที่ห้องประชุมไทรงาม กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา พ.ต.อ.บุญเลิศ ว่องวัจนะ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด(รองผบก.ภ.จว.) นครราชสีมา พร้อมด้วย พ.ต.อ.วณัฐ อรรถกวิน รองผบก.ภ.จว.นครราชสีมา และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสภ.เมืองนครราชสีมาชุดจับกุม ร่วมกันแถลงผลการจับกุมกลุ่มวัยรุ่นอายุ 17-18 ปี ใช้ชื่อแก๊ง “13 พระนคร” ร่วมกันก่อเหตุใช้มีดไล่ฟัน นายคชินทร์ หรือ โต๋ จิตรแจ้ง อายุ 16 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเอกชนชื่อดังของจังหวัดนครราชสีมา บุตรชาย พ.ต.อ.ชนินทร์ จิตรแจ้ง ผู้กำกับการ (ผกก.) สภ.โนนนารายณ์ จ.สุรินทร์ ได้รับบาดเจ็บสาหัส เช้ามืดวันที่ 7 พ.ย.ที่ผ่านมา
ได้ผู้ต้องหาเป็นวัยรุ่นทั้งหมดจำนวน 8 คน ได้แก่ นายกิตติโชค หรือโชค พูลสวาย, นายวรเชษฐ์ หรือโอ๊ต อริยะพรรณ, นายอินทร์ชัย หรือโค๊ก รามัญกิจ นายรัตติชัย หรือนาย สดชื่น ทั้งหมดอายุ 18 ปีเศษ และเป็นเยาวชนอายุ 17 ปี ได้แก่ นายเก่ง(นามสมมุติ), นายบอย(นามสมมุติ),นายชาย(นามสมมุติ),นายหนึ่ง(นามสมมุติ) ทั้งหมดเป็นชาว จ.นครราชสีมา พร้อมของกลางอาวุธปืนไทยประดิษฐ์จำนวน 1 กระบอก , มีดยาว 45 ซม.จำนวน 1 เล่ม และ อุปกรณ์ดัดแปลงเป็นบ้องเสพกัญชา และเสื้อเชิ้ตที่สวมใส่ในวันก่อเหตุ โดยเจ้าหน้าที่ตั้งข้อกล่าวหา “ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น”
จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมด ให้การรับสารภาพว่า ได้รวมตัวกันตั้งแก๊งชื่อ “13 พระนคร” โดยมี นายกิตติโชค หรือ โชค พูลสวาย เป็นหัวหน้าแก๊ง และได้ร่วมกันก่อเหตุใช้มีดไล่ฟัน พร้อมรุมทำร้าย ฟัน นายคชินทร์ หรือ โต๋ จิตรแจ้ง อายุ 16 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัสจริง เนื่องจากก่อนหน้านี้กลุ่มของ นายโต๋ เคยมารุมทำร้าย เผารถจักรยานยนต์กลุ่มพวกตน
โดยในวันเกิดเหตุหลังจากเล่นเกมที่ร้านเกมแห่งหนึ่งใน ต.หนองไผ่ล้อม อ.เมือง จ.นครราชสีมา ได้พบกับกลุ่มนายโต๋ และเห็นว่ารถจักรยานยนต์ที่นายโต๋ขับแยกตัวออกจากกลุ่ม จึงตามไปรุมทำร้าย โดยนายกิตติโชค หัวหน้าแก๊ง พร้อมนายบอย และ นายชาย เป็นผู้ลงมือ ก่อนหลบหนีไปและมาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้ดังกล่าว และ ไม่ทราบว่า นายโต๋ เป็นลูกของนายตำรวจแต่อย่างใด
ด้าน พ.ต.อ.วณัฐ อรรถกวิน รอง ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา กล่าวว่า คดีดังกล่าวเป็นคดีที่สะเทือนใจเพราะผู้ก่อเหตุล้วนเป็นเยาวชนซึ่งอยู่ในวัยเรียนแต่ทั้งหมดไม่ได้ไปเรียนหนังสือกลับไปมั่วสุมกันเล่นเกมและรุมทำร้ายกัน ซึ่งเป็นปัญหาสังคมที่ทุกคนต้องช่วยกันแก้ไขและไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างแก่เยาวชนคนอื่น โดยเฉพาะพ่อแม่ผู้ปกครองจะต้องเอาใจใส่ดูแลบุตรหลานให้มากกว่านี้ เพื่อไม่ให้ไปก่อเหตุที่ผิดกฎหมายขึ้น
คดีนี้ชุดสืบสวนได้เร่งทำการสืบสวนจนทราบว่าผู้ต้องหาทั้งหมดเป็นเยาวชนและจับกลุ่มกันกระทำสิ่งผิดกฎหมาย ซึ่งไม่ใช่เพราะเป็นคดีการทำร้ายลูกตำรวจที่สามารถจับกุมได้เร็ว แต่ทุกคดีตำรวจให้ความสำคัญเท่าเทียมกัน แต่คดีนี้อยากให้ทุกฝ่ายช่วยกันเอาใจใส่ดูแลเยาวชน บุตรหลานของตัวเองให้มากเพื่อไม่ให้มีเหตุการณ์ซ้ำรอยขึ้นอีก จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป
