ศาลนัดไกล่เกลี่ย “มาร์ค” ฟ้อง “ตู่-จตุพร” อีกครั้ง 8 มี.ค.นี้ เจ้าตัวเผยอาจจะแถลงขอโทษและถอนคำพูด พร้อมปัดกระแสข่าวเป็นแกนนำล้ม “รัฐบาลปู”
วันนี้ (29 ม.ค.) ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดไกล่เกลี่ย คดีหมายเลขดำที่ อ.4176/2552 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำกลุ่ม นปช. เป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นด้วยการโฆษณา
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 11 และ 17 ตุลาคม 2552 เวลากลางวันและกลางคืนต่อเนื่องกัน จำเลยได้ปราศรัยให้ประชาชนทั่วไปที่ฟังและชมการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์พีเพิลแชนเนลเข้าใจว่าโจทก์เป็นอาชญากรสั่งฆ่าประชาชนอย่างเลือดเย็น โจทก์สร้างสถานการณ์ฯ คำปราศรัยของจำเลยเป็นความเท็จทั้งสิ้น ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นและถูกเกลียดชัง เหตุเกิดที่ลานอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนินกลาง แขวงบวรนิเวศน์ เขตพระนคร และหน้าทำเนียบรัฐบาล ถนนพิษณุโลก แขวงดุสิต เขตดุสิต กรุงเทพฯ และทุกแขวงทุกเขต ทุกตำบล ทุกอำเภอ ทุกจังหวัด ทั่วราชอาณาจักร ขอให้ลงโทษตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326, 328, 332
โดยวันนี้ นายจตุพรและทีมทนายความจำเลยเดินทางมาศาล ส่วนฝ่ายโจทก์มีนายบัณฑิต ศิริพันธุ์ ทนายความได้รับมอบอำนาจจากนายอภิสิทธิ์ เป็นผู้เจรจาไกล่เกลี่ย จากนั้นฝ่ายจำเลยแถลงต่อศาลว่ามีความประสงค์จะเจรจาประนอมข้อพิพาท โดยเสนอว่าจะแถลงการณ์ต่อสาธารณะในลักษณะถอนข้อความเช่นเดียวกับการถอนคำพูดในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร และปรับความเข้าใจกับโจทก์ ส่วนในรายละเอียดจำเลยขอเชิญโจทก์มาศาลในนัดหน้า เพื่อเจรจาประนอมข้อพิพาท หากไม่สามารถตกลงกันได้ จำเลยพร้อมที่จะอ้างตนเองเป็นพยานเพียงปากเดียว
ส่วนฝ่ายโจทก์แถลงว่า ขอให้จำเลยแถลงต่อสาธารณะว่าข้อความดังกล่าวไม่เป็นความจริง และแสดงความขอโทษ รวมทั้งให้ระบุว่าจำเลยจะไม่กล่าวข้อความในลักษณะที่ปรากฏในคำฟ้องอีก โดยโจทก์ตกลงจะเดินทางมาด้วยตนเองในนัดหน้าเพื่อเจรจาข้อพิพาท
ศาลพิเคราะแล้วห์เห็นว่า คู่ความประสงค์จะเจรจาประนอมข้อพิพาทกัน หากสามารถตกลงกันได้จะเป็นประโยชน์แก่คู่ความ เห็นควรให้เลื่อนนัดไกล่เกลี่ยไปอีกครั้งในวันที่ 8 มี.ค. 09.30 น. โดยจะยกเลิกนัดสืบพยานโจทก์ในวันพรุ่งนี้ (30 ม.ค.) ออกไป และกำชับให้จำเลยมาศาล
นายจตุพรกล่าวภายหลังออกจากห้องพิจารณาคดีว่า ศาลต้องการให้เกิดบรรยากาศของการไกล่เกลี่ยทั้งสองฝ่าย เพราะตนและนายอภิสิทธิ์มีคดีหมิ่นประมาทที่ฟ้องร้องกันอยู่ในศาลรวม 4 คดี ถ้าวันที่ 8 มี.ค.ไม่สามารถเจรจาตกลงกันได้ ตนก็จะเป็นพยานฝ่ายจำเลยเพียงปากเดียวเพื่อเบิกความในชั้นศาล ส่วนข้อเสนอที่โจทก์ต้องการให้ขอโทษและให้ตนแถลงต่อสาธารณะว่าสิ่งที่กล่าวออกไปไม่เป็นความจริงนั้นอาจจะเป็นไปได้ และศาลนัดให้มาพูดคุยไกล่เกลี่ยกันในนัดหน้า ถ้าตกลงกันได้คดีก็เป็นอันยุติ
นอกจากนี้ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ยังกล่าวถึง กระแสข่าวลือที่ว่านายจตุพรเป็นแกนนำในการล้มรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หากไม่แก้รัฐธรรมนูญและออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรมให้คนเสื้อแดง ว่า ยืนยันตนไม่ได้เป็นแกนนำในการที่จะล้มรัฐบาลอย่างแน่นอน คาดว่ากระแสข่าวลือดังกล่าว เป็นการปล่อยข่าวจากฝ่ายตรงข้ามที่ต้องการเสี้ยมให้เกิดความขัดแย้งระหว่าง นปช.และรัฐบาล โดยระบุว่าตนนั้นเป็นส่วนหนึ่งของพรรคเพื่อไทย และระหว่าง นปช.กับพรรคเพื่อไทยก็มีการพูดคุยหารือกันมาโดยตลอด แม้จะมีเรื่องที่มีความเห็นไม่ตรงกันก็สามารถพูดคุยหาทางออกได้เสมอ
ทั้งนี้ ในส่วนของพระราชกำหนดนิรโทษกรรมนั้น อยู่ระหว่างเตรียมการหารือกับนายกรัฐมนตรีถึงแนวทางในการที่จะออก พ.ร.ก.นิรโทษกรรม ว่าขัดต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญหรือไม่ โดยนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ รับเป็นคนกลางในการประสาน และนัดหมายวันเวลาในการพูดคุยเรื่องดังกล่าวแล้ว