ตำรวจแห่งชาติวันนี้ “หัวโต-พุงโร-ขาลีบ”

ตรงเป้า

ศรรามา

โพลสำนักต่างๆ ทะลักสู่สังคม อ้างไปสำรวจความเห็นของประชาชนไม่กี่ร้อยกี่พันคน แล้วเอาผลมาเผยแพร่ทำนองว่าเสียงส่วนใหญ่เขาว่ายังงั้นยังงี้ ทั้งๆ ที่เอาคำถามชนิดสุนัขไม่รับประทานไปป้อนให้เขา

อย่างเช่น คุณสงสารนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อย่างไรบ้าง คนตั้งคำถามน่าจะถามตัวเองว่าแล้วมันเกิดประโยช์อะไรแก่สังคมบ้าง

หรืออย่างโพลสำนักหนึ่ง ตั้งคำถามยกยอปอปั้นนักโทษหนีคุกเป็นยอด CEO นายกรัฐมนตรีประเทศไทย แล้วเจ้าสำนักก็ออกมาปฏิเสธด้านๆ ไม่ได้เป็นโพลรับจ้าง และสำนักไหนไม่รู้เชิดชูเลียแข้งเลียขาอย่างออกหน้าบอกว่าผลงานสร้างสรรค์ของรัฐบาลชุดนี้ คือ“การจำนำข้าว”

ในกระบวนสารพัดโพลนั้น มีอยู่โพลเดียวทำหน้าที่เป็นปากเสียงของประชาชน “สำนักงานสถิติแห่งชาติ” เป็นผู้สำรวจ แต่ไม่ใช้ชื่อ “สถิติโพล”

ทำมาหลายปีแล้ว แต่ไม่เป็นข่าวเพราะสถิติแห่งชาติไม่เคยแถลงสำรวจเสร็จก็ข้ามหัวประชาชนรายงานตรงต่อคณะรัฐมนตรี

ปีนี้สถิติแห่งชาติสำรวจเป็นรายครัวเรือนทั่วประเทศทั้งหมด 23,120 ราย ระหว่างวันที่ 1-12 ตุลาคม 2555 เป้าประสงค์เพื่อให้ประชาชนสะท้อนปัญหาและความต้องการให้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นสำนักงานสถิติแห่งชาติเขาได้ตัวเลขมาอย่างนี้

ชุมชนและหมู่บ้านได้รับความเดือดร้อน

ปัญหายาเสพติด ร้อยละ 34.2 ปัญหาน้ำท่วม ร้อยละ 26.8 ปัญหาความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ร้อยละ 25.6 ปัญหาหนี้สิน ร้อยละ 22.4 และปัญหาการจราจรติดขัด ร้อยละ 18.6

ภาคกลางและ กทม.ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหายาเสพติดมากที่สุด ร้อยละ 35.3 และ 34.3 ตามลำดับ ภาคใต้และภาคเหนือได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาผลผลิตการเกษตรราคาตกต่ำ ร้อยละ 44.0 และ 36.2 ตามลำดับ ส่วนภาคอีสานเดือดร้อนจากปัญหาหนี้สินมากที่สุด ร้อยละ 37.1

ประชาชนต้องการให้รัฐบาลดำเนินการในปี 2556

แก้ปัญหาของแพง ร้อยละ 40.9 แก้ปัญหาหนี้สิน ร้อยละ 24.2 แก้ปัญหายาเสพติด ร้อยละ 23.1 แก้ปัญหาการจราจรติดขัด ร้อยละ 18.1 และแก้ปัญหาความยากจน ร้อยละ 18.0

เรื่องเร่งด่วนที่ประชาชนต้องการให้รัฐบาลดำเนินการช่วยเหลือ เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ 2556

แก้ปัญหายาเสพติด ร้อยละ 28.6 แก้ปัญหาน้ำท่วม ร้อยละ 20.4 แก้ปัญหาหนี้สิน ร้อยละ 18.5 สร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ร้อยละ 16.8 และแก้ปัญหาการจราจรติดขัด ร้อยละ 15.4

ประชาชนภาคกลาง และ กทม.ต้องการให้รัฐบาลแก้ปัญหายาเสพติดมากที่สุด ร้อยละ 34.1และ 28.6 ตามลำดับขณะที่ภาคอีสานและภาคเหนือให้แก้ปัญหาหนี้สินอย่างเร่งด่วนมากกว่าเรื่องอื่นร้อยละ 32.9 และ 32.1 ส่วนภาคใต้ให้ประกันราคาผลผลิตการเกษตรมากที่สุดร้อยละ 39.2

นี่คือ โพลบริสุทธิ์สะท้อนความเดือดร้อนของประชาชนทั่วประเทศรัฐบาล “พี่คนแรก” ของนายกรัฐมนตรี “ปูกรรเชียง” รับทราบตั้งแต่วันที่ 18 ธันวาคมที่ผ่านมา แต่ประชาชนไม่เคยได้ยินเสียง “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” เอ่ยเอื้อนว่าจะแก้ปัญหาความเดือดร้อนเหล่านี้อย่างไร

เช่นเดียวกับ “กันชนตระกูลชิน”หรือ “ขี้ข้าทักษิณ” ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องในการแก้ปัญหาโดยตรงทั้งเรื่องยาเสพติดการจราจรความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินก็ไม่เคยกล่าวถึงเรื่องเหล่านี้

เมื่อนายกรัฐมนตรีไม่สนใจไยดีรองนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลตำรวจก็มองผ่านเหมือนปัญหาเหล่านั้นคือความว่างเปล่าก็ต้องเป็นหน้าที่ของ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.ที่จะขจัดปัดเป่าปัญหาในส่วนที่ตำรวจรับผิดชอบโดยเร็วที่สุด

ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินเป็นปัญหาพื้นฐานของสังคมตำรวจโรงพักต้องเป็นพระเอกไม่ใช่ปล่อยให้โจรเป็นพระเอกแล้วตำรวจเป็นผู้ร้ายการคัดเลือกตำรวจโรงพักตั้งแต่ปีใหม่นี้ต้องใช้หลักเกณฑ์ของ พล.ต.อ.ชาญชิต เพียรเลิศ อย่างเคร่งครัด

อันที่จริงโครงสร้างของสำนักงานตำรวจแห่งชาติทุกหน่วยงานก็น่าจะเสริมสร้างความสงบสุขในสังคมได้แต่ปรากฏว่าตั้งขึ้นมาแล้วก็หาผลงานไม่เจอ “สำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจ” เป็นหน่วยงานระดับกองบัญชาการมีกองบังคับการในสังกัดเอ่ยชื่อแล้วก็น่าจะมีส่วนทำให้โจรผู้ร้ายลดลลงได้ระดับหนึ่ง เช่น “กองแผนงานอาชญากรรม” มีกลุ่มงานป้องกันอาชญากรรม กลุ่มงานป้องกันอาชญากรรมพิเศษและกลุ่มงานการมีส่วนร่วมของประชาชนส่วน“กองแผนงานกิจการพิเศษ” มีกลุ่มงานจราจร กลุ่มงานความมั่นคง และกลุ่มงานบริการประชาชน”

หรืออย่าง “จเรตำรวจ” เป็นหน่วยงานที่มีนายพลมากที่สุด จเรตำรวจแห่งชาติยศพลตำรวจเอก 1 นาย รองจเรตำรวจแห่งชาติเทียบเท่าผู้ช่วย ผบ.ตร.ยศพลตำรวจโท 2 นายจเรตำรวจ สบ 8 เทียบเท่าผู้บัญชาการ ยศพลตำรวจโท 10 นาย จเรตำรวจ สบ 7 เทียบเท่ารองผู้บัญชาการยศพลตำรวจตรี 10 นาย จเรตำรวจระดับผู้บังคับการอีก 11 นาย เฉพาะนายพลปาเข้าไป 34 นาย

เอาพลตำรวจโทไปตรวจงานโรงพักแล้วตำรวจโรงพักดีขึ้นไหม

สำนักงานจเรตำรวจยังมีกองกำกับการชื่อ กก.รับเรื่องราวร้องทุกข์คอยรับเรื่องร้องทุกข์จากประชาชนแต่ชาวบ้านไม่เคยรู้เลยว่าหน่วยงานนี้ตั้งอยู่ที่ไหน

สำนักงานตำรวจแห่งชาติวันนี้ คือ ตัวประหลาด “หัวโต พุงโร ขาลีบ” หลายหน่วยงานที่ไร้ประสิทธิภาพคือส่วนของหัวที่โตผิดปกติไม่ว่าจะเป็นสำนักงานจเรตำรวจ หรือสำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจส่วนหน่วยงานพุงโรจะอยู่ที่ตำรวจสอบสวนกลางตำรวจภูธร ตำรวจนครบาลก็นี่แหละที่ทำให้ส่วนขาลีบเรียวไม่สามารถรับน้ำหนักส่วนหัวกับส่วนพุงได้ การเป็นตำรวจของประชาชนจึงไปไม่ถึงฟากฝั่ง

มีทางเดียวเท่านั้นต้องผ่าตัดขนานใหญ่รื้อโครงสร้างใหม่อีกครั้งยุบหน่วยงานที่ไร้ประสิทธิภาพลดทอนหน่วยงานที่ใหญ่เกินตัว แต่ไม่มีประโยชน์ต่อประชาคมกวดขันระเบียบวินัยและความความประพฤติของตำรวจที่อยู่ใกล้ชิดประชาชนปรับเปลี่ยนให้ส่วนหัว ส่วนท้องและส่วนขามีสัดส่วนเป็นปกติเหมือนมนุษย์ทั่วไป รวมทั้งผ่าตัดหัวใจให้เป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์อย่างแท้จริง.