“อดุลย์” สั่ง ตร.จัดการแก๊งโอรสแล้ว ด้าน “เหลิม” กำชับกลางที่ประชุม ก.ตร.ให้ติดตามเรื่องนี้ รอง ผกก.สส.บก.น.7 เผยคนที่อยู่ในรูปไม่ได้อยู่ในเขตพื้นที่ บก.น.7 แล้ว ชี้จับไม่ได้เพราะคนในรูปไม่ได้มีหมายจับ แต่จะเร่งนำตัวมาสอบสวน ด้านผู้การฯ ปอท.ชี้ไม่เข้าข่ายผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ แต่เสนอไปยังกระทรวงไอซีทีให้บล็อกเว็บไซต์ที่เผยแพร่ภาพดังกล่าวแล้ว
จากกรณีการเผยแพร่ภาพอันไม่เหมาะสมของบรรดาสมาชิกแก๊งโอรส ที่ออกมาประกาศศักดากันในโลกโซเชียลมีเดีย อันเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของสังคมออนไลน์ในวงกว้าง และทีมงาน Live Manager ได้นำเสนอไปก่อนหน้านี้นั้น
ล่าสุด วันนี้ (24 ธ.ค.) มีความคืบหน้าจากทางตำรวจในฐานะผู้รักษากฎหมาย โดย พล.ต.ต.พิศิษฐ์ เปาอินทร์ ผู้บังคับการกองปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) กล่าวถึงกรณีปรากฏการแพร่ภาพการเสพยาเสพติดของแก๊งโอรส ทางโซเชียลมีเดียว่าตนได้ตรวจสอบภาพดังกล่าวแล้ว พบว่าการกระทำไม่เข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เพราะไม่เข้าข่ายการนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จซึ่งเป็นฐานความผิดตามกฎหมายนี้ แต่เป็นกรณีที่พวกเขาระบุว่ามีการเสพยาเสพติด ซึ่งในส่วนนี้ตำรวจนครบาลจะเป็นผู้รวบรวมพยานหลักฐานเอาผิดเรื่องของการเสพยาเสพติด ซึ่งก็ต้องว่าไปตามพยานหลักฐาน แต่การเผยแพร่ภาพการเสพยาเสพติดดังกล่าวนั้นถือเป็นการนำเข้าข้อมูลที่ขัดต่อความสงบเรียบร้อย ซึ่งทาง ปอท.ได้เสนอข้อมูลต่อกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือไอซีที ให้ดำเนินการบล็อกเว็บไซต์ที่มีการเผยแพร่ภาพดังกล่าวแล้ว
ด้าน พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ได้กำชับเรื่องนี้ในที่ประชุม ก.ตร. ซึ่ง พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.ได้สั่งการให้ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น.เร่งดำเนินการตรวจสอบสมาชิกแก๊งดังกล่าว โดยให้นำตัวมาทำประวัติ ตรวจสอบว่าแต่ละคนมีคดีติดตัวหรือไม่ หากพบก็ให้ดำเนินคดี ส่วนเรื่องภาพการเสพยาเสพติดก็ต้องว่ากันไปตามพยานหลักฐาน ทั้งนี้ ผบ.ตร.ได้กำชับว่าตำรวจต้องทำกฎหมายให้เป็นกฎหมาย ให้เร่งดำเนินการโดยเร็วที่สุด
ด้าน พ.ต.ท.ชนะชัย ไชยทอง รอง ผกก.สส.บก.น.7 กล่าวว่า พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น.ได้กำชับให้ดูแลและติดตามเกี่ยวกับประเด็นที่เกิดขึ้น ซึ่งจากการสืบสวนทราบว่าคู่กรณี 2 คนดังกล่าวนั้นแต่ก่อนเป็นกลุ่มแก๊งเดียวกันอยู่ในสมาชิกแก๊งโอรส มีส่วนเกี่ยวพันกับยาเสพติดและส่วนใหญ่ในแก๊งก็ถูกต้องโทษกันมาทั้งนั้น ต่อมาได้แตกคอกันระหว่างคู่กรณีทั้ง 2 คนในเรื่องผู้หญิง เลยเกิดการท้าทายกันขึ้นในโลกออนไลน์
“การโพสต์รูปภาพที่มีการโชว์ยาเสพติดนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจคงจะทำดำเนินการอะไรไม่ได้ เพราะมันเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี และคนที่อยู่ในรูปหรือโพสต์ก็ไม่ได้มีหมายจับแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจพยายามเร่งรัดติดตามตัวทั้ง 2 คนมาสอบสวน ซึ่งทราบว่าขณะนี้ทั้งคู่และหัวโจกคนอื่นๆ อาจไม่ได้อยู่ในพื้นที่ บก.น.7 แล้ว” รอง ผกก.สส.บก.น.7 ระบุ
นอกจากนี้ สมาชิกในแก๊งโอรสส่วนใหญ่จะไปรู้จักกันตั้งแต่อยู่ในเรือนจำ เมืออออกมาก็รวมกลุ่มกัน แต่บางคนก็แยกตัวออกไปแล้วบ้างก็มี ส่วนที่ว่ามีผู้ติดตามดูในโลกออนไลน์เป็นจำนวนมากนั้น คิดว่าเป็นการท้าทายกันเองระหว่างคู่กรณีที่มีปัญหากัน แต่คนทั่วไปได้ติดตามเข้าไปดูกันเองเลยทำให้พวกนี้คิดว่าเป็นความเท่ จึงมีการท้าทายกันไปกันมา ถ้าหากผู้ติดตามไม่สนใจมากนักอาจทำให้คนโพสต์เบื่อไปเองก็ได้