อัยการนำตัว “ปลอดประสพ” ส่งฟ้องศาลคดีทุจริตส่งเสือโคร่งเบงกอลไปจีน 100 ตัว ภายหลังทนายยื่นหลักทรัพย์ 1.2 แสนบาทขอประกันตัว ศาลนัดตรวจหลักฐาน 22 เม.ย.ปีหน้า
ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก วันนี้ (19 ธ.ค.) ร.ต.อ.ปรีเชาว์ พิพัฒนพานิช พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 2 ได้นำตัวนายปลอดประสพ สุรัสวดี อายุ 67 ปี รองนายกรัฐมนตรี พร้อมสำนวนมายื่นฟ้องเป็นจำเลยต่อศาล ในความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157
คดีนี้อัยการโจทก์ฟ้องว่า เมื่อระหว่างวันที่ 9 ก.ย. 2545 ถึง 24 ธ.ค. 2545 ขณะนั้นดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมป่าไม้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กับนายมานพ เลาห์ประเสริฐ เจ้าหน้าที่บริหารงานป่าไม้ระดับ 7 ซึ่งเป็นจำเลยของศาลอาญาคดีดำ อ.102/55 ได้ร่วมกันกระทำผิดกฎหมาย กล่าวคือ บริษัท ศรีราชา ไทเกอร์ซู จำกัด ได้ยื่นคำร้องขอรับใบอนุญาตส่งออกเสือโคร่งพันธุ์เบงกอลจำนวน 100 ตัว ที่ได้จากการเพาะพันธุ์ในสวนสัตว์ของบริษัทศรีราชาฯ ผ่านนายมานพ จนถึงจำเลยในฐานะอธิบดีกรมป่าไม้ ไปยังบริษัท ซันย่า ไมตรี คอนเซป จำกัด ประเทศจีน โดยนายไมตรี เต็มศิริพงศ์ หรือนายจาง เสียงเซ่ง กรรมการผู้มีอำนาจ เพื่อเพาะเลี้ยงและขยายพันธุ์ภายในระยะเวลา 3 เดือน ระหว่าง ต.ค.-ธ.ค. 2545 ต่อมานายมานพซึ่งปฏิบัติงานในหน้าที่หัวหน้าสำนักงานอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศ ได้ทำหนังสือเสนอต่อจำเลยเพื่อพิจารณาอนุมัติในการส่งเสือโคร่งจำนวนดังกล่าว กระทั่งวันที่ 2 ต.ค. 2545 จำเลยได้พิจารณาอนุญาตให้ส่งเสือโคร่งจำนวน 100 ตัวดังกล่าวได้ ทั้งนี้จำเลยไม่ได้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข ตามที่กฎหมายระเบียบ และมีคำสั่งโดยไม่ได้ใช้ดุลยพินิจภายใต้พื้นฐานของกฎหมายและระเบียบต่างๆ และไม่ปรากฏกับความสมเหตุสมผลในการใช้ดุลพินิจ และไม่พิจารณาตรวจสอบข้อเท็จจริงซึ่งปรากฏภายหลังอย่างชัดเจนว่าการขออนุญาตส่งเสือโคร่งไปยังบริษัทซันย่าเป็นการกระทำเพื่อประโยชน์อันลักษณะอันเป็นการค้า ซื้อขาย แลกเปลี่ยน จำหน่ายจ่ายแจก เพื่อผลประโยชน์ทางการค้า ทั้งจำเลยกับนายมานพไม่ได้คำนึงถึงกรณีที่ประเทศไทยถูกเหล่าสมาชิกภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดของสัตว์ปีกและสัตว์ป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ (Cites) ต่อมาพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์และส่งเรื่องไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. พิจารณา เห็นว่าการกระทำของจำเลยมีมูลความผิด โจทก์จึงขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พ.ศ. 2542 จึงให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ด้วย โดยศาลรับคำฟ้องไว้พิจารณาเป็นคดีดำ อ.4750/55 และสอบคำให้การซึ่งจำเลยแถลงให้การปฏิเสธขอต่อสู้คดี และได้จัดเตรียมทนายความไว้แก้ต่างคดีแล้ว ศาลจึงนัดตรวจพยานหลักฐานทั้ง 2 ฝ่าย วันที่ 22 เม.ย. 2556 เวลา 09.00 น.
ต่อมานายวัชรินทร์ อธิพรชัย ทีมทนายความนายปลอดประสพได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสดจำนวน 2 แสนบาท ขออนุญาตปล่อยชั่วคราว โดยศาลพิเคราะห์แล้วอนุญาตให้นายปลอดประสพประกันตัวไป โดยตีราคาประกัน 1 แสน 2 หมื่นบาทด้วย
นายปลอดประสพเปิดเผยภายหลังได้รับการปล่อยชั่วคราวว่า รู้สึกดีใจเพราะจะได้พิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนเองในชั้นศาลตามกระบวนการยุติธรรม ซึ่งตนรอคอยวันนี้มากว่า 10 ปี แล้ว ที่ผ่านมายืนยันว่าตนไม่มีความผิด เพราะปฏิบัติตามหน้าที่มาโดยตลอด และการส่งเสือโคร่งไปยังประเทศจีนก็ไม่เป็นความผิด หากใครกล่าวหาว่าตนมีความผิดก็ขอให้นำหลักฐานมายืนยันว่าเรื่องดังกล่าวมีความเสียหายอย่างไร
ด้านนายสมศักดิ์กล่าวว่า ตนไม่หนักใจกับคดีนี้ คดีไม่มีความซับซ้อนอะไร หลังจากนี้จะต้องไปหารือกับนายปลอดประสพเพื่อเตรียมพยานหลักฐานมานำสืบต่อสู้คดี โดยนายปลอดประสพยืนยันในความบริสุทธิ์ของตนเอง