xs
xsm
sm
md
lg

ตร.เซ็นเอ็มโอยูสถานีผู้พิทักษ์ถนนปลอดภัย

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


“ผบ.ตร.” พร้อมผู้แทนสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ และบริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ ร่วมลงนามความร่วมมือ “สถานีผู้พิทักษ์ถนนปลอดภัย” ภายใต้โครงการป้องกันและลดการตายจากอุบัติเหตุทางถนนแบบบูรณาการในพื้นที่นำร่อง

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 18 ธ.ค. สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และบริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ ได้ร่วมกันลงนามความร่วมมือ “สถานีผู้พิทักษ์ถนนปลอดภัย” ภายใต้โครงการป้องกันและลดการตายจากอุบัติเหตุทางถนนแบบบูรณาการในพื้นที่นำร่อง โดยภายในงานมีพิธีมอบตราสัญลักษณ์โครงการให้ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาคต่างๆ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ผู้จัดการภาคและตัวแทนบริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด

นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า การที่รัฐบาลได้กำหนดให้การณรงค์ลดอุบัติเหตุเป็นวาระแห่งชาติ และให้หน่วยงานทุกภาคส่วนร่วมรณรงค์อย่างต่อเนื่อง โดยเริ่มดำเนินมาตั้งแต่ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2555 ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขตระหนักถึงความสำคัญในการทำงานร่วมกับภาครัฐและเอกชนด้วยเป้าหมายเดียวกัน จึงร่วมลงนามในโครงการป้องกันและลดการตายจากอุบัติเหตุทางถนนแบบบูรณาการ เพื่อดำเนินการในปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุทางถนนในอันดับต้นๆ ใน 4 ประเด็น คือ การสวมหมวกนิรภัย การคาดเข็มขัดนิรภัย การดื่มแล้วขับ และการขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนด ซึ่งจะดำเนินการใน 15 จังหวัดนำร่อง โดยเน้นการพัฒนาลดอุบัติเหตุร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติและหน่วยงานอื่น และข้อมูลที่ได้จากจังหวัดนำร่องจะนำไปอ้างอิงและวิเคราะห์เพื่อเป็นแนวทางพัฒนาจังหวัดอื่นๆ โดยตั้งเป้าลดอุบัติเหตุลงครึ่งหนึ่งในทศวรรษนี้ คือสามารถลดอัตราการตายจากอุบัติเหตุทางถนนไม่เกิน 10 คนต่อประชากรแสนคน

พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ตนมีประสบการณ์และได้ขับเคลื่อนโครงการเมาไม่ขับมาตั้งแต่ปี 2541 ซึ่งภารกิจลดอุบัติเหตุนอกจากจะเป็นวาระแห่งชาติแล้ว ยังถือเป็นการทำบุญอีกด้วย เพราะตัวเลขผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บแต่ละปีมีจำนวนมาก การดำเนินการภารกิจนี้หน่วยงานเดียวดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพไม่ได้ ต้องตระหนักและบูรณาการร่วมกันทุกหน่วยงาน โดยในส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะปฏิบัติหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย เช่น กวดขันวินัยจราจร ตรวจจับความเร็ว จับผู้ขับขี่ไม่สวมหมวกกันน๊อค ฯลฯ และกำหนดให้ทุกสถานีตำรวจรายงานผลการปฏิบัติงานด้านจราจรเป็นประจำในรอบเดือน และรอบปีเช่นเดียวกับกลุ่มคดีอาญา 5 ประเภท

ศ.นพ.อุดมศิลป์ ศรีแสงนาม ที่ปรึกษาคณะกรรมการกองทุน สสส.กล่าวว่า ปัจจุบันมีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน วันละ 25-30 คน หรือเฉลี่ยชั่วโมงละ 1 คน และทำให้มีผู้พิการรายใหม่ ปีละ 5,000 กว่าราย คิดเป็นมูลค่าความสูญเสีย 2 แสนล้านบาทต่อปี หรือคิดเป็นร้อยละ 2.8 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติ (จีดีพี) ความร่วมมือในครั้งนี้ สสส.จะสนับสนุนการพัฒนาตัวชี้วัด การประเมินผลและถอดบทเรียน บริษัทกลางฯ สนับสนุนการพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสาร พร้อมทั้งหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ งานนี้นับเป็นการต่อยอดจากงานที่ผ่านมา ที่ สสส.ร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดำเนินโครงการ “365 วันอันตราย หยุดความตายด้วยวินัยจราจร” และ “พัฒนาระบบงานสืบสวนอุบัติเหตุทางถนน เพื่อการแก้ไขและป้องกันอย่างบูรณาการ” และสามารถพัฒนาระบบ วางแนวทางบังคับใช้กฎหมายให้ตรงกับสภาพปัญหา เชื่อมโยงกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น แขวงการทาง ขนส่งจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นต้น

นายนพดล สันติภากรณ์ กรรมการผู้จัดการบริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ กล่าวว่า บริษัทกลางฯ ได้มีส่วนร่วมสนับสนุนเรื่องความปลอดภัยทางถนน โดยรวบรวมข้อมูล สถิติการเกิดอุบัติเหตุ ไว้ในเว็บไซต์ Thairsc.com เพื่อเป็นประโยชน์ต่อหน่วยงานต่างๆ ในการนำข้อมูลมาวิเคราะห์ วิจัย นอกจากนี้ยังได้สนับสนุนในการสร้างและพัฒนาระบบโปรแกรมการบันทึกข้อมูลการเกิดอุบัติเหตุให้กับสถานีตำรวจที่เข้าร่วมโครงการนี้ เพื่อนำไปสู่การพัฒนาการดำเนินงานด้านการจัดการความปลอดภัยทางถนน
พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. ลงนาม MOU ด้านความปลอดภัย
กำลังโหลดความคิดเห็น