“ไอ้เณรเถื่อน” โผล่มอบตัวแล้ว หลังเมากร่างชกสัตวแพทย์

“พลทหารฉาว” โผล่มอบตัวแล้ว! หลังจากมีคลิปชายแต่งกายคล้ายทหารขับรถปาดหน้าตบ ตีหญิงสาวโผล่ว่อนโซเชียลมีเดีย รองโฆษกกองทัพบก ลั่น! คนผิดเป็นทหารจริง แต่เป็นเพียงพลทหารที่เตรียมปลดประจำการ เผยต้นสังกัดได้เรียกไปคุยแล้ว ย้ำโทษถึงจำขังฐานทำกองทัพเสื่อมเสีย

วันนี้ (13 ธ.ค.) หลังจากช่วงเช้าที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้มีผู้โพสต์คลิปบันทึกเหตุการณ์ชายอ้างตัวเป็นทหารสังกัดหน่วยทหารแห่งหนึ่ง สวมชุดครึ่งท่อนคล้ายทหารและมีอาการคล้ายคนเมาสุรา ขับรถเก๋งยี่ห้อนิสสัน สีบรอนซ์ ปาดหน้ารถคู่กรณีซึ่งมีหญิงสาวเป็นผู้ขับขี่ ก่อนลงมาพยายามเปิดประตู ฉุดกระชากพร้อมทั้งลงมือตบตีทำร้ายร่างกายคู่กรณี พร้อมท้าให้ไปแจ้งความกับตำรวจ เหตุเกิดเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา

ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความต่อ สภ.เมืองนนทบุรี โดยมีหลักฐานเป็นวิดีโอคลิปที่เห็นหน้าคู่กรณี และป้ายทะเบียนรถ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมออกหมายเรียกมาให้ปากคำ เพื่อสืบหาตัวคนขับที่ลงมาทำร้ายร่างกายนั้น

มีรายงานด้วยว่า ตลอดทั้งวันได้มีผู้ใช้งานเว็บไซต์โซเชียลมีเดียกดแชร์คลิปดังกล่าว
พร้อมทั้งมีการวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง ขณะเดียวกันได้มีการเรียกร้องให้ตำรวจรวมทั้งกองทัพให้หาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีให้ได้ เพราะถือเป็นพฤติกรรมที่อุกอาจ ทีสำคัญเป็นการกระทำต่อผู้หญิง

ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอผ่านสังคมออนไลน์เหตุการณ์ที่ชายมีอาการคล้ายกับเมาสุราอ้างตัวเป็นทหารทำร้ายร่างกายผู้หญิงว่า กองทัพบกไม่ได้นิ่งนอนใจในเรื่องดังกล่าวและได้ตรวจสอบแล้วพบว่าชายที่ปรากฏในภาพ ซึ่งอ้างตัวเป็นทหารยศนายสิบนั้น แท้จริงแล้วเป็นพลทหารสังกัดกองพันทหารราบ มณฑลทหารบกที่ 11 ซึ่งกำลังจะปลดประจำการในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า โดยทางต้นสังกัดได้สอบสวนและคุมตัวไว้ภายในหน่วยแล้วและมีการลงโทษทางวินัยต่อไป ซึ่งโทษสูงสุดถึงขั้นจำขัง เนื่องจากพฤติกรรมดังกล่าวเข้าข่ายสร้างความเสื่อมเสียแก่กองทัพบก

“ขณะนี้ ผบ.หน่วยเรียกเจ้าตัวไปคุยแล้ว ซึ่งเขาก็ได้ยอมรับและสำนึกผิด ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ที่แสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมออกมา ตอนนี้เขามีเจตนาที่จะขอขมาผู้เสียหาย อย่างไรก็ตาม พลทหารนายนี้ยังไม่ได้ข้อมูลรายละเอียดว่าขณะเกิดเหตุเมาสุราหรือไม่ และกำลังพลของกองทัพบกจริง จะต้องมีการลงโทษตามระเบียบ ต้องโทษทางวินัย 2 เท่า ฐานที่ทำให้หน่วยงานเสื่อมเสียชื่อเสียง ทั้งนี้ยืนยันว่ากองทัพจะไม่ปกป้องคนผิด อีกทั้งจะดำเนินการอย่างเฉียบขาดอย่างแน่นอน” รองโฆษก ทบ.ระบุ

พ.อ.วินธัยกล่าวต่อว่า สำหรับโทษทางคดีอาญานั้น ขึ้นอยู่กับผู้เสียหายซึ่งทราบว่าได้มีการแจ้งความดำเนินคดีแล้ว ซึ่งตำรวจจะรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อพิจารณาส่งฟ้องต่ออัยการทหารต่อไป ทั้งนี้ยืนยันว่ากองทัพบกจะไม่ปกป้องกำลังพลที่กระทำความผิดเนื่องจากเป็นนโยบายของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ที่ได้เน้นย้ำอยู่เสมอ และกองทัพบกก็จะติดตามการดำเนินของต้นสังกัดอย่างใกล้ชิด

ต่อมาเวลา 13.00 น.วันที่ 13 ธ.ค. 55 ที่สภ.เมืองนนทบุรี นส.พ.จนัธ นิยมสุจริต อายุ 33 ปี สัตวแพทย์โรงพยาบาลสัตว์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พร้อมด้วย สพ.ญ.ภัณทิรา เมฆทอง อายุ 29 ปี ได้เข้าพบ ร.ต.ต.ปิยะณัฐ เจียมรัมย์ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี เพื่อให้ปากคำเพิ่มในคดีที่ถูกคนร้ายเป็นชายฉกรรจ์อ้างตัวเป็นสารวัตรทหารขับรถเก๋งยี่ห้อนิสสันไม่ทราบรุ่นสีบรอนซ์ทอง ทะเบียน สห-6273 ขับปาดหน้ารถบังคับให้จอด ก่อนจะลงจากรถมาชกต่อยทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ และใบหน้าขวาบวมปูด เหตุเกิดบนสะพานข้ามแยกถนนติวานนท์มุ่งหน้าสี่แยกแคราย อ.เมือง จ.นนทบุรี โดยใช้เวลาให้ปากคำกว่า 1 ชม.

นส.พ.จนัธกล่าวกับผู้สื่อข่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 55 ที่ผ่านตนเองและแฟนสาวได้ขับรถเก๋งมาตามถนนพระราม 5 เพื่อจะกลับบ้านพักแถวมหาลัยเกษตรศาสตร์ แต่ขณะที่ตนเองขับรถอยู่บนถนนเลนขวาสุดสังเกตเห็นรถนิสสันคันดังกล่าวซึ่งขับอยู่เลนกลางขับส่ายไปส่ายมาเหมือนจะเข้ามาชนรถของตน จึงได้บีบแตรเพื่อบอกให้รถคันดังกล่าวรู้ว่ากำลังข้ามเลนมาจะชนรถตน จนรถคันดังกล่าวหักหลบออกไปก่อนที่รถคันดังกล่าวจะขับขึ้นมาตีคู่กับรถของตนและเปิดกระจกด่าทอตนเองมาตลอด กระทั่งมาถึงบริเวณสะพานข้ามแยกติวานนท์ซึ่งเป็นถนน 2 เลน รถคันดังกล่าวได้ขับรถแซงขึ้นหน้ามาและขับปาดขวางหน้ารถตนเอง ก่อนจะมีชายเดินลงมาจากรถและหยิบอะไรบางอย่างที่กระโปรงหลังรถเดินปรี่มาที่รถตนเองทันที ก่อนที่ชายคนดังกล่าวจะเปิดประตูรถของตนเองพร้อมทั้งชกเข้าที่ใบหน้าและศีรษะตนเองอีกหลายครั้ง จนแฟนสาวของตนที่นั่งอยู่ในรถต้องยกมือไหว้ขอโทษ แต่ชายคนดังกล่าวก็ไม่สนใจพร้อม ทั้งตะโกนบอกว่าเป็นสารวัตรทหาร ถ้าอยากเอาเรื่องก็ไปแจ้งความตำรวจได้เลย ก่อนที่แฟนของชายคนดังกล่าวจะวิ่งเข้ามาห้ามปรามและพาขึ้นรถขับออกไป ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโชคดีแฟนของตนได้ใช้โทรศัพท์ถ่ายภาพเหตุการณ์ไว้ได้โดยตลอด จึงเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สภ.เมืองนนทบุรี ส่วนคลิปดังกล่าวนั้นน้องของแฟนตนเองได้นำไปลงในยูทิวบ์เพื่อประณามผู้ก่อเหตุ

เวลาต่อมา นายทหารพระธรรมนูญได้พาตัวพลทหารศักดิ์ชาย ไชยนอก อายุ 24 ปี สังกัดกองร้อยที่ 1 พัน.ร.มทบ.11 เข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อให้การถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยห้ามสื่อมวลชนเข้าไปทำข่าว โดยใช้เวลานานกว่า 1 ชม.ก่อนจะเดินทางกลับโดยไม่ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด

ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสอบสวนกล่าวว่า เบื้องต้นพลทหารดังกล่าวให้การรับสารภาพว่าเป็นคนที่ทำร้ายคุณหมอจริง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บ ทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัวหรือความตกใจด้วยการขู่เข็ญ ดูหมิ่นผู้อื่นซึ่งหน้า ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป