ฉาว! คลิปชายแต่งกายคล้ายทหารขับรถปาดหน้าตบตีคู่กรณี โผล่ว่อนโซเชียลมีเดีย รองโฆษกกองทัพบก ลั่น! คนผิดเป็นทหารจริง แต่เป็นเพียงพลทหารที่เตรียมปลดประจำการ เผยต้นสังกัดได้เรียกไปคุยแล้ว ย้ำโทษถึงจำขังฐานทำกองทัพเสื่อมเสีย!!!
วันนี้(13ธ.ค.)ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้มีผู้โพสต์คลิปบันทึกเหตุการณ์ชายอ้างตัวเป็นทหาร สังกัดหน่วยทหารแห่งหนึ่ง สวมชุดครึ่งท่อนคล้ายทหาร และมีอาการคล้ายคนเมาสุรา ได้ขับรถเก๋งยี่ห้อนิสสัน สีบรอนซ์ ทะเบียน สห-6273 ปาดหน้ารถคู่กรณีซึ่งผู้ชายเป็นผู้ขับขี่และมีภรรยานั่งมาด้วย ก่อนลงมาพยายามเปิดประตู ฉุดกระชากพร้อมทั้งลงมือตบตีทำร้ายร่างกายคู่กรณี พร้อมท้าให้ไปแจ้งความกับตำรวจ เหตุเกิดเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา
ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความกับ สภ.เมืองนนทบุรี โดยมีหลักฐานเป็นวิดีโอคลิปที่เห็นหน้าคู่กรณี และป้ายทะเบียนรถ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ เตรียมออกหมายเรียกมาให้ปากคำ เพื่อสืบหาตัวคนขับที่ลงมาทำร้ายร่างกายต่อไป
มีรายงานด้วยว่าตลอดทั้งวันได้มีผู้ใช้งานเว็บไซต์โซเชียลมีเดียกดแชร์คลิปดังกล่าว พร้อมทั้งมีการวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง ขณะเดียวกันได้มีการเรียกร้องให้ตำรวจรวมทั้งกองทัพให้หาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีให้ได้ เพราะถือเป็นพฤติกรรมที่อุกอาจ
ด้าน พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า อยู่ระหว่างการตรวจสอบ หากพบเป็นกำลังพลของกองทัพบกจริง จะต้องมีการลงโทษตามระเบียบ ต้องโทษทางวินัย 2 เท่า ฐานที่ทำให้หน่วยงานเสื่อมเสียชื่อเสียง ทั้งนี้ยืนยันว่า กองทัพจะไม่ปกป้องคนผิด อีกทั้งจะดำเนินการอย่างเฉียบขาดอย่างแน่นอน
ต่อมาเมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 13 ธ.ค. ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีที่มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอผ่านสังคมออนไลน์เหตุการณ์ที่ชายมีอาการคล้ายกับเมาสุราอ้างตัวเป็นทหารทำร้ายร่างกายผู้หญิง ว่า กองทัพบกไม่ได้นิ่งนอนใจในเรื่องดังกล่าวและได้ตรวจสอบแล้วพบว่าชายที่ปรากฏในภาพ ซึ่งอ้างตัวเป็นทหารยศนายสิบนั้นแท้จริงแล้วเป็นพลทหาร สังกัดกองพันทหารราบ มณฑลทหารบกที่ 11 ซึ่งกำลังจะปลดประจำการในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า โดยทางต้นสังกัดได้สอบสวนและคุมตัวไว้ภายในหน่วยแล้ว และมีการลงโทษทางวินัยต่อไป ซึ่งโทษสูงสุดถึงขั้นจำขัง เนื่องจากพฤติกรรมดังกล่าวเข้าข่ายสร้างความเสื่อมเสียแก่กองทัพบก“
ขณะนี้ผบ.หน่วยเรียกเจ้าตัวไปคุยแล้ว ซึ่งเขาก็ได้ยอมรับและสำนึกผิด ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ที่แสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมออกมา ตอนนี้เขามีเจตนาที่จะขอขมาผู้เสียหาย อย่างไรก็ตามพลทหารคนนี้ ยังไม่ได้ข้อมูลรายละเอียดว่าขณะเกิดเหตุเมาสุราหรือไม่” รองโฆษกทบ. ระบุ
พ.อ.วินธัย กล่าวต่อว่า สำหรับโทษทางคดีอาญานั้น ขึ้นอยู่กับผู้เสียหายซึ่งทราบว่าได้มีการแจ้งความดำเนินคดีแล้ว ซึ่งตำรวจจะรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อพิจารณาส่งฟ้องต่ออัยการทหารต่อไป ทั้งนี้ยืนยันว่ากองทัพบกจะไม่ปกป้องกำลังพลที่กระทำความผิด เนื่องจากเป็นนโยบายของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ที่ได้เน้นย้ำอยู่เสมอ และกองทัพบกก็จะติดตามการดำเนินของต้นสังกัดอย่างใกล้ชิด
