รอง ผบช.น.แถลงผลงานจับกุมแก๊งปล้นทรัพย์พร้อมของกลาง อาวุธปืนพกลูกโม่ ยี่ห้อสมิทแอนด์เวสสัน ขนาด.38 หมายเลขทะเบียน กท 572712 พร้อมเครื่องกระสุน ยาบ้า 5 เม็ด ยาไอซ์ 2 ถุง น้ำหนักรวม 1.4 กรัม และรถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีบี 400 สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน
วันนี้ (4 ธ.ค.) เวลา 13.30 น.ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ รอง ผบช.น.พร้อมด้วย พ.ต.อ.บรรหาญ สมเกียรติ รอง ผบก.น.7 และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด บก.น.7 ร่วมแถลงผลจับกุม นายพลากร หรือ ตั้ม แวงโส อายุ 25 ปี และ นายจิรวัฒน์ หรือ ลี้ บริสุทธิ์ อายุ 28 ปี พร้อมของกลาง อาวุธปืนพกลูกโม่ ยี่ห้อสมิทแอนด์เวสสัน ขนาด.38 หมายเลขทะเบียน กท 572712 พร้อมเครื่องกระสุน ยาบ้า 5 เม็ด ยาไอซ์ 2 ถุง น้ำหนักรวม 1.4 กรัม และรถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีบี 400 สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน โดยสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งคู่ ได้ที่บ้านเลขที่ 58/25 หมู่บ้านวิดดิ้งฮิลล์ แขวงฉิมพลี เขตตลิ่งชัน กทม.
พล.ต.ต.ฐิติราช กล่าวว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสืบทราบมาว่า บ้านหลังเกิดเหตุมีผู้ต้องหาคดียาเสพติดพักอาศัยอยู่บ้านหลังดังกล่าว เมื่อเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ ก็พบผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย พร้อมกับมียาเสพติดและอาวุธปืนซุกซ่อนเอาไว้ภายในบ้าน นอกจากนี้ พบว่า ทั้งคู่ยังติดยาเสพติด และยังก่อเหตุลักรถ จยย.และวิ่งราวทรัพย์มาแล้วหลายครั้ง โดยมีเพื่อนร่วมแก๊งอีก 1 ราย คือ นายอัครพล หรือ โจ ดำครบุรี อายุ19 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ จ 500/2555 ในข้อหาปล้นทรัพย์ จึงนำกำลังไปจับกุมตัวและนำส่ง สน.ยานนาวา ดำเนินคดีไปก่อนหน้านี้
ด้าน พ.ต.อ.บรรหาร กล่าวว่า สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย คือ นายจิรวัฒน์ และนายพลากร เพิ่งจะพ้นโทษออกมาจากเรือนจำเขาพริก จ.นครราชสีมา ในคดียาเสพติด โดยตามร่างกายของทั้งสองคนพบรอยสักเต็มตัว ซึ่งทั้งคู่ได้รู้จักกันในเรือนจำ และเมื่อพ้นโทษออกมาก็รวมตัวกันกับนายอัครพล ตระเวนก่อเหตุลักรถ จยย.และวิ่งราวทรัพย์ ทำมาแล้วกว่า 50 ครั้ง ในพื้นที่สน.สำราญราษฎร์ และ สน.พระราชวัง โดยรถ จยย.ของกลางนั้นได้ลักมาจากย่านปิ่นเกล้า ทั้งนี้ นายจิรวัฒน์ จะเชี่ยวชาญในเรื่องการลักรถ จยย.ส่วน นายพลากร จะถนัดเรื่องการวิ่งราวและการลักทรัพย์
จากการสอบสวน นายจิรวัฒน์ ให้การรับสารภาพว่า เพิ่งจะพ้นโทษมาได้ประมาณ 1 ปี เศษ ก่อนหน้านี้ เคยเป็นช่างซ่อมรถ ทำให้รู้วิธีในการลักรถ จยย.ส่วนใหญ่จะเลือกรถที่ไม่ได้ล็อกคอ จากนั้นก็ใช้วิธีการต่อสายตรงขี่กลับบ้าน ก่อนจะนำไปขายย่านถนน 345 เมื่อได้เงินมาก็นำไปซื้อยาเสพติดและเที่ยวเตร่
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา นายพลากร “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครอง” ส่วนนายจิรวัฒน์ ข้อหา “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) และลักทรัพย์หรือรับของโจร” ก่อนส่งตัวดำเนินคดีต่อไป