ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ตร.กะทู้ จ.ภูเก็ต รวบแก๊งวิ่งราวทรัพย์นักท่องเที่ยว รับสารภาพทำมาแล้ว 8-10 ครั้ง ส่วนใหญ่ก่อเหตุในพื้นที่กะตะ-กะรน และป่าตอง
เมื่อเวลา 12.30 น.วันนี้ (19 พ.ย.) ที่สถานีตำรวจภูธรกะทู้ ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต พ.ต.ท.อกนิษฐ์ ด่านพิทักษ์ศาสตร์ รอง ผกก.ฝ่ายป้องกันปราบปราม พร้อมด้วยพ.ต.ท.กิตติพงศ์ คล้ายแก้ว รอง.ผกก.สืบสวนตำรวจภูธรกะทู้ พ.ต.ต.สมศักดิ์ ทองเกลี้ยง สว.สส.สภ.กะทู้ ร.ต.อ.ศิริธรรม นาควรรณ รอง สว.สส.สภ.กะทู้ ร.ต.ต.ชูศักดิ์ ทัศนภูมิ ด.ต.ปรัชญา พูนพิพัฒน์ ด.ต.จักรภรฐิพนธ์ นาคพงศ์ภัทร ด.ต.สมพร ศรีสะอาด ด.ต.ประโยชน์ หนูปราบ และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง นำ 3 ผู้ต้องหาคดีวิ่งราวทรัพย์นักท่องเที่ยวมาสอบปากคำเพิ่มเติม ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้พร้อมของกลางเป็นโทรศัพท์ยี่ห้อต่างๆ กระเป๋าสะพายสตรี และรถจักรยานยนต์ที่ใช้ในการก่อเหตุ
ทั้งนี้ การจับกุมผู้ต้องหาดังกล่าว สืบเนื่องจากวันนี้ (19 พ.ย.) เวลาประมาณ 00.36 น.ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กะทู้ตั้งด่านตรวจเพื่อกวาดล้างอาชญากรรมในพื้นที่ ได้เกิดเหตุวิ่งราวทรัพย์ขึ้นที่บริเวณทางเข้าโรงแรมภูเก็ตเกรซแลนด์ ต.ป่าตอง อ.กะทู้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ออกติดตามจับกุมคนร้ายอย่างกระชั้นชิด จนกระทั่งสามารถจับกุมตัว นายสรายุทธ หรือไอซ์ ไอสุวรรณ์ นายบรรหาร หรือเดียว บ้านเพิง และนายเอ นามสมมติ ได้ ที่ห้องเช่าไม่ทราบเลขที่ ซอยก๊อกน้ำ ต.ป่าตอง อ.กะทู้ โดยทั้ง 3 คนพักอาศัยอยู่ด้วย
และจากการสืบสวนขยายผลยังทราบว่า นายสรายุทธ หรือไอซ์ ไอสุวรรณ์ ได้ร่วมกันกับนายบรรหาร หรือเดียว บ้านเพิง ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ประชาชน และนักท่องเที่ยวมาแล้วหลายครั้ง โดยเจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดทรัพย์สินมาได้ส่วนหนึ่ง ซึ่งมีตั้งกระเป๋าเงิน โทรศัพท์มือถือ กระเป๋าสะพายผู้หญิง กล้องถ่ายรูป รถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ
อย่างไรก็ตาม วันนี้ (19 พ.ย.) เวลาประมาณ 11.30 น. น้องชายของนายบรรหารได้นำโทรศัพท์แบล็กเบอร์รี่จากการวิ่งราวมามอบให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังจากทราบว่าโทรศัพท์ดังกล่าวได้มาจากการวิ่งราวทรัพย์ ซึ่งน้องชายของนายบรรหารแจ้งว่า โทรศัพท์ดังกล่าวนายบรรหารนำมาฝากไว้ เมื่อทราบว่าเป็นของที่ได้มาจากการวิ่งราวทรัพย์จึงได้นำมามอบให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ
ด้าน พ.ต.อ.อรุณ แกล้ววาที รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต ซึ่งลงพื้นที่ติดตามการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กะทู้ กล่าวว่า ที่ผ่านมา มีเหตุคนร้ายวิ่งราวทรัพย์สินของประชาชน และนักท่องเที่ยวเกิดขึ้นบ่อยครั้ง โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศที่มาเที่ยวภูเก็ต ซึ่งที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามเร่งรัดสืบสวนจับกุมคดีคนร้ายที่ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งหามาตรการในการป้องกันไม่ให้มีคดีเกิดขึ้น โดยการตั้งด่านตรวจอย่างเข้มงวด ตามนโยบายผู้บังคับบัญชา เพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด ซึ่งการดำเนินการในเรื่องของเซฟตี้โซนก็ช่วยการทำงานของเจ้าหน้าที่ได้เยอะ
และจากการจับกุมผู้ต้องหาในครั้งนี้ ผู้ต้องหารับสารภาพว่า ได้ทำมาแล้วประมาณ 8-10 ครั้ง ทั้งในพื้นที่ สภ.ฉลอง และพื้นที่ สภ.กะทู้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งทำการสอบสวนเพิ่มเติมเพื่อขยายผลว่ามีผู้ร่วมขบวนการเพิ่มเติมหรือไม่ ขณะที่ในส่วนของประชาชน และนักท่องเที่ยวเองก็จะต้องระมัดระวังให้มากขึ้น และอย่าเปิดโอกาสให้คนร้ายเข้ามาก่อเหตุได้ และไม่ควรเดินในที่เปลี่ยวคนเดียว รวมทั้งไม่ควรที่จะนำกระเป๋าใส่ในตะกร้าหน้ารถ ควรจะเก็บให้มิดชิด
เมื่อเวลา 12.30 น.วันนี้ (19 พ.ย.) ที่สถานีตำรวจภูธรกะทู้ ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต พ.ต.ท.อกนิษฐ์ ด่านพิทักษ์ศาสตร์ รอง ผกก.ฝ่ายป้องกันปราบปราม พร้อมด้วยพ.ต.ท.กิตติพงศ์ คล้ายแก้ว รอง.ผกก.สืบสวนตำรวจภูธรกะทู้ พ.ต.ต.สมศักดิ์ ทองเกลี้ยง สว.สส.สภ.กะทู้ ร.ต.อ.ศิริธรรม นาควรรณ รอง สว.สส.สภ.กะทู้ ร.ต.ต.ชูศักดิ์ ทัศนภูมิ ด.ต.ปรัชญา พูนพิพัฒน์ ด.ต.จักรภรฐิพนธ์ นาคพงศ์ภัทร ด.ต.สมพร ศรีสะอาด ด.ต.ประโยชน์ หนูปราบ และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง นำ 3 ผู้ต้องหาคดีวิ่งราวทรัพย์นักท่องเที่ยวมาสอบปากคำเพิ่มเติม ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้พร้อมของกลางเป็นโทรศัพท์ยี่ห้อต่างๆ กระเป๋าสะพายสตรี และรถจักรยานยนต์ที่ใช้ในการก่อเหตุ
ทั้งนี้ การจับกุมผู้ต้องหาดังกล่าว สืบเนื่องจากวันนี้ (19 พ.ย.) เวลาประมาณ 00.36 น.ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กะทู้ตั้งด่านตรวจเพื่อกวาดล้างอาชญากรรมในพื้นที่ ได้เกิดเหตุวิ่งราวทรัพย์ขึ้นที่บริเวณทางเข้าโรงแรมภูเก็ตเกรซแลนด์ ต.ป่าตอง อ.กะทู้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ออกติดตามจับกุมคนร้ายอย่างกระชั้นชิด จนกระทั่งสามารถจับกุมตัว นายสรายุทธ หรือไอซ์ ไอสุวรรณ์ นายบรรหาร หรือเดียว บ้านเพิง และนายเอ นามสมมติ ได้ ที่ห้องเช่าไม่ทราบเลขที่ ซอยก๊อกน้ำ ต.ป่าตอง อ.กะทู้ โดยทั้ง 3 คนพักอาศัยอยู่ด้วย
และจากการสืบสวนขยายผลยังทราบว่า นายสรายุทธ หรือไอซ์ ไอสุวรรณ์ ได้ร่วมกันกับนายบรรหาร หรือเดียว บ้านเพิง ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ประชาชน และนักท่องเที่ยวมาแล้วหลายครั้ง โดยเจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดทรัพย์สินมาได้ส่วนหนึ่ง ซึ่งมีตั้งกระเป๋าเงิน โทรศัพท์มือถือ กระเป๋าสะพายผู้หญิง กล้องถ่ายรูป รถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ
อย่างไรก็ตาม วันนี้ (19 พ.ย.) เวลาประมาณ 11.30 น. น้องชายของนายบรรหารได้นำโทรศัพท์แบล็กเบอร์รี่จากการวิ่งราวมามอบให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังจากทราบว่าโทรศัพท์ดังกล่าวได้มาจากการวิ่งราวทรัพย์ ซึ่งน้องชายของนายบรรหารแจ้งว่า โทรศัพท์ดังกล่าวนายบรรหารนำมาฝากไว้ เมื่อทราบว่าเป็นของที่ได้มาจากการวิ่งราวทรัพย์จึงได้นำมามอบให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ
ด้าน พ.ต.อ.อรุณ แกล้ววาที รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต ซึ่งลงพื้นที่ติดตามการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กะทู้ กล่าวว่า ที่ผ่านมา มีเหตุคนร้ายวิ่งราวทรัพย์สินของประชาชน และนักท่องเที่ยวเกิดขึ้นบ่อยครั้ง โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศที่มาเที่ยวภูเก็ต ซึ่งที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามเร่งรัดสืบสวนจับกุมคดีคนร้ายที่ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งหามาตรการในการป้องกันไม่ให้มีคดีเกิดขึ้น โดยการตั้งด่านตรวจอย่างเข้มงวด ตามนโยบายผู้บังคับบัญชา เพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด ซึ่งการดำเนินการในเรื่องของเซฟตี้โซนก็ช่วยการทำงานของเจ้าหน้าที่ได้เยอะ
และจากการจับกุมผู้ต้องหาในครั้งนี้ ผู้ต้องหารับสารภาพว่า ได้ทำมาแล้วประมาณ 8-10 ครั้ง ทั้งในพื้นที่ สภ.ฉลอง และพื้นที่ สภ.กะทู้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งทำการสอบสวนเพิ่มเติมเพื่อขยายผลว่ามีผู้ร่วมขบวนการเพิ่มเติมหรือไม่ ขณะที่ในส่วนของประชาชน และนักท่องเที่ยวเองก็จะต้องระมัดระวังให้มากขึ้น และอย่าเปิดโอกาสให้คนร้ายเข้ามาก่อเหตุได้ และไม่ควรเดินในที่เปลี่ยวคนเดียว รวมทั้งไม่ควรที่จะนำกระเป๋าใส่ในตะกร้าหน้ารถ ควรจะเก็บให้มิดชิด