xs
xsm
sm
md
lg

บช.น.ประชุมเตรียมความพร้อมงานวันพ่อ 5 ธ.ค.พรุ่งนี้

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

พล.ต.ต.วรศักดิ์ นพสิทธิพร รอง ผบช.น.และพล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบก.จร. และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมเพื่อวางแผนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในวันพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (วันพ่อแห่งชาติ) วันที่ 5 ธ.ค. 2555
กองบัญชาการตำรวจนครบาล ประชุมเพื่อวางแผนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในวันพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (วันพ่อแห่งชาติ) วันที่ 5 ธ.ค.2555 พร้อมกำชับดูแลเรื่องจราจร และรักษาความปลอดภัยเป็นพิเศษ พร้อมแนะประชาชนหลีกเลี่ยงใช้รถส่วนตัวพรุ่งนี้

วันนี้ (4 ธ.ค.) เวลา 10.30 น. ที่ห้องประชุมใหญ่ กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.วรศักดิ์ นพสิทธิพร รอง ผบช.น. ดูแลงานด้านจราจร พร้อมด้วย พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบก.จร. และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมเพื่อวางแผนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในวันพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (วันพ่อแห่งชาติ) วันที่ 5 ธ.ค.2555

พล.ต.ต.วรศักดิ์ เปิดเผยก่อนการประชุมว่า วันนี้ได้เรียกเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติการ ตั้งแต่ เจ้าหน้าที่ระดับผู้บังคับหมวดไป จนถึงเจ้าหน้าที่ระดับรองสารวัตรที่เกี่ยวข้องกับการทำหน้าที่ภายในงานวันพ่อแห่งชาติทั้งหมดเข้ามาเพื่อสรุป และชี้แจงในเรื่องของแนวทางการปฏิบัติ พร้อมกับซักซ้อมทำความเข้าใจก่อนการปฏิบัติหน้าที่จริงตั้งแต่คืนวันนี้จนถึงเช้าวันพรุ่งนี้ ทั้งนี้ ได้กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งฝ่ายจราจร และฝ่ายที่รักษาความปลอดภัยเป็นพิเศษ

พล.ต.ต.วรศักดิ์ กล่าวอีกว่า เจ้าหน้าที่ได้เน้นย้ำดูแลพื้นที่การจัดงานบริเวณโดยรอบทั้งหมด เช่น บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า (ร.5) ลานพระราชวังดุสิต และตามแนวถนนราชดำเนินไปจนถึงสะพานผ่านฟ้า ส่วนเรื่องที่จะมีการปิดการจราจร และพี่น้องประชาชนจะเดินทางเข้ามานั้น ขอประชาสัมพันธ์ว่าทางทิศเหนือแนวถนนราชวิถี ตะวันออกเส้นแนวถนนพระราม 5 ด้านทิศตะวันตกแนวถนนราชสีมา ซึ่งเป็นเส้นทางที่ปิดการจราจร

“โดยการเดินทางเข้ามาภายในงานอยากให้ประชาชนเดินทางเข้ามาเป็นหมู่คณะ และถ้ามีการประสานกับเจ้าหน้าที่ก็จะดำเนินการพาเข้ามาส่วนหนึ่ง อีกส่วนถ้าพี่น้องประชาชนเดินทางเข้ามากันเองโดยรถยนต์ในเส้นทางพระราม 5 และถนนราชสีมา ต้องลงจากรถ และนำรถไปจอดด้านนอก ซึ่งพื้นที่จอดรถทั้งหมดเจ้าหน้าที่ได้เตรียมไว้หมดแล้ว เช่น ถ้าเป็นรถบัสก็ต้องนำไปจอดรอบนอกในด้านฝั่งธนฯ และแนวถนนวิภาวดี สำหรับประชาชนที่เดินทางมารอแล้ว ซึ่งในพื้นที่ที่เจ้าหน้าที่กั้นไว้นั้น สามารถเข้ามาได้ เพราะทุกคนที่มาเชื่อว่าตั้งใจมาเพื่อถวายความจงรักภักดีแด่ในหลวง ซึ่งคาดว่าทุกคนใส่เสื้อสีเหลืองกันหมด แต่เจ้าหน้าที่จะเน้นย้ำในเรื่องความปลอดภัยเป็นหลัก”พล.ต.ต.วรศักดิ์กล่าว

พล.ต.ต.วรศักดิ์ กล่าวต่อว่า ส่วนการระบายคนทั้งการนำคนเข้า และนำคนออกหลังจากเสร็จงานพิธี เจ้าหน้าที่จะมีแผนปฏิบัติเหมือนกัน คือ มีการนัดหมายพร้อมกัน โดยเฉพาะประชาชนที่มากันเป็นหมู่คณะ ตั้งแต่ลงรถจากด้านนอกงาน มีเจ้าหน้าที่ตำรวจนำเข้าพื้นที่ภายในงาน และนำรถไปจอดในที่ที่กำหนดไว้ ซึ่งจะทำเช่นเดียวกันกับตอนขากลับ

พล.ต.ต.วรศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับ ศปก.น.ส่วนหน้ามี 3 จุด ที่สวนอัมพร สนามเสือป่า และทางด้านสะพานมัฆวาน ในขณะเดียวกัน ทุกจุดโดยรอบพื้นที่งานจะมีผู้รับผิดชอบในแต่ละจุด ซึ่งบริเวณรอบนอกจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรประจำอยู่ทุกจุดตามสี่แยก และรอบในจะมี ศปก.น. ที่ตั้งอยู่ตามจุดต่างๆ โดยจะมีส่วนของพยาบาล กทม. และอาสาสมัครต่างๆ ให้บริการพี่น้องประชาชนทั้งหมด และสามารถสอบถามได้ทุกจุด นอกจากนี้ ส่วนศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้าจราจร ได้ตั้งไว้ที่ กองกับการ 6 บก.จร.ตรงเส้นถนนศรีอยุธยา และได้มีการระดมเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรทุก บก.น. จำนวน 200 นาย อย่างไรก็ตาม การรักษาความปลอดภัยนั้นได้เตรียมการไว้ โดยมี ศปก.น.ส่วนหน้า และแบ่งมอบพื้นที่กันว่า แต่ละจุดมีเจ้าหน้าที่รับผิดชอบอย่างชัดเจน รวมถึงการรักษาความปลอดภัยในส่วนอื่นๆ ด้วย ทั้งฝ่ายสืบสวน และสายตรวจมาช่วยด้วย เบื้องต้น คาดว่าน่าใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งหมด 3,000 นาย

ด้าน พล.ต.ต.ปิยะ เปิดเผยถึงการอำนวยการเส้นทางจราจรให้แก่ประชาชนที่จะเดินทางมาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทถวายพระพรชัยมงคล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว บริเวณลานพระราชวังดุสิต ว่า จะแจ้งปิดเส้นทางตั้งแต่ 18.00 น. ของวันที่ 4 ธ.ค. เส้นทางถนนอู่ทองใน ตั้งแต่แยกอู่ทองใน ถึงลานพระบรมรูป จากนั้น ในเวลา 05.00 น. ของวันที่ 5 ธ.ค. จะเริ่มปิดเส้นทางเพิ่มเติม 4 เส้นหลักจนกว่าจะเสร็จสิ้นพิธี คือ ถ.ศรีอยุธยา ตั้งแต่แยกวัดเบญจมพิตร ผ่านลานพระบรมรูป ถึงแยกพล.1 ถ.พิษณุโลก ตั้งแต่แยกพาณิชยการ สะพานชมัยมรุเชษฐ์ แยกมิสกวัน ถึงแยกวังแดง แยกลานพระรูป บริเวณถนนราชดำเนิน แยกสวนมิสกวัน ถึงสะพานมัฆวาน

พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวอีกว่า หากประชาชนมีจำนวนมากขึ้นจะมีการปิดเส้นทางเพิ่มเติมในถนนกรุงเกษม ตั้งแต่สะพานมัฆวานถึงแยกประชาเกษม และแยกมัฆวานถึงแยก จ.ป.ร. ซึ่งตลอดทั้งเส้นทางจะรองรับประชาชนได้ถึงกว่า 2 แสนคน ขณะที่จุดรับส่งประชาชน ซึ่งกองบังคับการตำรวจจราจรประสานรถหน่วยงานต่างๆ ไว้จำนวนมากกว่า 500 คัน ทั้ง ขสมก.และของตำรวจ จะมีการรับส่งประชาชนลงจุดที่กำหนดไว้ ประกอบด้วย ถนนศรีอยุธยา บริเวณแยกเสาวณี ถึงแยกวัดเบญจฯ ถนนกรุงเกษมตลอดสาย ถนนราชสีมาบางส่วน
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยและการอำนวยความสะดวก งานพระราชพิธี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ออกมหาสมาคม ณ สีหบัญชร พระที่นั่งอนันตสมาคม ในงานพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธ.ค. 2555 ว่า พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้กำชับให้ข้าราชการตำรวจทุกนายปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ โดยสั่งการให้มีการจัดตั้งกองอำนวยการร่วม ตามจุดสำคัญต่างๆในพื้นที่การจัดงานพระราชพิธี รัฐพิธี รวมทั้งตามเส้นทางเสด็จพระราชดำเนิน เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน ดำเนินการสืบสวนหาข่าวป้องกันกลุ่มผู้บุคคลที่อาจเข้ามาสร้างความวุ่นวาย และส่งผลกระทบต่อการจัดงาน รวมถึงป้องกันการก่อเหตุอาชญากรรมต่างๆ

พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ให้มีการระดมตำรวจทุกสายงานมาบูรณาการการทำงานร่วมกัน มีกำหนดแผน กำหนดลำดับชั้นบังคับบัญชาอย่างชัดเจน ขณะเดียวกันให้เพิ่มความเข้มในดูแลรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญที่เข้าร่วมงานทั้งในพื้นที่ท้องสนามหลวง ทำเนียบรัฐบาล และลานพระบรมรูปทรงม้า โดยมีการแบ่งพื้นที่รักษาความปลอดภัยเป็น 3 ระดับ ประกอบด้วย พื้นที่ชั้นใน ได้แก่บริเวณโดยรอบบุคคลสำคัญ สถานที่รับรองบุคคลสำคัญ พื้นที่ชั้นกลาง เป็นพื้นที่ถัดจาดพื้นที่ชั้นใน ภายในพิธีการ และพื้นที่ชั้นนอก เป็นพื้นที่โดยรอบสถานที่จัดงาน พร้อมจัดเตรียมหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิดหรือ EOD ทำการตรวจสอบพื้นที่บริเวณงานก่อนงานเริ่ม 2 ม. พร้อมวางกำลังตั้งแต่เวลา 04.00น.ของวันพรุ่งนี้เป็นต้นไป

โฆษกตร.กล่าวด้วยว่า ผบ.ตร.ยังได้สั่งการให้เน้นการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบมาตรการรักษาความปลอดภัยและเส้นทางจราจร โดยขอความร่วมมือให้ใช้บริการรถสาธารณะ โดยเจ้าหน้าที่จะเริ่มทำการปิดการจราจรบริเวณโดยรอบลานพระบรมรูปทรงม้า ตั้งแต่เวลา 18.00 น.ของวันที่ 4 ธ.ค.เป็นต้นไป ทั้งนี้ หากประชาชนมีปัญหาการเดินทางสามารถสอบถามข้อมูลผ่านทางสายด่วน 1197 กองบังคับการตำรวจจราจร ,1255 สถานีจราจรเพื่อสังคม,1644 สถานีวิทยุสวพ.91หรือ 1137 สถานีวิทยุจส.100


แผนที่เส้นทางที่ปิดการจราจร


กำลังโหลดความคิดเห็น