ศอ.รส.แถลงยกเลิกประกาศ ศอ.รส.ทั้ง 4 ฉบับ สั่งเปิดการจราจรทั้ง 9 เส้นทาง และถอนกำลังตำรวจออกจากพื้นที่ทั้งหมด เหลือไว้เพียงรัฐสภาที่ยังมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เผย เตรียมชงนายกฯ “ปู” ประกาศเลิก พ.ร.บ.มั่นคง พร้อมสรุปยอดผู้บาดเจ็บทั้งหมด 68 ราย
วันนี้ (25 พ.ย.) ที่ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) ชั้น 20 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ในฐานะผู้อำนวยการ ศอ.รส. เป็นประธานประชุม ศอ.รส. โดยมีฝ่ายต่างๆ ร่วมประชุม
พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษก ศอ.รส.แถลงภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุม ศอ.รส.ได้มีมติยกเลิกประกาศ ศอ.รส.ทั้ง 4 ฉบับ ทั้งเรื่องห้ามบุคคลเข้าหรือต้องออกจากบริเวณพื้นที่อาคาร หรือสถานที่ที่กำหนด เรื่องห้ามการใช้เส้นทางคมนาคมหรือการใช้ยานพาหนะ เรื่องห้ามนำอาวุธออกนอกเคหะสถาน และเรื่องใช้ยานพาหนะในเส้นทางคมนาคม โดยขณะนี้ตำรวจกำลังนำแท่งปูนคอนกรีต (แบริเออร์) ออกจากเส้นทาง และจัดการเปิดเส้นทางทั้ง 9 เส้นทางที่เคยประกาศปิดแล้ว ขณะที่พื้นที่หวงห้ามเด็ดขาด ทั้งทำเนียบรัฐบาล รัฐสภาก็เปิดให้เข้า-ออกตามปกติ ถอนกำลังตำรวจออกมาหมดแล้ว เหลือเพียงกำลังตำรวจที่ดูแลพื้นที่ต่างๆ ตามปกติเท่านั้น เว้นแต่รัฐสภาที่มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจยังคงมีตำรวจนครบาล ตำรวจกองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชนดูแลอยู่ รวมถึงพื้นที่อื่นๆโดยรอบ ขณะที่ในส่วนของทำเนียบรัฐบาล นั้นให้ตำรวจสันติบาลที่มีหน้าที่ วางกำลังควบคุมพื้นที่อยู่ตามปกติ
โฆษก ศอ.รส.กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ที่ประชุมยังให้เสนอ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะ ผอ.รมน.ประกาศยกเลิกการใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551 ที่ประกาศใช้ใน 3 เขต พื้นที่ คือ ดุสิต พระนคร และป้อมปราบศัตรูพ่าย โดยตามขั้นตอนจะถือว่าการยกเลิกมีผลทันทีเมื่อนายกรัฐมนตรีประกาศ จากนั้นนายกรัฐมนตรีจะประมวลเรื่องเสนอให้รัฐสภาและวุฒิสภารับทราบอีกครั้ง อย่างไรก็ตามการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงตั้งแต่วันที่ 22 พ.ย.ที่ผ่านมาอาจทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบบ้างในเรื่องการใช้เส้นทางต่างๆ ทั้งนี้ คาดว่า ศอ.รส.จะเสนอขอให้ยกเลิกภายในวันนี้ หรืออย่างช้าวันพรุ่งนี้ จากนั้นสถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติ แต่ยังคงมีการวางกำลังตำรวจนครบาลตามจุดที่เหมาะสม โดยวันนี้ ผบ.ตร.ได้ปล่อยแถวส่งกำลังตำรวจที่ระดมจากทั่วประเทศ กลับไปปฏิบัติหน้าที่ตามหน่วยดังเดิม
“ในส่วนของ ศอ.รส.นั้นจะลดระดับการปฏิบัติการลง โดยตำรวจยังคงปฏิบัติงานผ่าน ศปก.ตร. ซึ่งผบ.ตร.สั่งการให้จัดทำบทเรียนการรับมือการชุมนุมครั้งนี้ว่ามีความสำเร็จ หรือยังบกพร่องจุดใด เพื่อนำไปปรับปรุงแก้ไข และจะได้มีวิธีปฏิบัติที่เหมาะสมต่อไป โดยครั้งนี้ก็พบว่าการปฏิบัติที่เป็นไปด้วยดีในจุดต่างๆ เพราะมีผู้บัญชาการเหตุการณ์ อาทิ บริเวณจุดเผชิญหน้าทั้ง 2 จุด ที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ และแยกมิสกวัน นอกจากนี้สั่งการให้พนักงานสอบสวนของนครบาลไปตรวจสอบพยานหลักฐานการปราศรัยบนเวที หรือการกระทำใดๆ ในบริเวณการชุมนุม ตลอดจนข้อมูลที่ปรากฏบนเว็บไซต์ โซเชียลมีเดียต่างๆ เช่น เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ ในช่วงของการประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ว่ามีอะไร ส่วนใดที่เข้าข่ายผิดกฎหมายบ้าง ทั้ง พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และกฎหมายที่เกี่ยวข้องอื่นๆ เพื่อดำเนินคดี ในส่วนของคนขับรถ 6 ล้อฝ่าแนวกั้นตำรวจ ที่สะพานมัฆวานรังสรรค์นั้น พล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ ที่ปรึกษา (สบ 10) หัวหน้าพนักงานสอบสวนยังพิจารณาว่าจะดำเนินคดีในข้อหาพยายามฆ่าหรือไม่ โดยต้องพิจารณาพยานหลักฐานทั้งหมดอย่างรอบคอบก่อน” โฆษก ศอ.รส.กล่าว
ด้าน พล.ต.ต.ธนา ชูวงศ์ รองโฆษก ตร.กล่าวสรุปผลการดำเนินคดีว่า ตำรวจได้ควบคุมตัวผู้กระทำผิดฝ่าฝืน พ.ร.บ.ความมั่นคงทั้งสิ้น 138 ราย เป็นชาย 115 ราย หญิง 23 ราย ในจำนวนนี้เป็นผู้มีความผิด ฝ่าผืน พ.ร.บ.มั่นคงอย่างเดียว 133 ราย แต่มีบางคนมีความผิดข้อหาอื่นด้วย โดยเป็นการผิดข้อหาดูหมิ่นเจ้าพนักงาน 1 ราย พกอาวุธมีด 3 ราย และมีหรือพกวิทยุสื่อสารโดยไม่ได้รับอนุญาต 1 ราย ซึ่งรายสุดท้ายยังถูกควบคุมตัวส่งฟ้องดำเนินคดีอยู่ แต่อีก 137 รายได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวโดยไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกันไปทั้งหมดแล้ว อีก 1 รายที่เหลือก็คาดว่าจะได้รับการปล่อยตัวแบบเดียวกัน หลังส่งฟ้องศาล นอกจากนี้ในจำนวนนี้มี 4 รายบาดเจ็บรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ ทั้งนี้เมื่อหายก็สามารถกลับบ้านได้เลย ถือเป็นการปล่อยตัวชั่วคราวแล้ว
พ.ต.ท.พญ.อัญชุลี ธีระวงศ์ไพศาล รองโฆษกศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) กล่าวสรุปจำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ชุมนุมเมื่อวันที่ 24 พ.ย.ว่า ศูนย์เอราวัณสรุปยอดผู้บาดเจ็บทั้งหมด 68 ราย มีที่ยังคงรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ 15 ราย เป็นข้าราชการตำรวจที่ทำหน้าที่ปราบจลาจล 11 นาย เป็นประชาชนผู้ชุมนุม 4 ราย โดยทั้งหมดอาการปลอดภัย ได้รับการรักษาอย่างดี