กรมศุลกากรแถลงจับผู้ต้องหาลักลอบขนงูเห่ามาเลย์เข้าไทย

อธิบดีกรมศุลกากร พร้อมด้วย “รองฯ ฝน” จากกรมอุทยานแห่งชาติฯ แถลงการจับกุมผู้ต้องลักลอบขนงูเห่าจำนวน 600 ตัวจากประเทศเพื่อนบ้านเข้าประเทศไทย

วันนี้ (13 พ.ย.) เวลา 14.00 น.ที่กรมศุลกากร คลองเตย นางเบญจา หลุยเจริญ อธิบดีกรมศุลกากร, นางอรอนงค์ วัชรเศษฐกุล รองอธิบดีฯ ด้านปราบปราม, นายราฆพ ศรีศุภอรรถ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและปราบปราม และนายธีรภัทร ประยูรสิทธิ รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช แถลงข่าวการจับกุมลักลอบขนย้ายสัตว์ป่าประเภทงูเห่า จำนวน 600 ตัว มูลค่ากว่า 500,000 บาท

นางเบญจากล่าวว่า เมื่อวันที่ 12 พ.ย. 2555 เวลาประมาณ 23.10 น. เจ้าหน้าที่ศุลกากรประจำศูนบ์ป้องกันและปราบปรามปราณบุรี ได้ตรวจพบรถยนต์ต้องสงสัยยี่ห้อนิสสัน สีดำ หมายเลขทะเบียน บร-5173 ระยอง ซึ่งเป็นรถตรงลักษณะที่สายลับรายงาน จึงเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการควบคุมตัวคนขับรถและทำการสอบสวนคนขับรถ โดยให้การว่ารับจ้างขนงูจากประเทศเพื่อนบ้านผ่านทางภาคใต้ ได้ค่าจ้างในการขนส่งครั้งละ 10,000 บาท ทำมาหลายครั้งโดยลักลอบนำเข้าจากจังหวัดสงขาติดกับพรมแดนมาเลเซีย เพื่อนำไปพักไว้ที่ อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช กระทั่งมาถูกจับกุมที่ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งจะมีปลายทางส่งออกตามจุดบริเวณ จ.อุบลราชธานี, มุกดาหาร, นครพนม, หนองคาย เพื่อส่งต่อไปยังประเทศที่ 3 ต่อไป

“กรมศุลกากรได้มุ่งเน้นนโยบายในการเร่งรัดปราบปรามสินค้าและสัตว์ป่าที่ลักลอบหลีกเลี่ยง อากร ข้อห้าม ข้อจำกัด เพื่อความเป็นธรรมในการจัดเก็บภาษี ปกป้องสังคมและสิ่งแวดล้อม ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 และอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศ” นางเบญจากล่าว

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาตามความผิด พ.ร.บ.ศุลกากร และ พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 และอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ (CITES) ซึ่งหลังจากนี้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืชจะนำงูเห่าของกลางดังกล่าวไปดูแลต่อไป