xs
xsm
sm
md
lg

แว้นฝั่งธนฯ เหิม! ซิ่งจยย.ไล่ฆ่าคู่อริดับ 3 เจ็บ 4

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเหตุคนร้ายใช้ จยย.เป็นพาหนะไล่ยิงคู่อริเสียชีวิต 2 รายและบาดเจ็บอีก 4 ราย เหตุเกิดในพื้นที่ฝั่งธนบุรี
เด็กแว้นฝั่งธนฯ เหิมหนัก! ซิ่ง จยย.ไล่ฆ่าคู่อริบนถนน มีผู้เสียชีวิตคาที่ 2 ราย และบาดเจ็บอีก 4 ราย ด้านรอง ผบช.น.สั่งระดมฝ่ายสืบสวนเร่งลากคอมาดำเนินคดี

วันนี้ (10 พ.ย.) เมื่อเวลา 02.30 น. พ.ต.ท.ภัทรายุธ บุญชนากร พนักงานสอบสวน (สบ 3) สน.บุคคโล รับแจ้งเหตุวัยรุ่นไล่ยิงกันมีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บบริเวณใกล้ปากซอยรัชดา-ท่าพระ 17 และต่อเนื่องภายในซอยเทอดไท 33 แขวงดาวคะนอง เขตธนบุรี กทม.จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช รพ.จุฬา มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณบริเวณเชิงสะพานข้ามคลองหน้าสุรเดชแมนชั่น พบผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย ทราบชื่อ นายปิติกร บัวคำศรี อายุ 22 ปี อาชีพช่างแอร์ ถูกยิงเข้าที่คิ้วซ้าย ลำตัว และหัวเข่า สภาพศพนอนตะแคงขวาสวมเสื้อกีฬาสีกรมท่า นุ่งกางเกงขาสั้นสีขาว ข้างตัวผู้ตายพบรถจักรยานยนต์ยามาฮ่ามีโอ สีแดง-ดำ ทะเบียน รคฉ 264 กรุงเทพมหานคร ใกล้กันมีรถยนต์โตโยต้าวีออส ทะเบียน ชห 2173 กรุงเทพมหานคร นอกจากนี้ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ทราบชื่อคือ นายอัครพงษ์ กันทรอินทร์ อายุ 18 ปี ถูกยิงเข้าที่ลำคอ เจ้าหน้าที่นำส่ง รพ.ตากสิน ส่วนในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนตกอยู่ 2 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

ต่อมา เมื่อเวลาไล่เลี่ยกัน ร.ต.ต.เฉลิมพล วรรณศรี พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.บางขุนเทียน ได้รับแจ้งมีคนถูกยิงภายในซอยจอมทอง 14 แขวงบางค้อ เขตจอมทอง กทม. จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อม พล.ต.ต.มานิตย์ วงศ์สมบูรณ์ รอง ผบช.น. พ.ต.อ.ทักษิณ พ่วงเงิน รอง ผบก.น.9 พ.ต.อ.พงศ์อานันต์ คล้ายคลึง ผกก.สส.บก.น.9 พ.ต.อ.ธนกฤต ไชยจารุวุฒิ ผกก.สน.บางขุนเทียน เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช รพ.จุฬา มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุพบศพ นายสมชาย เพชรปานกัน อายุ 18 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม. เข้าที่บริเวณอกซ้าย 2 นัด สภาพนอนหงายสวมเสื้อสีแดง นุ่งกางเกงขาสั้นสีขาว เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า นูโว สีทอง ทะเบียน ปนย 147 กรุงเทพมหานคร ของผู้ตายคว่ำอยู่ นอกจากนี้ มีผู้ซ้อนท้ายทราบชื่อคือ นายนรากร สุทธิโพธิ์ อายุ 18 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดเข้าที่บริเวณลำตัว 10 นัด ถูกนำส่ง รพ.เจริญกรุงประชารักษ์ อาการสาหัส และยังมีผู้ได้รับบาดถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดอีก 2 ราย คือนายวทัญญู สุวรรณเกต อายุ 18 ปี ญาตินำตัวส่ง รพ.บางปะกอก 9 อินเตอร์เนชั่นแนล และนายวนัฐ ชื่นชม อายุ 21 ปี ถูกนำตัว ส่ง รพ.นวมินทร์ 2 เบื้องต้นทั้งคู่อยู่ในอาการปลอดภัย

จากการสอบสวนพยานที่เห็นเหตุการณ์ทราบว่า ช่วงเวลาประมาณ 01.30 น. ระหว่างที่นั่งดื่มสุราหน้าร้านเกมใกล้จุดเกิดเหตุ ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 3 นัด และมีรถ จยย.ขับผ่านไปด้วยความเร็ว จำนวน 2 คัน โดยคันแรกได้ขับผ่านไป และคันที่ 2 ซึ่งเป็นรถของผู้ตายขี่ตามหลังมา ขณะเดียวกัน ก็มีรถของคนร้ายขับไล่ตามมาติด ๆ พร้อมกับใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายจนเสียหลักล้มลง ก่อนขี่รถหลบหนีออกไปทางปากซอยจอมทอง 14 จากการตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. ตกอยู่จำนวน 9 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนสาเหตุนั้นอยู่ระหว่างการสอบสวน

ด้าน พล.ต.ต.มานิตย์ วงศ์สมบูรณ์ รอง ผบช.น. เปิดเผยภายหลังเดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุทั้ง 3 จุด ว่า จุดแรกนั้นบริเวณปากซอยรัชดา-ท่าพระ 17 มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย ส่วนจุดที่ 2 ภายในซอยซอยเทอดไท 33 มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และได้รับบาดเจ็บ 1 ราย ส่วนจุดสุดท้ายภายในซอยจอมทอง 14 มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และได้รับบาดเจ็บ 3 ราย เบื้องต้น คาดว่าทั้ง 2 เหตุน่าจะเชื่อมโยงกัน โดยจากการสอบปากคำพยานทราบว่า กลุ่มผู้ตายมาขี่รถจักรยานยนต์ 4 คัน มาด้วยกัน 7 คน ส่วนกลุ่มคนร้ายใช้รถจักรยานยนต์ 4 คัน มาด้วยกัน 6-7 คน

รอง ผบช.น.กล่าวต่อว่า สำหรับสาเหตุนั้นยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าเกิดจากอะไร แต่ทั้งนี้ พยานได้ให้การว่า ก่อนหน้ากลุ่มผู้ตายเคยมีปากเสียงกันกับกลุ่มคนร้ายมาก่อน จนกระทั่งก่อนเกิดเหตุทั้ง 2 กลุ่มขี่รถจักรยานยนต์ไล่ทำร้ายกันมา อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ได้สั่งการให้ศูนย์สืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล ฝ่ายสืบสวนกองบังคับการตำรวจนครบาล 8 และ 9 รวมถึงฝ่ายสืบสวนท้องที่ มีการประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้าของคดีต่อไป

จากการสอบถามญาติของผู้ตายทราบว่า ก่อนหน้านี้ผู้ตาย และกลุ่มเพื่อนมีเรื่องทะเลาะกับกลุ่มคู่อริซึ่งอยู่ย่านตลาดพลูด้วยกัน และถูกกลุ่มคู่อริยึดรถจักรยานยนต์เอาไว้ โดยแม่ของผู้ตายได้ไปขอคืน และนำรถมาขับเล่นเหมือนอย่างเคย เมื่อกลุ่มคนร้ายมาเห็นจึงเกิดความไม่พอใจ และตะโกนให้ของลับ คาดว่าน่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้กลุ่มอริโกรธแค้นกัน และมาก่อเหตุดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบกล้องวงจรบริเวณร้านเกมซึ่งอยู่ในซอยจอมทอง 14 พบกลุ่มผู้เสียชีวิตขับรถ จยย.จากทางวัดบางสะแกนอก จำนวน 2 คัน โดยมีคนร้ายขับรถตามมากระหน่ำปืนตลอดทาง โดยคนขับนั้นสวมเสื้อสีแดง นุ่งกางเกงยีนส์ ไม่สวมหมวกกันน็อก สวมรองเท้าผ้าใบสีขาว คนซ้อนสวมเสื้อเชิ้ตสีเทา นุ่งกางเกงยีนส์ สวมหมวกกันน็อกแบบครึ่งใบสีขาว สวมรองเท้าผ้าใบสีขาว พร้อมกับถืออาวุธปืนไล่ยิงกลุ่มผู้ตายก่อนหลบหนีไปทางปากซอย

ต่อมา นายนรากร สุทธิโพธิ์ อายุ 18 ปี ที่ถูกยิงเข้าที่บริเวณลำตัว 10 นัด ได้เสียชีวิตลงแล้ว

วันเดียวกัน ที่ กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปริญญา จันทร์สุริยา รอง ผบช.น. เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุ ได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนสอบสวนของท้องที่ที่เกิดเหตุ เร่งหาเบาะแสภาพคนร้ายจากกล้องวงจรปิดและพยานบุคคล เพื่อรวบรวมหลักฐานหาเบาะแสของคนร้าย แต่ต้องใช้เวลาสักระยะ เพราะมีเหตุการณ์เกิดขึ้นหลายจุด โดยวันที่ 13 พ.ย. จะมีการเรียกประชุมชุดสืบสวน รวมถึงเจ้าหน้าที่กลุ่มงานป้องกันปราบราม เพื่อเร่งกำหนดแนวทางเพื่อหามาตรการป้องกันไม่ให้เกิดแหตุการณ์ดังกล่าวซ้ำขึ้นมาอีกครั้ง

พล.ต.ต.ปริญญา กล่าวอีกว่า เหตุการณ์ดังกล่าวคาดว่าไม่น่าจะใช่ฝีมือของกลุ่มเด็กแว้น เนื่องจาก พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. ได้เน้นย้ำมาตรการเรื่องการปราบปรามเรื่องการแข่งรถจยย. ทำให้การแข่งรถซิ่งบนท้องถนนลดน้อยลง โดยกลุ่มที่มีเรื่องเป็นกลุ่มวัยรุ่นที่มาออกมาจับกลุ่ม แล้วออกมาหาขับรถเล่นกัน กระทั่งมาเจอกับกลุ่มคู่กรณี แล้วมีการมองหน้ากันจนเป็นเหตุไม่พอใจและเกิดเหตุชักอาวุธปืนขึ้นมาไล่ยิงดังกล่าว

“ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุจะมีมากกว่า 1 กระบอกหรือไม่นั้น ต้องให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบอย่างละเอียดก่อน นอกจากนี้ ภายในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนขนาด 9 มม. 17 นัด อาวุธปืนยี่ห้อรูเกอร์ 9 มม. จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน” พล.ต.ต.ปริญญา กล่าว

ด้าน พล.ต.ต.มานิต กล่าวว่า การตั้งด่านช่วงตอนกลางคืนนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่รับผิดชอบได้มีการตั้งอยู่บนถนนใหญ่ไว้อยู่แล้ว แต่กลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวได้ใช้ซอยเล็กๆ ที่เชื่อมต่อกับถนนใหญ่เพื่อหลบหลีกการจับกุมของเจ้าหน้าที่ ทำให้การสกัดกั้นเหตุและตรวจค้นอาวุธปืนค่อนข้างยากลำบาก แต่ก่อนเกิดเหตุได้มีเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบ อยู่ใกล้กับจุดเกิดเหตุและเห็นเหตุการณ์ที่กลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวไล่ยิงกัน แต่ไม่สามารถติดตามได้ทัน เพราะมีการไล่ยิงกันหลายจุด จึงทำได้เพียงการประสานงานแจ้งระงับเหตุเท่านั้น ยืนยันว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่การขับแข่งรถจักรยานยนต์จนทำให้เกิดเหตุยิงกันขึ้นมา อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งดำเนินการหามาตรการและแผนเพื่อป้องกันเหตุอาชญากรรมต่างๆ พร้อมทั้งเร่งจับกุมผู้ก่อเหตุโดยเร็วต่อไป


ภาพจากกล้องวงจรปิด
กำลังโหลดความคิดเห็น