สองสามีภรรยาชาวพิษณุโลก เข้าร้องกองปราบปราม ให้ช่วยตามหาลูกชายที่หายตัวไปปริศนา พร้อมรถกระบะอีซูซุ!
วันนี้ (9 พ.ย.) ที่ กองปราบปราม เมื่อเวลา 12.30 น.นางเบญญาภา แก้วลิ อายุ 55 ปี นายบรรจง แก้วลิ อายุ 60 ปี สองสามีภรรยา อยู่บ้านเลขที่ 61 หมู่ที่ 6 ต.หนองแขม อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ผบก.ป.เพื่อให้ช่วยตามหาตัว นายสมพงษ์ แก้วลิ อายุ 37 ปี ลูกชายที่หายไปจากบ้าน พร้อมกับรถกระบะตอนเดียว ยี่ห้ออีซูซุ สีฟ้า ทะเบียน บน 5366 พิษณุโลก ตั้งแต่วันที่ 18 พ.ย.2554 ที่ผ่านมา
นางเบญญาภา กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ ลูกชายขายข้าวแกงอยู่ในแคมป์คนงานก่อสร้างที่ จ.ระยอง เป็นคนขยันไม่เที่ยวเตร่ แต่มีลักษณะนิสัยคล้ายผู้หญิง ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 18 พ.ย.2554 ได้มีมอเตอร์ไซค์รับจ้างมาบอกกับลูกชาย ว่า มีนายหน้าที่กรุงเทพฯ ต้องการจ้างรถกระบะไปรับ-ส่งคนงาน โดยให้ไปหาคนชื่อ นายภูมิ หลังจากวันนั้นลูกชายก็หายตัวไป และติดต่อไม่ได้อีกเลย ต่อมาเพื่อนของลูกชายได้ไปแจ้งความที่ สภ.มาบตาพุด และเมื่อเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา ตนก็ได้ไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่ป้อมสายตรวจหนองแซ่บ จ.ระยอง อีกครั้ง แต่ก็ไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด
นางเบญญาภา กล่าวต่อว่า ช่วงแรกๆ ที่ลูกหายไป ตนได้โทรศัพท์ไปหานายภูมิ เขาบอกว่า ลูกชายตนอยู่กับเขาที่แคมป์คนงานภายในสุขุมวิท ซอย 10 แต่พอโทร.ไปตอนหลังเขาบอกว่าไม่ได้พบลูกชายตนมา 7-8 เดือนแล้ว ตนจึงถามไปว่า แล้วรถกระบะหายไปไหน นายภูมิ บอกว่า รถอยู่โรงพัก แต่ไม่บอกว่าโรงพักไหน นอกจากนี้ นายภูมิ ยังบอกอีกว่า ถ้าอยากรู้เรื่องรถให้โทร.กลับมาอีกครั้งในวันที่ 5 พ.ย.นี้ เมื่อตนโทร.ไป นายภูมิ กลับพูดจาวกวนแล้วก็ปิดโทรศัพท์หนีไป
“ปัจจุบันฉันและสามีต้องไปช่วยกันรับจ้างทำงานก่อสร้าง และกู้ยืมเงินนอกระบบบ้าง เพื่อมาส่งค่างวดรถแทนลูกชาย เพราะเป็นชื่อผู้ค้ำประกันซึ่งตอนนี้เหลือประมาณ 1 แสนกว่าบาท ทั้งนี้ฉันเป็นห่วงลูกชายมาก ไม่รู้ว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไร หากลูกยังมีชีวิตอยู่ก็อยากให้เขาโทร.มาหาพ่อกับแม่บ้าง รู้ไหมว่าพ่อแม่เป็นห่วงมาก นอกจากนี้ อยากให้ตำรวจกองปราบช่วยตามหาลูกให้อีกทางด้วย เนื่องจากตำรวจท้องที่ไม่เร่งรัดตามคดีให้เลย” นางเบญญาภา กล่าวด้วยเสียงเครือ
ด้าน พล.ต.ต.สุพิศาล กล่าวว่า เบื้องต้นได้ให้พนักงานสอบสวน กก.2 บก.ป.สอบปากคำไว้เป็นหลักฐาน ก่อนจะให้เจ้าหน้าที่เร่งติดตามตัวนายภูมิ มาสอบสวนต่อไป