xs
xsm
sm
md
lg

อุทธรณ์ยืนคุก 16 ปี จ้างวานเผาตลาดนัดซันเดย์‏

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

 นางอภิญญา วงษ์บัญญัติ อายุ 55 ปี ผู้จัดการฝ่ายกฎหมายบริษัทธนสารสมบัติพัฒนา จำกัด ผู้จ้างวานวางเพลิงตลาดนัดซันเดย์(แฟ้มภาพ)
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำคุก 16 ปี สาวใหญ่หัวหน้าฝ่ายกฎหมาย จ้างวานเผาตลาดนัดซันเดย์ ชี้บริษัทของจำเลยเคยพยายามรื้อถอนหลายครั้งแต่ไม่สำเร็จ เชื่อเป็นมูลเหตุจูงใจเผาไล่ที่

ที่ห้องพิจารณา 912 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก วันนี้ (8 พ.ย.) ศาลนัดฟังคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ คดีดำ 3697/2550 ที่อัยการฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ฟ้องนางอภิญญา วงษ์บัญญัติ อายุ 55 ปี หัวหน้าฝ่ายกฎหมายของ บริษัทธนสารสมบัติพัฒนา จำกัด ชาวจ.สระบุรี นายณรินทร์ โพธิ์ยา อายุ 32 ปี อาชีพรับจ้าง ชาวจ.นนทบุรี เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานจ้างวานใช้ผู้อื่นวางเพลิงเผาโรงเรือน อันเป็นที่เก็บสินค้า ร่วมกันวางเพลิงเผาโรงเรือนฯ และ พ.ร.บ.อาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนฯ

โจทก์ฟ้องสรุปว่า เมื่อวันที่ 12 ก.ค.2550 นางอภิญญา จำเลยที่ 1 ได้จ้างวาน นายณรินทร์ จำเลยที่ 2 กับพวก เป็นเงินจำนวน 10,000 บาท เพื่อให้ไปวางเพลิงเผาร้านขายปลาสวยงาม ภายในตลาดนัดจตุจักร พลาซ่า ล็อก 8 (ตลาดนัดซันเดย์) ถ.กำแพงเพชร 2 ของ น.ส.พรทิพย์ พงษ์พิทักษ์โสภณ ผู้เสียหาย จนเป็นเหตุให้อาคาร รวมทั้งสิ่งปลูกสร้างที่ใช้เก็บสินค้าประเภทอุปกรณ์เลี้ยงปลาสวยงามถูกไฟไหม้เสียหาย คิดเป็นเงิน 1,300,000 บาท ก่อนหลบหนีไป เหตุเกิดที่ แขวงและเขตจตุจักร กทม. ซึ่งจำเลยที่ 1 ให้การปฏิเสธ ส่วนจำเลยที่ 2 ให้การรับสารภาพ

โดยคดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำคุกนางอภิญญา จำเลยที่ 1 เป็นเวลา 16 ปี ส่วนนายณรินทร์ จำเลยที่ 2 จำคุก 10 ปี แต่ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง เนื่องจากให้การรับสารภาพ คงจำคุกจำเลยที่ 2 ไว้ 5 ปี ต่อมา จำเลยที่ 1 ยื่นอุทธรณ์เพียงคนเดียว อ้างว่าไม่มีส่วนรู้เห็นในการกระทำผิด

ศาลอุทธรณ์ประชุมตรวจสำนวนแล้ว เห็นว่า นางอภิญญา จำเลยที่ 1 เคยชี้ให้นายกฤษดา แม้นอ่วม ประจักษ์พยาน ดูอาคารที่ยังไม่ได้รื้อถอน ซึ่งเข้าใจว่า จำเลยที่ 1 ต้องการให้วางเพลิง แต่นายกฤษดา ไม่ยอมรับงานดังกล่าว ต่อมา นางอภิญญา จำเลยที่ 1 ได้ว่าจ้างนายณรินทร์ จำเลยที่ 2 กับพวก เป็นจำนวนเงิน 10,000 บาท ให้จัดการเผาอาคารดังกล่าว ต่อมา จำเลยที่ 2 กับพวก ได้แบ่งกำลังเป็น 2 ชุด ชุดแรกมีหน้าที่ขนแกลลอนน้ำมันเชื้อเพลิง และคอยคุมเชิง ส่วนชุดที่ 2 เป็นผู้วางเพลิง โดยพยานโจทก์เบิกความสอดคล้องกัน แม้จะมีข้อขัดแย้งแตกต่างกันบ้างในรายละเอียดปลีกย่อย ก็มิใช่สาระสำคัญ และการรื้อถอนอาคารร้านค้าหลังใดหรือไม่นั้น ต้องอาศัยจำเลยที่ 1 ที่เป็นหัวหน้าฝ่ายกฎหมาย บริษัทธนสารฯ ผู้ดำเนินการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างภายในบริเวณตลาดนัดซันเดย์ เป็นผู้ชี้บอก หรือนำการรื้อถอน ซึ่งจำเลยที่ 1 มีหน้าที่ควบคุมดูแลการรื้อถอนร้านค้าให้หมดไปจากพื้นที่บริเวณตลาดนัดซันเดย์ เพื่อก่อสร้างอาคารให้บรรลุผลสำเร็จตามประสงค์ของบริษัทธนสารฯ จึงเป็นมูลเหตุจูงใจสำคัญให้จำเลยที่ 2 วางเพลิงอาคารร้านค้าที่ไม่ยอมรื้อถอนออกไป

ที่จำเลยที่ 1 นำสืบ และอ้างว่า พื้นที่เกิดเหตุเป็นเพียงแนวถนน ไม่ใช่บริเวณที่จะใช้ก่อสร้างจึงไม่มีเหตุจำเป็นที่จะต้องวางเพลิงเพื่อขับไล่นั้น ปรากฏข้อเท็จจริงก่อนเกิดเหตุว่า บริษัทธนสารฯ ได้พยายามเข้าไปรื้อถอน และทุบอาคารร้านค้าของผู้เสียหายหลายครั้งแต่ไม่สำเร็จ เพราะผู้เสียหายไม่ยินยอม และเรียกค่าชดเชยจำนวน 200,000 บาท หากจำเลยที่ 1 ว่าจ้างให้จำเลยที่ 2 กับพวกกระทำการสำเร็จ บริษัทธนสารฯ ซึ่งเป็นนายจ้างก็ไม่ต้องจ่ายเงินจำนวนมากเป็นค่าชดเชย ทั้งยังสามารถก่อสร้างอาคารตามโครงการได้อย่างสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น จึงเป็นมูลเหตุจูงใจสำคัญอีกประการหนึ่ง พยานหลักฐานโจทก์ ตลอดจนพฤติการณ์ฟังได้โดยปราศจากข้อสงสัยว่า จำเลยที่ 1 เป็นผู้จ้างวานให้จำเลยที่ 2 กับพวกร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์ อุทธรณ์ของจำเลยที่ 1 ฟังไม่ขึ้น ที่ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยที่ 1 มานั้น ศาลอุทธรณ์เห็นพ้องด้วย พิพากษายืน
กำลังโหลดความคิดเห็น