เกิดเหตุ ตร.จราจรถูกรถชนบนทางด่วนบริเวณช่วงออกทางด่วนสุขุมวิท 62 ก่อนถึงจุดพักรถ 500 เมตร บาดเจ็บสาหัส หลังเป็น ตร.ยอดฮีโร่เข้าช่วยเหลือประชาชนผู้ใช้รถแก๊สหมดอยู่บนทางด่วน
วันนี้ (7 พ.ย.) เมื่อเวลา 10.30 น. พ.ต.ท.ชุมพล เรืองพุ่ม พนักงานสอบสวน (สบ3) สน.ทางด่วน 1 ได้รับแจ้งเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจถูกรถชนได้รับบาดเจ็บสาหัสบริเวณบนทางด่วนขาออกมุ่งหน้าถนนบางนา-ตราด เลยทางออกสุขุมวิท 62 ก่อนถึงจุดพักรถ 500 เมตร แขวงบางจาก เขตพระโขนง กทม.จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สายตรวจ สน.ทางด่วน 1
ที่เกิดเหตุเป็นไหล่ทางช่องซ้ายสุดฝั่งขาออก เลยทางออกด่วนสุขุมวิท 62 ก่อนถึงจุดพักรถ 500 เมตร บริเวณพื้นผิวถนนทางด่วนพบร่างของ ด.ต.สัมฤทธิ์ ภูศักดิ์ อายุ 39 ปี ผบ.หมู่งานสายตรวจ งานศูนย์ควบคุมจราจรด่วน 1 กก.2บก.จร.ในสภาพสวมชุดเครื่องแบบเจ้าหน้าที่ตำรวจ นอนหมดสติหายใจโรยริน ใกล้กันพบหมวกเจ้าหน้าที่สายตรวจเลขที่ 7427 ห่างไปประมาณ 20 เมตร พบรถ จยย.ของโครงการ บก.จร.ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นแฟนทอม สีขาว ทะเบียน วขน 685 กทม.สภาพด้านท้ายรถพังยับเยิน ใกล้กันพบรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีขาว ทะเบียนป้ายแดง ก 9142 กทม.บรรทุกของมาเต็มคันรถ ทราบชื่อคนขับ คือ นายวาสนา วังสีแก้ว อายุ 38 ปี ใกลกันพบรถกระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน ยร 5962 กทม.สภาพหน้ารถมีร่องรอยการชนพังยับเยิน ทราบชื่อคนขับรถ นายสาธิต เชยเคารพ อายุ 39 ปี ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุขับรถชน ด.ต.สัมฤทธิ์ ได้รับบาดเจ็บ ยืนอยู่รอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เร่งส่งผู้บาดเจ็บไปรักษาตัวที่ รพ.ไทยนครินทนร์ จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงนำตัวไปสอบสวนต่อที่ สน.ทางด่วน 1
สอบสวน นายวาสนา ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนขับรถบริเวณดังกล่าวแล้วเครื่องเกิดดับ จากการตรวจสอบแล้ว พบว่า แก๊สของรถหมด ตนจึงจอดรอขอความช่วยเหลือ จนมี ด.ต.สัมฤทธิ์มาพบแล้วได้จอดรถบริเวณฝั่งข้างคนขับทำการสอบถาม ทันใดนั้น ก็มีรถที่วิ่งตามหลังมาด้วยความเร็วชนรถเจ้าหน้าที่เข้าอย่างจังจนกระเด็นไปกว่า 20 เมตร ตนจึงแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบที่เกิดเหตุดังกล่าว
ด้าน นายสาธิต ให้การต่อเจ้าหน้าที่ว่า ก่อนเกิดเหตุตนขับรถในช่องไหล่ทางซ้ายสุด วิ่งตามรถเมล์ของ ขสมก.มาด้วยความเร็วประมาณ 80-90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จู่ๆ รถเมล์ก็เบี่ยงขวากะทันหันตนขับรถตามมาไม่ทันเห็นว่ามีรถข้างหน้าจอดอยู่จึงชนเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าอย่างจัง จากนั้นตนจึงได้จอดรถลงไปช่วยเหลือ และรอมอบตัวแสดงความบริสุทธิ์กับเจ้าหน้าที่
นางปาริยา ชุมวรฐายี อายุ 44 ปี ภรรยาของ ด.ต.สัมฤทธิ์ กล่าวว่า ตนเป็นภรรยาของ ด.ต.สัมฤทธิ์ เพิ่งจะคบหากันได้ไม่กี่ปี ปกติ ด.ต.สัมฤทธิ์ มีอุปนิสัยชอบช่วยเหลือผู้อื่นอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นรถชาวบ้านเสีย หรือชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน เมื่อ ด.ต.สัมฤทธิ์ เห็นก็จะเข้าไปช่วยเหลือทันที ส่วนเรื่องงานก็จะเป็นคนกระตือรือร้นกับงานเป็นอย่างมาก เมื่อเห็นรถจอดเสียบนทางด่วน หรือมีการจราจรติดขัด ก็จะรับขับรถไปตรวจสอบและให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่
ต่อมา พ.ต.อ.สมศักดิ์ โอภาสเจริญกิจ รอง ผบก.จร. พ.ต.ท.ณัฐพล โกมินทรชาติ รอง ผกก.สน.ทางด่วน 1 เดินทางเข้าเยี่ยมอาการของ ด.ต.สัมฤทธิ์ โดย พ.ต.อ.สมศักดิ์ กล่าวว่า หลังนำตัว ด.ต.สัมฤทธิ์ ส่งโรงพยาบาล แพทย์ก็ได้นำตัวเข้าสู่ห้องไอซียู เพื่อเร่งทำการยื้อชีวิตโดยด่วน เนื่องจากมีสัญญาณชีพอ่อน กระทั่งทีมแพยท์ทำการยื้อชีวิตจนสัญญาณชีพเริ่มกลับมาใกล้เป็นปกติ เบื้องต้นอาการยังทรงตัว แต่ความดันกลับมาเป็นปกติ ซึ่งแพทย์กำลังเร่งให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่ หลังจากนี้ ทางเจ้าหน้าที่จะได้ประสานกับทางโรงพยาบาลไทยนครินทร์ เพื่อให้ส่งตัว ด.ต.สัมฤทธิ์ เข้ารักษาตัวที่ รพ.ตำรวจ ส่วนทางด้าน นายสาธิต เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการสอบปากคำลงบันทึกประจำวัน พร้อมทั้งตรวจสารเสพติดและระดับแอลกอฮอล์ พบว่า ไม่มีสารเสพติดในร่างกาย และไม่มีปริมาณแอลกอฮอล์ในสายเลือดแต่อย่างใด ก่อนแจ้งข้อหา ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ ก่อนดำเนินการต่อไป
