ตร.กองปราบปรามแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาแก๊งหลอกซื้อรถไถจ่ายเช็คเด้ง หลังผู้เสียหายจำนวน 21 คนเดินทางแจ้งความดำเนินคดี ด้านสาวผู้ต้องหาอ้างไม่มีส่วนรู้เห็น เผยถูกหลอกให้นำบัตรประชาชนพร้อมทะเบียนบ้านพร้อมเซ็นเช็คแลกเศษเงินแก๊งมิจฉาชีพเลยถูกจับดำเนินคดีอ่วม!
วันนี้ (5 พ.ย.) ที่ กองปราบปราม เมื่อเวลา 15.00 น.พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.นิรันดร์ นามสุวรรณ ผกก.2 บก.ป.แถลงข่าวจับกุม นางมาริกา หล้าอินเชื้อ อายุ 35 ปี กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาริกา ทรัพย์ไพศาล เทรดดิ้ง จำกัด อยู่บ้านเลขที่ 7/13 หมู่ 18 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี และนายชัยวัฒน์ นวมมงคล อายุ 59 ปี พร้อมของกลาง รถไถขนาดเล็ก จำนวน 3 คัน พร้อมอะไหล่ เช่น โช้กอัพ ใบมีด จำนวนหลายรายการ มูลค่าหลายแสนบาท และกระเบื้องปูพื้นอีก 545 กล่อง โดยยึดของกลางได้จากบ้านเลขที่ 154 หมู่4 ต.สามง่าม อ.ดอนตูม จ.นครปฐม และที่บ้านเลขที่ 115/162 ซอย 10 หมู่บ้านมืองประชา ต.บางคูวัด อ.เมืองปทุมธานี ซึ่งเป็นบ้านพักของ นายชัยวัฒน์
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 10 ต.ค.ที่ผ่านมา นายพนธ์ มธุรพงษ์สาธร พร้อมผู้เสียหายจำนวน 21 คน ได้เข้าแจ้งความพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ป. ให้ดำเนินคดีกับบริษัท มาริกา ทรัพย์ไพศาล เทรดดิ้ง จำกัด หลังจากที่สั่งซื้อของแล้วออกเช็คให้ ปรากฏว่าไม่สามารถนำไปขึ้นเงินได้ ต่อมา เจ้าหน้าที่ได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายศาลเข้าตรวจสอบบริษัทมาริกา ตั้งอยู่ที่ปากทางเข้าหมู่บ้านเมืองเอก รังสิต จ.ปทุมธานี พบว่าบริษัทปิดตัวไปแล้ว ก่อนสืบสวนขยายผลตามไปจับกุมนางมาริกา ได้ที่บ้านพักใน อ.งาว จ.ลำปาง จึงแจ้งข้อหาฉ้อโกง และความผิดตาม พ.ร.บ.เช็คแก่ นางมาริกา ส่วนนายชัยวัฒน์ แจ้งข้อหารับซื้อของโจร
สอบสวนนางมาริกาให้การว่า ไม่มีส่วนรู้เห็นแต่อย่างใด ส่วนที่มีชื่อเป็นกรรมการผู้จัดการ และคนสั่งจ่ายเช็คนั้น เนื่องจากเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา ขณะนั้นทำงานเป็นลูกจ้างในร้านรับซื้อของเก่าอยู่ที่ อ.คูคต จ.ปทุมธานี ก็มีคนมาติดต่อว่าจ้าง 5 หมื่นบาท เพื่อขอนำทะเบียนบ้าน และบัตรประชาชนไปเปิดบริษัท แต่ได้เงินมาแค่ 2 หมื่นบาท จากนั้นก็มีคนให้เซ็นเช็คได้เงินครั้งละ 1-2 พันบาท หลังจากนั้นก็เดินทางกลับไปที่บ้าน จ.ลำปาง ก่อนจะถูกจับกุมดังกล่าว
ส่วนนายชัยวัฒน์ ให้การว่า ของกลางที่เจ้าหน้าที่ยึดได้นั้น มีนายวินัย หรือ “เฮียน้อย” ไม่ทราบนามสกุลนำมาขายให้ บางส่วนก็ขอฝากเอาไว้ โดยที่ไม่มีส่วนรู้เห็นแต่อย่างใด จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ป.ดำเนินคดี พร้อมทั้งเร่งขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการที่เหลือมาดำเนินคดีต่อไป