xs
xsm
sm
md
lg

รวบแก๊งขโมยแบตเตอรี่ต้นเหตุสัญญาณมือถือล่ม เสียหายร่วม 10 ล้าน

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

ของกลางแบตเตอรี่ที่ ตร.ตามยึดได้
บก.น.8 โชว์ผลงานจับกุมแก๊งขโมยตัวแสบ ต้นเหตุทำสัญญาณเครือข่ายโทรศัพท์มือถือล่ม สร้างความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท พฤติกรรมสุดแสบเสพยาบ้า ตะลอนเที่ยว ตจว.เงินหมด เลยก่อเหตุงัดแงะเอาแบตเตอรี่สำรองระบบส่งสัญญาณเครือข่ายโทรศัพท์ 3 ค่ายดัง ขายแลกเงินเที่ยว-เสพยาฯ “เถ้าแก่ร้านรับซื้อของเก่า” ดวงซวยติดร่างแหถูกดำเนินคดีฐานรับซื้อของโจร!!!

วันนี้ (25 ก.ค.) เวลา 11.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. พล.ต.ต.ประหยัชว์ บุญศรี ผบก.น.8 พ.ต.อ.จีรศักดิ์ ขำคง รอง ผบก.น.8 พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก.น.8 ร่วมแถลงจับกุมผู้ต้องหาแก๊งตระเวนลักทรัพย์และรับซื้อของโจร จำนวน 4 ราย ประกอบด้วย นายนิพนธ์ หรือตุ๋ย มีพ่วง อายุ 35 ปี, นายสุวิทย์ หรือโหน่ง หอมขจร อายุ 28 ปี นายธีรยุทธ์ หรือ เอก อิ่มประเสริฐ อายุ 30 ปี และนายรังสรรค์ ขำขะจิต อายุ 32 ปี (ผู้รับซื้อของโจร) พร้อมของกลางรถยนต์กระบะยี่ห้อเชฟโรเลต สีเทา หมายเลขทะเบียน ฒฎ 3313 กทม.จำนวน 1 คัน คีมตัดเหล็ก 1 อัน แบตเตอรี่ 67 ลูก มิเตอร์ทองเหลืองจำนวนมาก พร้อมอุปกรณ์ลักทรัพย์อื่นๆ โดยมูลค่าความเสียหายทั้งหมดประมาณ 10 ล้านบาท นอกจากนี้ยังพบยาบ้าที่ซุกซ่อนไว้อีก 9 เม็ด และยาไอซ์ 0.76 กรัม โดยสามารถติดตามจับกุมได้ที่บริเวณบ้านเลขที่ 52/3 ซอยสุดเขต ถ.ราษฎร์บูรณะ แขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กทม. เมื่อวานนี้ (24 ก.ค.) เวลาประมาณ 17.30 น.

พล.ต.ท.คำรณวิทย์เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ทำการสืบทราบมาว่าบ้านหลังดังกล่าว เตรียมขนย้ายแบตเตอรี่สำรองระบบจ่ายสัญญาณโทรศัพท์มือถือ ทั้งระบบทรู, ดีแทค และเอไอเอส ซึ่งโจรกรรมมาจากพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ และ จ.เพชรบูรณ์ มาซุกซ่อนไว้เพื่อรอการจำหน่าย จึงได้ซุ่มจนถึงเวลาเกิดเหตุ พบนายสุวิทย์พร้อมพวกกำลังเคลื่อนย้ายแบตเตอรี่ที่ลักมานำไปขาย จึงแสดงตัวเข้าจับกุม

จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 3 คนให้การรับสารภาพว่า ยังมีพรรคพวกที่ร่วมลักทรัพย์อีก 2 คนซึ่งหลบหนีไปแล้วก่อเหตุด้วย โดยแบตเตอรี่ทั้งหมดได้ลักมาจากในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ และ จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา กลุ่มผู้ต้องหาได้พากันไปเที่ยวงานสงกรานต์ที่ จ.บุรีรัมย์ แต่ขากลับเงินหมดจึงวางแผนลักแบตเตอรี่ตามจุดจ่ายสัญญาณของค่ายโทรศัพท์มือถือต่างๆ รวมถึงล่าสุดได้ไปเที่ยวที่เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ กลุ่มผู้ต้องหาก็ได้ทำการลักทรัพย์ในลักษณะเดียวกันอีก ทั้งนี้ แบตเตอรี่และทองเหลืองที่ได้มานั้นจะนำไปขายต่อให้พ่อค้ารับซื้อของเก่าที่ จ.สมุทรสาคร โดยเงินที่ได้มาจะนำไปเที่ยวเตร่ และไปซื้อยาบ้ามาเสพ

ด้าน นายรังสรรค์ ขำขะจิต เจ้าของร้าน อ.เจริญการค้า ใน จ.สมุทรสาคร กล่าวว่า ตนไม่ทราบว่าแบตเตอรี่ที่ผู้ต้องหานำมาขายเป็นของขโมยมา ซึ่งการแต่งกายดูดีประกอบกับสอบถามว่าเป็นแบตเตอรี่จากที่ไหน แก๊งลักทรัพย์แจ้งว่าเป็นแบตเตอรี่เครื่องเสียงที่ใช้แข่งขัน และไม่ได้ใช้งานจึงนำมาขายต่อ ตนจึงหลงเชื่อรับซื้อไว้ โดยแบตเตอรี่ทั่วไปจะซื้อมาในราคากิโลกรัมละ 27 บาท นำไปขายอีกทอดในราคา 29 บาท ส่วนมิเตอร์ทองเหลืองจะรับซื้อกิโลกรัมละ 140 บาท และขายต่อกิโลกรัมละ 145 บาท โดยผู้ต้องหานำมาขายต่อที่ร้านมาประมาณ 3 ครั้งแล้ว

ด้าน ตัวแทนผู้เสียหายของระบบสัญญาณ กล่าวว่า ความเสียหายไม่ใช่แค่แบตเตอรี่เท่านั้น ยังทำให้ระบบการสื่อสารล่มด้วย ซึ่งทำให้บริเวณนั้นไม่สามารถใช้การได้จนอาจเกิดผลเสียทางธุรกิจ นอกจากนี้ ความเสียหายรวมถึงตู้ติดตั้งที่ถูกงัดแงะซึ่งก็ต้องซ่อมแซมด้วย

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหาร่วมกับพวกที่หลบหนีร่วมกันลักทรัพย์และรับของโจร , มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ก่อนจะนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ตร.แถลงการจับกุมคนร้ายที่ บช.น.
กำลังโหลดความคิดเห็น