กองปราบฯ ขอเลื่อนให้ “สนธิ-เสธ.อ้าย” มารับทราบข้อกล่าวหาในคดียุยงให้ราษฎรเป็นกบฏ-ยุยงทหารให้ก่อการปฏิวัติ เป็นวันที่ 22 พ.ย.และ 15 พ.ย. เพื่อง่ายต่อการควบคุมดูแลผู้ที่จะเดินทางมาให้กำลังใจ
วันนี้ (1 พ.ย.) ที่กองปราบปราม พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รอง ผบก.ป.กล่าวถึงความคืบหน้าคดีที่นายคารม พลพรกลาง ทนายความกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) พร้อมทีมทนายความกลุ่มคนเสื้อแดง เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป.เมื่อวันที่ 26 ม.ค.ที่ผ่านมา เพื่อให้ดำเนินคดีต่อนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และ พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ หรือ เสธ.อ้าย ประธานองค์การพิทักษ์สยาม ในข้อหายุยงให้ราษฎรเป็นกบฏ ยุยงทหารให้ก่อการปฏิวัติ และแสดงความคิดเห็นไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ กรณีที่บุคคลทั้งสองออกมาแสดงความคิดเห็นอันเป็นการล้มล้างรัฐบาลว่า หลังจากพนักงานสอบสวนได้ทำการส่งหมายเรียกให้นายสนธิ และ พล.อ.บุญเลิศ มารับทราบข้อกล่าวหาดังกล่าวที่กองปราบปรามในวันที่ 7 พ.ย.นี้ เวลา 10.00 น.ตามที่เป็นข่าวนั้น ปรากฏว่าทางพนักงานสอบสวนได้ขอเลื่อนให้ พล.อ.บุญเลิศมารับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 15 พ.ย. ส่วนนายสนธิให้มารับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 22 พ.ย.นี้ ส่วนการจัดเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยก็ใช้กำลังคอมมานโดประมาณ 1 กองร้อย หรือ 150 นายเช่นเดิม
วันนี้ (1 พ.ย.) ที่กองปราบปราม พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รอง ผบก.ป.กล่าวถึงความคืบหน้าคดีที่นายคารม พลพรกลาง ทนายความกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) พร้อมทีมทนายความกลุ่มคนเสื้อแดง เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป.เมื่อวันที่ 26 ม.ค.ที่ผ่านมา เพื่อให้ดำเนินคดีต่อนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และ พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ หรือ เสธ.อ้าย ประธานองค์การพิทักษ์สยาม ในข้อหายุยงให้ราษฎรเป็นกบฏ ยุยงทหารให้ก่อการปฏิวัติ และแสดงความคิดเห็นไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ กรณีที่บุคคลทั้งสองออกมาแสดงความคิดเห็นอันเป็นการล้มล้างรัฐบาลว่า หลังจากพนักงานสอบสวนได้ทำการส่งหมายเรียกให้นายสนธิ และ พล.อ.บุญเลิศ มารับทราบข้อกล่าวหาดังกล่าวที่กองปราบปรามในวันที่ 7 พ.ย.นี้ เวลา 10.00 น.ตามที่เป็นข่าวนั้น ปรากฏว่าทางพนักงานสอบสวนได้ขอเลื่อนให้ พล.อ.บุญเลิศมารับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 15 พ.ย. ส่วนนายสนธิให้มารับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 22 พ.ย.นี้ ส่วนการจัดเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยก็ใช้กำลังคอมมานโดประมาณ 1 กองร้อย หรือ 150 นายเช่นเดิม
