ทีมทนายความเสื้อแดงเดินทางเข้าพบตำรวจกองปราบฯ เพื่อสอบถามความคืบหน้าคดีที่ได้แจ้งความดำเนินคดีต่อนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ และ พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ หรือ เสธ.อ้าย ประธานองค์การพิทักษ์สยาม ในข้อหายุยงให้ราษฎรเป็นกบฏ ยุยงทหารให้ก่อการปฏิวัติ
วันนี้ (30 ต.ค.) ที่ กองปราบปราม เมื่อเวลา 11.00 น. นายคารม พลพรกลาง ทนายความกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) พร้อมทีมทนายความเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนของ กก.1 บก.ป. เพื่อสอบถามความคืบหน้าคดีที่ได้แจ้งความดำเนินคดีต่อนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และ พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ หรือ เสธ.อ้าย ประธานองค์การพิทักษ์สยาม ในข้อหายุยงให้ราษฎรเป็นกบฏ ยุยงทหารให้ก่อการปฏิวัติ และแสดงความคิดเห็นไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ กรณีที่บุคคลทั้งสองออกมาแสดงความคิดเห็นอันเป็นการล้มล้างรัฐบาล รวมไปถึงการชุมนุมที่สนามม้านางเลิ้งเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
นายคารมกล่าวว่า เมื่อวันที่ 26 ม.ค.ที่ผ่านมาได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อนายสนธิ และ พล.อ.บุญเลิศ จึงได้มาติดตามความคืบหน้าทางคดี พร้อมกับนำซีดีบันทึกการชุมนุมเมื่อวันอาทิตย์ที่ 28 ต.ค.ที่ผ่านมา ร่วมทั้งข้อความบนอินเทอร์เน็ตและหนังสือพิมพ์มามอบให้พนักงานสอบสวนไว้เป็นหลักฐานด้วย และที่มาวันนี้เพื่อต้องการสอบถามพนักงานสอบสวนว่า ที่ผ่านมาได้เชิญผู้เกี่ยวข้องมาสอบปากไปบ้างแล้วหรือไม่ หากยังไม่ดำเนินการจะยื่นเรื่องต่อ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. และ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี รวมไปถึงอาจมีการยื่นคำร้องต่ออัยการสูงสุดเพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาต่อไป
“ผมเห็นว่าการกระทำของบุคคลทั้งสองนั้นเข้าข่ายข่มขู่และมีเจตนาล้มล้างรัฐบาล อีกทั้งการเรียกร้องยังถือว่าไม่บริสุทธิ์ใจ เนื่องจากการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลสามารถทำได้หลายช่องทาง ส่วนจะมีการฟ้องดำเนินคดีกับบุคคลอื่นเพิ่มเติมหรือไม่จะต้องพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง” ทนายความ นปช.กล่าว
ต่อมา นายวรัญชัย โชคชนะ และ นายณัฐวุฒิ อวนทะเล ในนามขององค์การพิทักษ์ประชฺปไตย ก็ได้เข้าพบ พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รอง ผบก.ป. เพื่อร้องทุกข์ กล่าวโทษให้พิจารณาถึงเรื่องที่องค์กรพิทักษ์สยาม จัดการชุมนุมเมื่อวันที่ 28 ต.ค.ที่ผ่านมา มีวัตถุประสงค์จะล้มล้างและขับไล่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ว่าการกระทำดังกล่าวขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 68 หรือไม่ ส่วนตัวแล้วเชื่อว่าน่าจะเข้าข่ายเป็นกบฏ ดังนั้นจึงขอให้ตรวจสอบว่ามีการกระทำที่ผิดกฎหมาย ซึ่งหากพบก็ขอให้ดำเนินการตามกฎหมายด้วย ซึ่งทาง พ.ต.อ.ประสพโชค ได้ให้พนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป.รับเรื่องไว้พิจารณาต่อไป