xs
xsm
sm
md
lg

“เหลิม” แถลงจับยาบ้าบิ๊กล็อต

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี แถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายใหญ่ของกลางจำนวนมาก
“เฉลิม” แถลงผลงานตำรวจจับผู้ต้องหาลักลอบขนยาเสพติดจำนวนมหาศาลซุกซ่อนมาในลังพัสดุรถสิบล้อ

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) - เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 26 ตุลาคม ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ โชติมา ผบช.ปส.ร่วมกันแถลงผลการจับกุม นายอรรถพล เกิดอาชาชาญ อายุ 30 ปี ชาว จ.เชียงใหม่ พร้อมของกลางยาบ้า 50 มัด จำนวน 1 ล้านเม็ด โดยจับกุมได้ที่บริษัท นิ่มซี่เส็งขนส่ง (1988) จำกัด สาขาตลาดไท อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 22 ต.ค.ที่ผ่านมา

ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 9 ต.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติดและตำรวจ สภ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ได้ทำการจับกุม นายซ่งหัว แซ่จู นายกว๋อไท่ แซ่จัง นายเสียวซือ แซ่เหอ ชาว จ.เชียงราย ได้ที่บ้านเลขที่ 88/1437 ม.5 ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร พร้อมยึดของกลางยาบ้า จำนวน 1,794,000 เม็ด และจากการตรวจสอบ พบว่า ยาเสพติดของกลางถูกบรรจุในกล่องกระดาษจำนวน 20 กล่อง มีการขนส่งผ่านระบบการขนส่งสินค้าจากสถานีขนส่งสินค้า โดยมีต้นทางที่ จ.เชียงใหม่ และมีจุดรับสินค้าที่ปลายทางที่ตลาดไท ชุดสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดของ บช.ปส.ทำการสืบสวน พบว่า นายอรรถพล มีส่วนเกี่ยวข้องกับการขนส่งยาเสพติดผ่านระบบขนส่งสินค้าดังกล่าว นำไปสู่การจับกุม นายอรรถพล พร้อมด้วย นายเทวัญ แสงศรทวีศักดิ์ อายุ 32 ปี และ นายวีระ เตชะเลิศพนา อายุ 30 ปี พร้อมยึดของกลางยาบ้า 40,000 เม็ด ที่หน้าโรงแรมเชียงใหม่ภูคำ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ขณะเดียวกัน ยังได้สืบสวนทราบว่า นายวีระ ได้นำลังบรรจุยาเสพติด จำนวน 10 ลัง มาส่งให้ที่ บริษัท นิ่มซี่เส็งขนส่ง (1988) จำกัด โดยใช้ชื่อ นายอาชาชาญ เป็นผู้ส่ง โดยมีชื่อผู้รับว่า คุณชัยเล็ก เจ้าหน้าที่จึงคุมตัว นายอรรถพล ไปรับลังพัสดุดังกล่าว พบว่า ภายในมียาบ้าซุกซ่อนอยู่ 1 ล้านเม็ด โดย นายอรรถพล อ้างว่า นายซัว ไม่ทราบนามสกุล เป็นผู้ว่าจ้าง โดยจะมีคนมารับยาต่อไปอีกทอด เจ้าหน้าที่จึงได้ขยายผลให้นายอรรถพลติดต่อกับผู้รับยาดังกล่าว แต่เจ้าตัวเกิดไหวตัวทันไม่มารับยา เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวนายอรรถพลดำเนินคดีตามกฎหมาย

อีกรายเมื่อวันที่ 18 ต.ค. ตำรวจ บช.ปส.จับกุม นายมานพ ขุนไกร อายุ 46 ปี ชาว จ.อุตรดิตถ์ นายอนุวัฒน์ แซ่โซ้ง อายุ 31 ปี ชาว จ.น่าน พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 9 แสนเม็ด ยาไอซ์ 50 กก.รถบรรทุก 10 ล้อ ยี่ห้ออิซูซุ สีขาวหมายเขทะเบียน 70-3506 เชียงราย โดยจับกุมได้บนถนนสายเทิง-เชียงของ ช่วง กม.2-3 อ.เทิง จ.เชียงราย

โดยศูนย์สกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติด ได้สืบทราบว่า จะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากแนวชายแดน อ.เวียงแก่น อ.ขุนตาล และอ.เทิง จ.เชียงราย โดยจะนำยาเสพติดซุกซ่อนมากับรถบรรทุกถ่านหินลิกไนต์ จึงได้จัดกำลังเฝ้าสังเกตการณ์ บริเวณ ถ.สายเทิง-เชียงของ ระหว่าง อ.เทิง และ อ.ขุนตาล กระทั่งเวลา 21.30 น.วันที่ 22 ต.ค.2555 พบรถบรรทุกสิบล้อคันดังกล่าว ซึ่งบรรทุกถ่านหินลิกไนต์ขับมาโดยมีรถกระบะยี่ห้ออีซูซุทะเบียน บท 9654 พะเยา ขับนำหน้า เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุม นายมานพ คนขับรถบรรทุกสิบล้อ ขณะเดียวกัน พบ นายอนุวัต แซ่โซ้ง หลบอยู่บริเวณกระบะพ่วงจากการสอบสวนทั้ง 2 คน ให้การรับสารภาพว่า ได้บรรทุกยาเสพติดดังกล่าว โดยบรรจุอยู่ในกระสอบปุ๋ย จำนวน 8 กระสอบ โดยมีถ่านหินลิกไนต์ปิดทับอยู่ด้านบนเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ ส่วนรถกระบะได้ขับหลบหนีไปตามถ.สายเทิง-เชียงคำ จึงพยายามไล่ติดตามจนรถได้เสียหลัก ตกข้างทางบริเวณเยื้องปากทางเข้าเรือนจำจังหวัดเทิง คนขับและคนที่โดยสารมาได้วิ่งหลบหนีไปได้ ทั้งนี้ ตรวจสอบรถคันดังกล่าว พบว่า นายกอ แซ่มัว อายุ 24 ปี ชาว จ.เชียงราย เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ จึงได้ตรวจยึด ส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส.ดำเนินคดีต่อไป

พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า พฤติการณ์ขบวนการค้ายาเสพติดที่มีการลักลอบขนยาเสพติดเข้ามาในปริมาณมากในช่วงนี้นั้น เพราะรู้ว่าตำรวจ บช.ปส.กำลังจะนำเครื่องเอกซเรย์มาให้ในการตรวจหายาเสพติดตามด่านต่างๆ ซึ่งยาเสพติดที่ขนเข้ามาปริมาณมากก็ไม่ได้มีการจำหน่ายโดยทันที แต่จะนำมาพักไว้ที่จุดพักยา ก่อนที่จะทยอยจำหน่ายให้กับผู้ค้ารายย่อย โดยขณะนี้ขบวนการลำเลียงยาเสพติด ได้ใช้ช่องทางของระบบโลจิสติกในการขนยาเสพติด จึงได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง รอง ผบช.ปส.ไปศึกษากฎหมายที่เกี่ยวกับการขนส่งยาเสพติด เพื่อนำมาควบคุมกวดขันบริษัทรับขนส่งสินค้า พร้อมจะมีการหารือกับผู้ประกอบการขนส่งสินค้า รวมทั้งบริษัท ไปรษณีย์ไทย เพื่อกำหนดมาตรการ และลดช่องว่างในการใช้ระบบโลจิสติกส์ เป็นช่องทางในการลำเลียงยาเสพติดต่อไป





กำลังโหลดความคิดเห็น