“เหลิม-อดุลย์” แถลงข่าวยึดทรัพย์ขบวนการค้ายาเสพติดรายใหญ่ภาคเหนือ พร้อมของกลางยาบ้า 1.2 แสนเม็ด และยาไอซ์ 5 กก. มูลค่ากว่า 77.77 ล้านบาท เผยมูลค่าทรัพย์สิน “ดาบมนัส” ที่ยึดได้เบื้องต้น 20.61 ล้านบาท “เหลิม” ทำมึน! อ้างกรณีดาบตำรวจฉาวเป็นคดีแรกที่มีตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องขบวนการขนยานรก แฉมีนายตำรวจเกษียณอายุราชการไปแล้วหนุนหลังอยู่!!
วันนี้ (24 ต.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เมื่อเวลา 11.00 น. ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ เลขาธิการ ป.ป.ส. พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รองผบ.ตร. พล.ต.อ.วรพงศ์ ชิวปรีชา รอง ผบ.ตร. ร่วมกันแถลงข่าวการยึดทรัพย์ขบวนการค้ายาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่ภาคเหนือ จากกรณีการจับกุมนายฐิติ เพ็งสุข พร้อมยึดยาบ้าจำนวน 1,280,000 เม็ด และยาไอซ์ 5 กิโลกรัม ที่จังหวัดลำปาง เมื่อวันที่ 21 ตุลาคมที่ผ่านมา
โดยล่าสุด สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หรือ ป.ป.ส. ได้ติดตามยึดทรัพย์และอายัดทรัพย์สินเครือข่ายค้ายาดังกล่าว มูลค่า 77.77 ล้านบาท แบ่งเป็น 1. นายธิติ เพ็งสุข รวม 4.8 ล้านบาท ได้แก่ รถยนต์ยี่ห้อมิตซูบิชิ ทะเบียน ญฏ 2706 กทม.1 คัน บัญชีเงินฝาก 5 บัญชี นาฬิกา 9 เรือน จักรยานยนต์ยี่ห้อฮาเลยดวิสัน 1 คัน ที่ดิน 1 แปลง 2. ด.ต.มนัส เสือโพธิ์ รวม 20.61 ล้านบาท ได้แก่ บ้านพร้อมที่ดิน1 หลัง คอนโดมิเนียมซิตี้โฮม 1 ห้อง ทองคำแท่ง 20 บาท ทองรูปพรรณ 14 รายการ อาวุธปืน 1 กระบอก รถยนต์ 4 คัน บัญชีเงนฝาก 3 บัญชี มูลค่า 366,522 บาท โฉนดที่ดิน 8 แปลง จยย.2 คัน
3. นายสถิต และนางบัวไข แสงหล้า รวม 26.1 ล้านบาท ได้แก่ ทองรูปพรรณ และพระพร้อมกรอบทอง 7 รายการ รถไถ 1 คัน รถแทรกเตอร์ 2 คัน รถหกล้อ 1 คัน รถตักดิน 1 คัน ที่ดิน 40 ไร่ จักรยานยนต์ 1 คัน 4. นายประทิน-นางสุชาดา ทวยภา รวม 26.2 ล้านบาท ได้แก่รุยนต์ 1คัน รถไถ 1 คัน จักรยานยนต์ 1 คัน อาวุธปืน 2 กระบอก ที่ดิน 44 ไร่ พร้อมบ้าน 2 หลัง 5. นายระพิณ คำแฝงและนายสุเทพ คำแฝง อยู่ระหว่างการตรวจสอบทรัพย์สินในเขต อ.เมือง จ.กำแพงเพชร
ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ด.ต.มนัสได้ติดต่อขอเข้ามอบตัวแล้ว อยู่ระหว่างการนำตัวมาสอบสวน จากการสอบสวนเบื้องต้นยังไม่พบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจรายอื่นๆ เข้าไปเกี่ยวข้อง ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปพัวพันในการขนยาเสพติดรายใหญ่ โดยมีนายตำรวจที่เกษียณอายุราชการไปแล้วเป็นหัวหน้า ที่ผ่านมาตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติดลักษณะจำหน่ายรายเล็กๆ เรื่องนี้ ผบ.ตร.เอาจริงจะเข้าไปดำเนินการ หากเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปพัวพันยาเสพติด จะดำเนินการโดยเด็ดขาด ไม่มีการปกป้อง นอกจากนี้จะต้องสอบสวนผู้บังคับบัญชาด้วยว่าปล่อยปละละเลยหรือไม่ ที่ให้ผู้ใต้บังคับบัญชาไปขนยาเสพติดได้หลายรอบแล้ว
อีกราย ตำรวจปราบปรามยาเสพติดร่วมกับเจ้าหน้าทีตำรวจภูธรภาค 5 จับกุม นายเกรียงไกร แซ่ลาวื่อ อายุ 23 ปี นายสุชาติ ชูปิติวงศ์ อายุ 23 ปี นายสมศักดิ์ เลาวะ อายุ 21 ปี นายสามารถเกียรติไพรสัณฑ์ อายุ 19 ปี นายเกียรติศักดิ์ เกียรติยากุล อายุ 23 ปี นายทิชานนท์ วัฒนาตระกูลวงศ์ อายุ 29 ปี พร้อมยึดยาบ้า 400,000 เม็ด โดยจับกุมได้ที่หมู่บ้านทวีโชค อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากตำรวจได้รับแจ้งว่าจะมีกลุ่มผู้ค้ายาเสพติด ลักลอบนำยาเสพติดจากชายแดนไทย-พม่า ด้านอำเภอแม่ฟ้าหลวง เพื่อมาส่งให้กับลูกค้าที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยใช้รถกระบะยี่ห้อเชฟโรเลต สีน้ำเงิน ทะเบียน ผฉ 6758 เชียงใหม่ เป็นยานพาหนะ จึงเฝ้าสะกดรอยเส้นทางการลำเลียง กระทั่งรถคันดังกล่าวเข้ามาจอดในบ้านหลังดังกล่าวจึงแสดงตัวเข้าตรวจค้น พบยาเสพติดซุกซ่อนไว้ท้ายกระบะที่ดัดแปลงเป็นช่องลับ จึงได้ดำเนินการจับกุมพร้อมยึดของกลางดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ด้าน พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) กล่าวถึงกรณีที่พบตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องเป็นผู้ต้องหาในคดียาเสพติดหลายคดีในห้วงนี้ว่า ทั้งกรณีตำรวจ สน.ประชาชื่น และที่ สภ.ไชยปราการ นั้น พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.ได้ย้ำในประชุม ศปก.ตร. ชมเชยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมที่แม้ทราบว่าเป็นตำรวจก็ไม่ปลอ่ย ยังดำเนินการถึงที่สุด ส่วนในมุมที่ตำรวจและอดีตตำรวจไปเกี่ยวข้องขบวนการยาเสพติด ผบ.ตร.สั่งการดำเนินการทางวินัยและปกครองทั้งหมดอย่างเต็มที่
“ตำรวจไปทำผิดเสียเอง ผบ.ตร.บอกว่าตัดได้ต้องตัด ดำเนินการทางคดีอย่างถึงที่สุด และย้ำไปว่าให้ตรจสอบผู้บังคับบัญชากตามลำดับชั้นตามคำสั่งกรมตำรวจที่ 1212/2537 ที่ระบุชัดเจนในการที่ผู้บังคับบัญชาต้องดูแลเอาใจใส่ผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น ระดับผู้บังคับหมู่ ต้องมีรองสารวัตร สารวัตรดูแล ตามลำดับ ทุกกรณีต้องดูว่าผู้บังคับบัญชาสอดส่องต่อเนื่องหรือไม่ ถ้าไม่ดูแลกันเท่าที่ควรผู้บังคับบัญชาต้องรับผิดชอบด้วย อีกทางหนึ่งขณะนี้ พล.ต.อ.อัมรินทร์ อัครวงศ์ จเรตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการจเรตำรวจที่รับผิดชอบทุกหน่วยเข้าไปตรวจสอบการทำงานของตำรวจทุกพื้นที่อย่างเป็นขั้นเป็นตอน อย่างกรณีที่เกิดขึ้นแล้วจะต้องตรวจสอบเอาผิดผู้บังคับบัญชาให้เห็นเป็นแบบอย่าง มีการตั้งกรรมการมาตรวจสอบแล้ว” โฆษก ตร.กล่าว
พล.ต.ต.ปิยะกล่าวว่า กรณีจับกุมรองสารวัตรที่ อ.ชัยปราการ จ.เชียงใหม่นั้นตำรวจรายนี้ก็อยู่ในบัญชีตำรวจต้องสงสัยค้ายาเพียงแต่ยังจับไม่ได้ไล่ไม่ทัน แต่เมื่อมีหลักฐานก็จับกุมทันที ซึ่งตำรวจมีบัญชีรายชื่อตำรวจที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติดอยู่ รายไหนปรากฏหลักฐานชัด หาหลักฐานได้จับกุมทันที รายไหนยังไม่มีหลักฐานแต่มีข้อมูลก็ใช้วิธีการปรับย้ายออกจากการที่อาจส่งเสริมให้ทำผิดได้
