บช.น.ตามอายัดทรัพย์ดาบตำรวจประชาชื่น ขนยาบ้า ยึดตู้เซฟตรวจสอบ พบของกลางทั้งทองคำแท่ง และสมุดบัญชีรวม 13 รายการ ด้านศาลจังหวัดลำปาง ออกหมายจับกลุ่มผู้ต้องหาในเครือข่ายนี้รวม 7 คน
วันนี้ (23 ต.ค.) ที่ สน.ประชาชื่น พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ รอง ผบช.น. พลต.ต.สุธีร์ เนรกัณฐี ผบก.น.2 พ.ต.อ.จักร อ่อนนิ่ม ผกก.สน.ประชาชื่น เรียกประชุมทีมชุดสืบสวน เพื่อเร่งรัดการติดตามตัว ด.ต.มนัส เสือโพธิ์ ผบ.หมู่ จร.สน.ประชาชื่น ผู้ต้องหาลักลอบขนยาเสพติด 1.28 ล้านเม็ด และ ยาไอซ์ 5 กก.ที่ จ.ลำปาง พร้อมได้นำตู้เซฟที่ยึดได้จากคอนโดซิตี้โฮม ย่านรัตนาธิเบศร์ มาทำการตรวจสอบ เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม จากการตรวจสอบพบ ทองคำแท่ง น้ำหนัก 20 บาท จำนวน 1 แท่ง อาวุธปืน ยี่ห้อก๊อก 1 กระบอก เครื่องกระสุนปืน ขนาด 11 มม.จำนวน 9 นัด กระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 9 นัด สมุดบัญชีธนาคารระบุชื่อ ด.ต.มนัส เสือโพธิ์ จำนวน 1 เล่ม และระบุชื่อของผู้อื่นอีก 1 เล่ม เอกสารโฉนดที่ดิน จำนวน 2 ฉบับ และเงินสดจำนวนหนึ่ง รวมทั้งหมด 13 รายการ ซึ่งเอกสารบางส่วนเจ้าหน้าที่ได้เก็บไว้เป็นความลับ
พล.ต.ต.สุธีร์ เปิดเผยว่า วันนี้ ได้เรียกเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเพื่อเร่งรัดติดตามทรัพย์สินของ ด.ต.มนัส โดยสั่งการให้ทาง สน.ประชาชื่น สืบสวนติดตามขยายผลทรัพย์สิน เนื่องจากพยานหลักฐานยังได้มาไม่ครบ และจัดชุดแบ่งงานเป็น 2 ชุด โดยชุดแรกเป็นชุดติดตามทรัพย์สิน และอีกชุดติดตามจับกุมตัว ด.ต.มนัส โดยทรัพย์สินที่ยึดได้เบื้องต้น ประกอบด้วย รถยนต์จำนวน 3 คัน รถจักรยานยนต์ 2 คัน เงินในสมุดบัญชีจำนวนหนึ่ง ที่ดินจำนวนหนึ่ง และตู้เซฟได้ โดยเชื่อว่า ทรัพย์สินของ ด.ต.มนัส ยังมีอีกจำนวนมาก ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการขยายผลตรวจยึดเพิ่มเติม สำหรับตัว ด.ต.มนัส ได้มีคำสังให้ออกจากราชการไว้ก่อน สำหรับภรรยานอกสมรสของ ด.ต.มนัส นั้น อยู่ระหว่างการสอบสวนขยายผล ด้านการติดตามตัว ขณะนี้ทางศาลจังหวัดลำปางได้ออกหมายจับกลุ่มผู้ต้องหาในเครือข่ายดังกล่าวจำนวน 7 ราย รวมทั้ง ด.ต.มนัส และ อดีตตำรวจสังกัด บช.น.ซึ่งลาออกจากราชการไปแล้ว 10 ปี ซึ่งคาดว่า น่าจะเป็นพวกเพื่อนเก่าๆ ของ ด.ต.มนัส ด้านคดีนี้ทางจังหวัดลำปางเป็นผู้ดำเนินคดี ในส่วนของโรงพักประชาชื่น และ บช.ปส.ได้ประสานงานกันเพื่อร่วมคลี่คลายคดีนี้
ด้าน พ.ต.ท.ณรงค์ชัย น้อยศรี รอง ผกก.จร.สน.ประชาชื่น กล่าวว่า ตนเป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรงของ ด.ต.มนัส ซึ่งอยู่ในสายงานด้านการจราจรในพื้นที่ สน.ประชาชื่น สำหรับอุปนิสัยส่วนตัวของ ด.ต.มนัส นั้น เป็นคนนิสัยดี อัธยาศัยดี เข้ากับเพื่อนร่วมงานได้อย่างไม่มีที่ติ เป็นคนมีน้ำใจช่วยเหลือเพื่อนร่วมงานตลอดเวลา โดย ด.ต.มนัส พื้นเพแล้วเป็นจังหวัดอ่างทอง และเป็นคนมีฐานะ เนื่องจากเคยทราบว่าเป็นญาติกับ ส.จ.คนหนึ่งในจังหวัดอ่างทอง ซึ่งตนและผู้บังคับบัญชาและเพื่อนร่วมงานของ ด.ต.มนัส ไม่เคยระแคะระคายในตัว ด.ต.มนัส เลย เพราะไม่มีท่าที หรือพฤติกรรมให้ชวนสงสัยเลยแถมตลอดเวลายังเป็นคนขยันขันแข็ง เมื่อมาเจอเข้ากับเหตุการณ์แบบนี้ก็รู้สึกตกใจไปตามๆ กัน
พ.ต.ท.ณรงค์ชัย กล่าวอีกว่า สำหรับในส่วนของมาตรการดูแล ทาง สน.ก็มีการดูแลเป็นอย่างดี และระหว่างปฏิบัติหน้าที่ก็ไม่เคยด่างพร้อย แต่หลังจากออกเวรไปแล้วนั้น ทางเราก็ไม่สามารถตามดูได้ทุกฝีก้าว เมื่ออกเวรไปทำอะไรบ้างเราไม่รู้เป็นเรื่องส่วนตัว จากการสอบถามเพื่อนร่วมงานของ ด.ต.มนัส ก็ไม่มีเหตุให้ต้องสงสัยแต่อย่างใด มาทำงานก็ไม่เคยเกเร อาจจะมีลางานบ้างแต่ไม่บ่อย อุปนิสัยการกินการอยู่ที่โรงพักก็เรียบง่าย กินข้าวเหมือนตำรวจทั่วไป ไม่มีหรูหราฟู่ฟ้า เวลามาทำงานก็ขับรถ จยย.มา บางครั้งก็ขับรถเก๋งบีเอ็มดับเบิลยูมา ตนเคยสอบถามก็อ้างว่าเป็นของญาติ
พ.ต.ท.ณรงค์ชัย กล่าวต่ออีกว่า นอกจากนี้ ด.ต.มนัส ยังได้กู้ยืมเงินสหกรณ์ตำรวจและธนาคารออมสิน รวมเป็นเงินประมาณ 5 แสนบาท แถมก่อนหน้านี้ ก็ยังเคยยืมเงินเพื่อนร่วมงานใช้อีกด้วย ซึ่งพฤติกรรมโดยรวมที่พบเห็น และได้ยินจากเพื่อนร่วมงานของ ด.ต.มนัส ไม่ชวนให้สงสัยเลย สำหรับเพื่อน ด.ต.มนัส ที่เป็นตำรวจออกจากราชการไปแล้วนั้นก็เป็นเพื่อนสนิทของ ด.ต.มนัส และถูกให้ออกจากราชการเพราะไปพัวพันกับยาเสพติด ซึ่งจะมีการชักจูงกันไปอย่างไรหรือไม่นั้นไม่ทราบได้
“เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น.ได้เดินทางมาที่โรงพักและได้กำชับกับทางตน ว่า ให้สอดส่องพฤติกรรมของตำรวจในโรงพัก ใครมีพฤติกรรมน่าสงสัยก็ให้รีบดำเนินการทันที ในเรื่องที่สองก็กำชับให้ดูเครือข่ายยาเสพติดนี้ว่าไปไหนต่ออย่างไรจะได้จัดการได้” พ.ต.ท.ณรงค์ชัย กล่าว
ข่าวแจ้งว่า สำหรับเครือข่ายของ ด.ต.มนัส พบว่า มีอดีตตำรวจรายหนึ่งเกี่ยวข้องด้วย คือ จ.ส.ต.ประวิน พวยพา อยู่ฝ่ายงานสายตรวจ สน.ประชาชื่น แต่ถูกไล่ออกจากราชการ เมื่อประมาณปี 2546 เนื่องจากมีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติด และมีพฤติการณ์สนิทสนมกับ ด.ต.มนัส เป็นอย่างดี