ดส.ทลายแหล่งซุกยาเสริมความงามเถื่อน

กก.ดส.จับผู้ต้องหาแอบจำหน่ายยาเสริมความงามเถื่อน มูลค่ากว่า 20 ล้านบาท โดยมีการสั่งซื้อทางอินเทอร์เน็ต และใช้แมนชั่นภายในซอยรัชดาภิเษก 48 เป็นสถานที่กักเก็บและแพกยาส่งทางไปรษณีย์ให้ลูกค้าที่หลงเชื่อ

วันนี้ (18 ต.ค.) เวลา 10.30 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. พล.ต.ต.มานิต วงศ์สมบูรณ์ รอง ผบช.น. พ.ต.อ.วิวัฒน์ คำชำนาญ ผกก.กก.ดส. พร้อมด้วย นายพสิษฐ์ ศักดาณรงค์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.ดส. ร่วมแถลงผลจับกุมผู้ต้องหาขายยาเสริมความงามเถื่อน 3 ราย คือ นายธนัญชัย ณ ลำพูน อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 83 หมู่ 15 ต.ทาสบเส้า อ.แม่ทา จ.ลำพูน น.ส.แสง อายุ 19 ปี ชาวพม่า และ น.ส.น้อง อายุ 19 ปี ชาวพม่า พร้อมของกลางยาเสริมความงามที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนจำนวนมาก เช่น ยากลูตาไธโอน สารฟิลเลอร์ โบทอกซ์ และยาเสริมความงามอื่นๆ รวมมูลค่ากว่า 20 ล้านบาท โดยจับกุมได้ที่แมนชั่นแห่งหนึ่งในซอยรัชดาภิเษก 48

พล.ต.ท.คำรณวิทย์กล่าวว่า วานนี้ (17 ต.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.ดส. ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข ได้นำหมายค้นเลขที่ ค 358-361/2555 ของศาลอาญาเข้าตรวจค้นห้องพักเลขที่ 204,205,308,408 ของแมนชั่นแห่งหนึ่งภายในซอยรัชดาฯ 48 ซึ่งสืบทราบมาว่าเป็นแหล่งจำหน่ายยาเสริมความงามที่ไม่ได้ขออนุญาตขึ้นทะเบียนตำรับยาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย จากการตรวจค้นสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 3 ราย ซึ่งเจ้าหน้าที่จะทำการขยายผลหาแหล่งขายยาเสริมความงามเถื่อนต่อไป

จากการสอบสวน ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่ายาของกลางทั้งหมดเป็นของนายนิกกี้ โดยนายนิกกี้เป็นผู้ว่าจ้าง ซึ่งนายธนัญชัยยอมรับว่าเป็นคนดูแลสถานที่ดังกล่าว ส่วนลูกจ้างชาวพม่า 2 คนจะคอยแพกยาแล้วเรียกรถ จยย.รับจ้างไปส่งตามสถานที่ต่างๆ ในกรุงเทพฯ ส่วนตามต่างจังหวัดจะนำยาเสริมความงามเถื่อนส่งทางไปรษณีย์ โดยมีการสั่งซื้อผ่านทางอินเทอร์เน็ต

นายพสิษฐ์กล่าวว่า ขอฝากเตือนผู้ที่จะเข้ารับการใช้บริการด้านความสวยงาม ขอแนะนำว่าอย่าไปตามคลินิกที่ไม่ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้อง ซึ่งควรจะไปตามโรงพยาบาลที่มีแพทย์ผู้ชำนาญการด้านความงามจะดีที่สุด

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหานายธนัญชัย “ร่วมกันขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต” และ “อุปการะช่วยเหลือด้วยประการใดๆ ให้ที่พักพิงให้บุคคลต่างด้าวรอดพ้นจากการจับกุม” ส่วน น.ส.แสงแจ้งข้อหา “ร่วมกันขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต”, “เป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต” และ “เป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต”

สำหรับ น.ส.น้อง แจ้งข้อหา “ร่วมกันขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต” และ “เป็นบุคคลต่างด้าวไม่ทำงานตามประเภทหรือลักษณะงานที่ระบุไว้ในใบอนุญาต (ผิดสถานที่ ผิดนายจ้าง)” ก่อนนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป