ผบ.ตร.สั่งดำเนินคดีเด็ดขาด สวป.ศรีสำโรง ยิง ผกก.เสียชีวิต เหตุบกพร่องทางวินัย พร้อมขีดเส้นทุกกองบังคับการปราบแก๊งแว้นให้อยู่หมัดภายใน 1 เดือน ขู่มีผลต่อการพิจารณาโยกย้าย เตรียมพิจารณาจัดซื้ออุปกรณ์ดักจับ
วันนี้ (17 ต.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงเหตุ พ.ต.ท.จักรโรม ธูปแจ่ม สวป.สภ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิง พ.ต.อ.ธนัชพงศ์ ประเสริฐศิริปภา ผกก.สภ.ศรีสำโรง บนห้องทำงานใน สภ.และเสียชีวิตในเวลาต่อมา เหตุเกิดเมื่อเช้าวันที่ 17 ตุลาคม ว่า ได้รับรายงานเหตุแล้ว ทราบว่าเมื่อคืนที่ผ่านมา สวป.ดื่มสุราแล้ว ผกก.เข้าไปตักเตือน กระทั่งเช้า สวป.ยังไม่สร่างเมา จึงบุกเข้ายิง ผกก.ที่ห้องทำงาน เบื้องต้นสามารถจับกุม พ.ต.ท.จักรโรมได้แล้ว ต้องดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด ส่วนโทษทางวินัยนั้นเนื่องจากเหตุเพิ่งเกิดหลังจากนี้จะพิจารณา อย่างไรก็ตาม เรื่องตำรวจที่อาจย่อหย่อนทางวินัยไปบ้าง จุดสำคัญที่จะแก้ไขต้องอยู่ที่ผู้บังคับบัญชาต้องเป็นแบบอย่าง
พล.ต.อ.อดุลย์ชมการสาธิตใช้อุปกรณ์ดักจับรถซิ่งเพื่อพิจารณาจัดซื้อนำมาใช้ในการกวดขันปราบปรามแก๊งซิ่งป่วนเมือง หลังจากที่ ผบ.ตร.ออกมาตรการกวดขันไปเมื่อวันที่ 16 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยมีนายณรง จิตต์เนื่อง ตัวแทนบริษัท พรีซิพาร์ท จำกัด นำชุดดักจักรยานยนต์กวนเมือง หรือซิ่งสั่งลา ยี่ห้อบางระจัน ราคาเครื่องละ 13,500 บาท และเครื่องดักรถยนต์ 18,500 บาท มาสาธิตการใช้งาน โดยเครื่องนี้เป็นอุปกรณ์แบบพกพาได้ขนาดขนาดประมาณ 40 คูณ 50 ซม. มีแขนกลซึ่งมีใบมีดแบบฟันฉลามติดอยู่ สามารถยืดออกไปได้ไกลสุด 4.5 เมตร การใช้งานนั้น วางอุปกรณ์ดังกล่าวไว้กับพื้น เมื่อรถซิ่งขับผ่าน ผู้ใช้จะดันแขนกลออกเป็นกับดักส่งผลให้รถซิ่งผ่านจุดดังกล่าวยางแบน ซึ่งในการทดสอบเหมือนสถานการณ์จริง มีจักรยานยนต์ซิ่งขับผ่าน เมื่อขับผ่านเหยียบเครื่องดักดังกล่าวปรากฏว่ายางแบนทั้ง 2 ข้าง ขับต่อไปได้ไกลประมาณ 20-50 เมตร
พล.ต.อ.อดุลย์กล่าวว่า ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบเสียก่อนว่าจะซื้ออุปกรณ์นี้ไปใช้งานหรือไม่ ต้องดูทั้งความต้องการ การใช้งานของผู้ปฏิบัติ และด้านกฎหมาย ซึ่งก่อนหน้านี้เคยซื้อใช้ ก็ได้ผลดีพอสมควร แต่ก่อนจะจัดซื้อต้องพิจารณารอบคอบทุกด้าน ถ้าซื้อก็จะแจกจ่ายไปยังหน่วยในนครบาล และ หน่วยในพื้นที่ปริมณฑลซึ่งมีปัญหาแก๊งรถซิ่ง อย่างไรก็ตาม ตนสั่งการไปแล้วจากนี้ทุกหน่วยต้องจริงจังในการป้องกันปราบปรามแก๊งรถซิ่ง ทั้งการควบคุมกวดขันร้านแต่งซิ่ง จุดที่มีการแข่งขัน และที่สำคัญผู้ปกครองต้องร่วมสร้างจิตสำนึกให้บุตรหลานด้วย โดยครั้งนี้นำมาตรการทางกฎหมายทุกอย่างมาใช้อย่างเคร่งครัด
“ได้สั่งการไปว่า 1 เดือนหลังจากนี้ทุกหน่วยที่มีปัญหาเด็กแว้นแก๊งซิ่งสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนมานานมาก ตำรวจต้องยับยั้ง เป็นเรื่องท้าทายกฎหมายที่สะสมมานาน ไม่ยับยั้งเกิดพฤติกรรมเลียนแบบต่อเนื่อง กลายเป็นค่านิยมวัยรุ่น ปัญหาเด็กแว้นนำมาสู่อาชญากรรมประเภทอื่นด้วย ต้องปราบปรามเด็ดขาด เรื่องแก๊งซิ่งเป็นเรื่องใหญ่ เมื่อสั่งไปแล้ว ทุกกองบัญชาการต้องแต่งตั้งรอง ผบช.มาดูแล เรื่องนี้แก้ปัญหาแค่ระดับท้องที่ ไม่ได้ ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องระดับกองบังคับการ บช.ต้องประสานกัน” ผบ.ตร.กล่าว
พล.ต.อ.อดุลย์กล่าวด้วยว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องยาก 1 เดือนหลังจากนี้คงยังไม่หมดไป แต่เชื่อว่าจะน้อยลง พื้นที่ไหนที่ไม่สามารถจัดการกับปัญหานี้ได้ก็ต้องดูที่องค์ประกอบ ปัจจัยและเหตุผลต่างๆ ว่าเป็นเพราะอะไร ปัญหานี้เรื่องใหญ่ ทุกหน่วย จราจร สืบสวนสอบสวน ทางหลวง ต้องบูรณาการกัน หากหน่วยไหนไม่สามารถบรรเทาปัญหาได้ก็ต้องพิจารณามีผลต่อการแต่งตั้งโยกย้าย การป้องกันต้องแจ้งเตือนผู้ปกครอง โรงเรียน ให้ช่วยกันเตือนเด็กๆ โดยพื้นที่ที่พบปัญหาแก๊งซิ่งน่าเป็นห่วง คือ บริเวณถนนบางนา-ตราด พระราม 2 และถนนวิภาวดีรังสิต รอยต่อ บช.ภ.1 และบช.ภ.7 หลังจากนี้อาจจะมีแก๊งซิ่งที่ออกมาท้าทายตำรวจก็ต้องรับมือ ย้ำว่าครั้งนี้ตำรวจเอาจริงในการแก้ปัญหาอย่างเต็มที่
