ผกก.สน.สามเสน เปิดเผยข้อมูลมีการแจ้งความดำเนินคดีต่อครู กทม.สอนนาฏศิลป์ วิปริตล่วงละเมิดทางเพศเด็กพิการชาย-หญิง
วันนี้ (15 ต.ค.) พ.ต.อ.ฤทธิกร สายสนั่น ณ อยุธยา ผกก.สน.สามเสน เปิดเผยถึงกรณีที่ น.ส.สุเพ็ญศรี พึ่งโคกสูง หัวหน้าฝ่ายส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศ มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล เปิดเผยว่า ได้รับการประสานจากมูลนิธิศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็กในการให้ความช่วยเหลือพ่อแม่ผู้ปกครองนักเรียนที่มีความบกพร่องทางร่างกาย ถูกครูในโรงเรียนข่มขืนกระทำชำเรา ได้ประสานให้พ่อแม่ผู้ปกครองและนักเรียนผู้เสียหายมาให้ข้อมูล โดยเชิญนักสังคมสงเคราะห์ ทนายความ รวมถึงผู้ช่วยในการสื่อสารมาช่วยซักถามข้อมูลต่างๆ เบื้องต้นพบว่าเด็กนักเรียนที่มีความบกพร่องทางร่ายกายอายุระหว่าง 14-16 ปี ทั้งผู้ชาย 2 ราย และผู้หญิง 1 ราย ซึ่งเรียนอยู่ในโรงเรียนการศึกษาพิเศษแห่งหนึ่งใน กทม.ถูกครูผู้ชายคนหนึ่ง ตำแหน่งครูชำนาญการพิเศษ อายุประมาณ 40 ปี ทั้งเคยเป็นครูประจำชั้น และเคยสอน ข่มขืนกระทำชำเรา บางรายถูกกระทำเมื่อเดือน ก.ค. 55 บางรายถูกกระทำก่อนเปิดภาคเรียนปีการศึกษา 55 ส่วนใหญ่ระบุว่าครูจะเรียกไปพบเพื่อให้บีบนวด ก่อนลงมือกระทำชำเราในห้องพักครู พ่อแม่เมื่อรับทราบข้อมูลถึงกับตกตะลึง ไม่คาดคิดว่าครูที่ไว้ใจและรับรู้ว่าดูแลลูกตนเองอย่างดีจะมีพฤติกรรมดังกล่าว
น.ส.สุเพ็ญศรีกล่าวอีกว่า พ่อแม่บางรายถึงกับกลั้นน้ำตาไม่อยู่ เมื่อรับรู้ว่าลูกชายถูกครูคนดังกล่าวกระทำทั้งข้างหน้าข้างหลัง ไม่คิดว่าคนเป็นครูจะกระทำเช่นนี้ และยิ่งไม่อยากเชื่อว่าจะกระทำกับเด็กที่มีความพิการด้วยซ้ำ ซึ่งพ่อแม่ผู้ปกครองรวมทั้งเด็กที่ถูกกระทำได้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ และกำลังรวบรวมข้อมูลเพื่อไปยื่นฟ้องดำเนินคดีต่อครูคนดังกล่าว ขณะเดียวกันได้แนะนำให้ไปยื่นถึงนางพนิตา กำภู ณ อยุธยา ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อให้ตรวจสอบและมีมาตรการลงโทษครูที่กระทำผิดอย่างจริงจัง พร้อมทั้งให้ยื่นเรื่องร้องถึงคณะอนุกรรมการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนด้านเด็ก สตรี และความเสมอภาคของบุคคล ในคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เพื่อเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการตรวจสอบพฤติกรรมฉาวของครูดังกล่าว
น.ส.สุเพ็ญศรีกล่าวต่ออีกว่า กรณีครูคนดังกล่าวก่อนหน้านี้ถูกพ่อแม่นักเรียนหญิงที่มีความบกพร่องทางร่างกายอายุ 17 ปี โรงเรียนเดียวกันแจ้งความดำเนินคดีที่ สน.สามเสน ข้อหาข่มขืนกระทำชำเรามาแล้ว โดยพ่อแม่ได้ทราบจากลูกสาวว่าถูกครูที่ว่าข่มขืนเมื่อปลายเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา แต่ลูกมาบอกช่วงต้นเดือน ส.ค.เพราะตอนแรกลูกไม่กล้าบอก อีกทั้งความบกพร่องทางร่างกายทำให้มีปัญหาในการสื่อสาร แต่เมื่อรู้เรื่องจึงพาลูกไปแจ้งความ ขณะเดียวกันทางมูลนิธิฯ เข้าไปช่วยเหลือประสานไปยังนางญาณี เลิศไกร ผอ.สำนักงานส่งเสริมสวัสดิภาพและพิทักษ์เด็ก เยาวชน ผู้ด้อยโอกาส คนพิการ และผู้สูงอายุ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) และผู้บริหารสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาในการตรวจสอบ ต่อมาทางโรงเรียนได้มีการตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง และพบว่ามีมูล จึงมีการย้ายครูคนดังกล่าวไปสอนโรงเรียนอื่น แต่เรื่องการลงโทษทางวินัย ยังไม่ทราบดำเนินการถึงขั้นไหน อย่างไรก็ตาม ในวันนี้มีพ่อแม่ผู้ปกครองที่ลูกถูกครูคนดังกล่าวข่มขืนมาแสดงตัวเพิ่มอีก ทำให้เห็นว่าไม่ได้มีเพียงรายเดียวที่ถูกกระทำ แต่ยังมีรายอื่นๆ อีก และยังเป็นกังวลว่าครูคนดังกล่าวจะไปก่อพฤติกรรมฉาวที่โรงเรียนซึ่งถูกย้ายไปหรือไม่ อยากให้มีมาตรการดูแลเด็กอย่างเข้มงวด ขณะเดียวกันก็ให้มีการลงโทษผู้กระทำผิดอย่างเด็ดขาดและจริงจัง
สำหรับคดีที่มีผู้ปกครองผู้เสียหายไปแจ้งความนั้น ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก ร.ต.อ. หญิง ชมภูนุช อนันตญากุล พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.สามเสนว่า เมื่อบ่ายวันที่ 24 ส.ค. ที่ผ่านมา มีผู้ปกครองของ น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี พิการหูหนวกและเป็นใบ้มาแต่กำเนิด มาแจ้งความให้ดำเนินคดีต่อครูชายคนหนึ่ง สอนนาฏศิลป์โรงเรียนแห่งหนึ่ง ในข้อหาพรากผู้เยาว์เด็กอายุเกิน 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี ส่วน น.ส.เอ แจ้งดำเนินคดีกระทำชำเรา โดยใช้กำลังประทุษร้ายข่มเหงผู้อื่น และอนาจารเยาวชนอายุเกิน 15 ปี ใช้อำนาจครอบงำผิดศีลธรรมเพื่อขืนใจผู้อื่น
ร.ต.อ.หญิง ชมภูนุช กล่าวว่า เรื่องนี้เกิดเมื่อบ่ายของวันที่ 27 ก.ค.ที่ผ่านมา ครูนาฏศิลป์คนดังกล่าวเรียก น.ส.แอน ผู้เสียหาย พร้อมเพื่อนนักเรียนอายุ 13 ปี พิการหูหนวกเป็นใบ้ ไปพบที่ห้องวิทยาศาสตร์ในโรงเรียน ก่อนใช้ให้นักเรียนทั้งคู่บีบนวดตามร่างกาย สักพักให้เพื่อนอีกคนออกจากห้อง โดยครูคนดังกล่าวได้ล็อกประตูก่อนจะข่มขืน น.ส.เอ จนสำเร็จความใคร่ โดยตนจะเรียกผู้ถูกกล่าวหามารับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 15 ต.ค.นี้
ต่อมาเวลา 10.00 น. พ.ต.อ.ฤทธิกร สายสนั่น ณ อยุธยา กล่าวว่า กรณีดังกล่าว ทางผู้ปกครองได้มาแจ้งความตั้งแต่เดือน ส.ค.ที่ผ่านมา โดยพนักงานสอบสวน ร.ต.อ. หญิง ชมภูนุช อนันตญากุล พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.สามเสน ได้รับเรื่องไว้จริงและสอบสวน พร้อมส่งตัวผู้เสียหายไปให้แพทย์ตรวจพิสูจน์ร่องรอยตามร่างกายต่างๆ เพื่อใช้เป็นหลักฐาน ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการออกหมายเรียกตัวผู้ถูกกล่าวหามาสอบสวน ซึ่งเบื้องต้นทำหนังสือแจ้งมาให้ปากคำในวันที่ 24 ต.ค. หากไม่มาจะออกหมายจับต่อไป
วันนี้ (15 ต.ค.) พ.ต.อ.ฤทธิกร สายสนั่น ณ อยุธยา ผกก.สน.สามเสน เปิดเผยถึงกรณีที่ น.ส.สุเพ็ญศรี พึ่งโคกสูง หัวหน้าฝ่ายส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศ มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล เปิดเผยว่า ได้รับการประสานจากมูลนิธิศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็กในการให้ความช่วยเหลือพ่อแม่ผู้ปกครองนักเรียนที่มีความบกพร่องทางร่างกาย ถูกครูในโรงเรียนข่มขืนกระทำชำเรา ได้ประสานให้พ่อแม่ผู้ปกครองและนักเรียนผู้เสียหายมาให้ข้อมูล โดยเชิญนักสังคมสงเคราะห์ ทนายความ รวมถึงผู้ช่วยในการสื่อสารมาช่วยซักถามข้อมูลต่างๆ เบื้องต้นพบว่าเด็กนักเรียนที่มีความบกพร่องทางร่ายกายอายุระหว่าง 14-16 ปี ทั้งผู้ชาย 2 ราย และผู้หญิง 1 ราย ซึ่งเรียนอยู่ในโรงเรียนการศึกษาพิเศษแห่งหนึ่งใน กทม.ถูกครูผู้ชายคนหนึ่ง ตำแหน่งครูชำนาญการพิเศษ อายุประมาณ 40 ปี ทั้งเคยเป็นครูประจำชั้น และเคยสอน ข่มขืนกระทำชำเรา บางรายถูกกระทำเมื่อเดือน ก.ค. 55 บางรายถูกกระทำก่อนเปิดภาคเรียนปีการศึกษา 55 ส่วนใหญ่ระบุว่าครูจะเรียกไปพบเพื่อให้บีบนวด ก่อนลงมือกระทำชำเราในห้องพักครู พ่อแม่เมื่อรับทราบข้อมูลถึงกับตกตะลึง ไม่คาดคิดว่าครูที่ไว้ใจและรับรู้ว่าดูแลลูกตนเองอย่างดีจะมีพฤติกรรมดังกล่าว
น.ส.สุเพ็ญศรีกล่าวอีกว่า พ่อแม่บางรายถึงกับกลั้นน้ำตาไม่อยู่ เมื่อรับรู้ว่าลูกชายถูกครูคนดังกล่าวกระทำทั้งข้างหน้าข้างหลัง ไม่คิดว่าคนเป็นครูจะกระทำเช่นนี้ และยิ่งไม่อยากเชื่อว่าจะกระทำกับเด็กที่มีความพิการด้วยซ้ำ ซึ่งพ่อแม่ผู้ปกครองรวมทั้งเด็กที่ถูกกระทำได้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ และกำลังรวบรวมข้อมูลเพื่อไปยื่นฟ้องดำเนินคดีต่อครูคนดังกล่าว ขณะเดียวกันได้แนะนำให้ไปยื่นถึงนางพนิตา กำภู ณ อยุธยา ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อให้ตรวจสอบและมีมาตรการลงโทษครูที่กระทำผิดอย่างจริงจัง พร้อมทั้งให้ยื่นเรื่องร้องถึงคณะอนุกรรมการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนด้านเด็ก สตรี และความเสมอภาคของบุคคล ในคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เพื่อเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการตรวจสอบพฤติกรรมฉาวของครูดังกล่าว
น.ส.สุเพ็ญศรีกล่าวต่ออีกว่า กรณีครูคนดังกล่าวก่อนหน้านี้ถูกพ่อแม่นักเรียนหญิงที่มีความบกพร่องทางร่างกายอายุ 17 ปี โรงเรียนเดียวกันแจ้งความดำเนินคดีที่ สน.สามเสน ข้อหาข่มขืนกระทำชำเรามาแล้ว โดยพ่อแม่ได้ทราบจากลูกสาวว่าถูกครูที่ว่าข่มขืนเมื่อปลายเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา แต่ลูกมาบอกช่วงต้นเดือน ส.ค.เพราะตอนแรกลูกไม่กล้าบอก อีกทั้งความบกพร่องทางร่างกายทำให้มีปัญหาในการสื่อสาร แต่เมื่อรู้เรื่องจึงพาลูกไปแจ้งความ ขณะเดียวกันทางมูลนิธิฯ เข้าไปช่วยเหลือประสานไปยังนางญาณี เลิศไกร ผอ.สำนักงานส่งเสริมสวัสดิภาพและพิทักษ์เด็ก เยาวชน ผู้ด้อยโอกาส คนพิการ และผู้สูงอายุ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) และผู้บริหารสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาในการตรวจสอบ ต่อมาทางโรงเรียนได้มีการตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง และพบว่ามีมูล จึงมีการย้ายครูคนดังกล่าวไปสอนโรงเรียนอื่น แต่เรื่องการลงโทษทางวินัย ยังไม่ทราบดำเนินการถึงขั้นไหน อย่างไรก็ตาม ในวันนี้มีพ่อแม่ผู้ปกครองที่ลูกถูกครูคนดังกล่าวข่มขืนมาแสดงตัวเพิ่มอีก ทำให้เห็นว่าไม่ได้มีเพียงรายเดียวที่ถูกกระทำ แต่ยังมีรายอื่นๆ อีก และยังเป็นกังวลว่าครูคนดังกล่าวจะไปก่อพฤติกรรมฉาวที่โรงเรียนซึ่งถูกย้ายไปหรือไม่ อยากให้มีมาตรการดูแลเด็กอย่างเข้มงวด ขณะเดียวกันก็ให้มีการลงโทษผู้กระทำผิดอย่างเด็ดขาดและจริงจัง
สำหรับคดีที่มีผู้ปกครองผู้เสียหายไปแจ้งความนั้น ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก ร.ต.อ. หญิง ชมภูนุช อนันตญากุล พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.สามเสนว่า เมื่อบ่ายวันที่ 24 ส.ค. ที่ผ่านมา มีผู้ปกครองของ น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี พิการหูหนวกและเป็นใบ้มาแต่กำเนิด มาแจ้งความให้ดำเนินคดีต่อครูชายคนหนึ่ง สอนนาฏศิลป์โรงเรียนแห่งหนึ่ง ในข้อหาพรากผู้เยาว์เด็กอายุเกิน 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี ส่วน น.ส.เอ แจ้งดำเนินคดีกระทำชำเรา โดยใช้กำลังประทุษร้ายข่มเหงผู้อื่น และอนาจารเยาวชนอายุเกิน 15 ปี ใช้อำนาจครอบงำผิดศีลธรรมเพื่อขืนใจผู้อื่น
ร.ต.อ.หญิง ชมภูนุช กล่าวว่า เรื่องนี้เกิดเมื่อบ่ายของวันที่ 27 ก.ค.ที่ผ่านมา ครูนาฏศิลป์คนดังกล่าวเรียก น.ส.แอน ผู้เสียหาย พร้อมเพื่อนนักเรียนอายุ 13 ปี พิการหูหนวกเป็นใบ้ ไปพบที่ห้องวิทยาศาสตร์ในโรงเรียน ก่อนใช้ให้นักเรียนทั้งคู่บีบนวดตามร่างกาย สักพักให้เพื่อนอีกคนออกจากห้อง โดยครูคนดังกล่าวได้ล็อกประตูก่อนจะข่มขืน น.ส.เอ จนสำเร็จความใคร่ โดยตนจะเรียกผู้ถูกกล่าวหามารับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 15 ต.ค.นี้
ต่อมาเวลา 10.00 น. พ.ต.อ.ฤทธิกร สายสนั่น ณ อยุธยา กล่าวว่า กรณีดังกล่าว ทางผู้ปกครองได้มาแจ้งความตั้งแต่เดือน ส.ค.ที่ผ่านมา โดยพนักงานสอบสวน ร.ต.อ. หญิง ชมภูนุช อนันตญากุล พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.สามเสน ได้รับเรื่องไว้จริงและสอบสวน พร้อมส่งตัวผู้เสียหายไปให้แพทย์ตรวจพิสูจน์ร่องรอยตามร่างกายต่างๆ เพื่อใช้เป็นหลักฐาน ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการออกหมายเรียกตัวผู้ถูกกล่าวหามาสอบสวน ซึ่งเบื้องต้นทำหนังสือแจ้งมาให้ปากคำในวันที่ 24 ต.ค. หากไม่มาจะออกหมายจับต่อไป