ตรงเป้า
ศรรามา
ตราบใดที่ยังบินว่อนไปประเทศโน้นเข้าประเทศนี้ ทำตัวเป็นมหาเศรษฐีเจ้าสำราญ ทั้งๆ มีชนัก “นักโทษหนีคุก” ปักหลัง ตราบนั้น “ทักษิณ ชินวัตร” ยังครองแชมป์ข่าวฮอตของสื่อในเมืองไทยได้ตลอดเวลา
เพราะไม่ว่าจะอยู่ในสิงคโปร์ หรือฮ่องกง บรรดาลูกสมุนหัวหงอกหัวดำหัวเกรียน เข้าคิวไปกราบกรานไม่ขาดสาย ไปด้วยเหตุผล และความต้องการอย่างเดียวกันคือ “อยากมีวันนี้เพราะพี่ให้”
ตอนไปดูแข่งรถฟอร์มูลาวันที่สิงคโปร์ นายนพดล ปัทมะ คนรับใช้สายงานด้านกระบอกเสียงบอกว่า ทักษิณออกจากสิงคโปร์แล้วจะไปบรูไน จากบรูไนไปกัมพูชา แต่ก็ไม่มีข่าวทักษิณไปเยือน 2 ประเทศที่ว่า ไม่รู้มีเหตุขัดข้องอะไรจึงกลับไปโผล่ที่ฮ่องกง หรือว่าบรูไนไม่อยากต้อนรับนักโทษหนีคุก หรือว่าฮุน เซนเบื่อหน้าสหายทักษิณแล้ว
คงจำกันได้เมื่อคราวทักษิณไปร่วมงานวันเกิดฮุน เซน พลพรรคเสื้อแดงเฮโลเข้ากัมพูชานับหมื่นคน แห่ไปกราบกรานทักษิณ พอตกกลางคืนทักษิณกับสมุนใกล้ชิด เมาไวน์เต็มพิกัด ขึ้นเวทีแหกปากร้องเพลง “ช่างแม่มัน” และช่วงหนึ่งทักษิณกรอกเสียงใส่ไมโครโฟน บอกว่าน่าแปลกใจที่บนเวทีนี้มีแต่ผู้ก่อการร้าย อันหมายถึงผู้ต้องหาคดีก่อการร้ายในเมืองไทย ที่มี “ณัฐวุฒิ-จตุพร” เป็นลูกคู่อยู่บนเวที
นับแต่นั้นมา ความสัมพันธ์ระหว่างฮุน เซน นายกสมาคมคนกลัวเมีย กับทักษิณอุปนายกสมาคมนี้ ก็ดูเหินห่างไปไม่ค่อยเป็นข่าว ก็เวทีที่ทักษิณกับสมุนสำเริงสำราญมันอยู่บนผืนแผ่นดินกัมพูชา คำพูดพล่อยๆ นั้นไม่ต้องถามว่าฮุน เซนจะรู้สึกอย่างไร
เมื่อไปโผล่ที่ฮ่องกง ก็อย่างว่าหัวหงอกหัวดำหัวเกรียน ทั้งเจ้าเดิมที่เคยไปกราบกรานที่สิงคโปร์ และเจ้าใหม่แห่แหนกันไปคารวะ ยกย่องนักโทษหนีคุกเป็นอภิสิทธิ์ชนตบหน้ากระบวนการยุติธรรมของบ้านเมืองตัวเอง
คราวก่อน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง พาพรรคพวกก๊วนนิยมไวน์ พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา กับ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ไปสิงคโปร์ อ้างไปดูแข่งรถฟอร์มูลาวัน กลับมาก็ปฏิเสธลั่นไม่ได้พบทักษิณ
คราวนี้ ร.ต.อ.เฉลิมพาลูกเมีย และหลานไปฮ่องกง อ้างไปเที่ยวพักผ่อนน่าจะมี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ติดสอยห้อยตาม เพราะ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ติดประกาศไว้หน้าห้องทำงานที่นครบาลว่า ลาราชการไปต่างประเทศ
มีสื่อไปถามเรื่องนี้กับ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. ก็ได้รับคำตอบว่า พล.ต.ท.คำรณวิทย์ลาจริง แต่จำไม่ได้ว่าลากี่วัน และไม่ทราบไปประเทศไหน เพียงแค่นี้ก็เล่นเอาแฟนคลับที่เป็นกองเชียร์ “บิ๊กอู๋” ถึงกับช็อกซึมกระทือตามๆ กัน เพราะไม่คาดคิดว่าพอนั่งเก้าอี้ ผบ.ตร.ไม่กี่วัน ทำไมอู๋ถึงเปลี่ยนสไตล์ไปอย่างนี้
มีหรือ ผบ.ตร.ไม่รู้ว่าลูกน้องระดับพลตำรวจโท ลาไปต่างประเทศกี่วัน และไปประเทศไหน
สื่อฮ่องกงให้ความสนใจทักษิณ เนื่องจากมีคนไทยยกโขยงแห่ไปพบทักษิณมากมาย ทั้งหัวหงอกหัวดำหัวเกรียนอย่างที่ว่า จากนั้นก็มีคลิปภาพ และรายงานข่าวออกมา
ข่าวที่คนเสื้อแดงควรคำนึงอย่างยิ่งคือ ทักษิณจัดปาร์ตี้ต้อนรับสมุนใกล้ชิดที่ริมสระน้ำโรงแรมเพนนินซูลา สำเริงสำราญกันสุดฤทธิ์สุดเดช จัดกันถึงสองคืนติดกัน เฉพาะค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ประมาณ 1 ล้าน 5 แสนบาท
ขณะที่คนเสื้อแดงไม่น้อยกำลังระทมทุกข์กับภัยธรรมชาติ แต่บุคคลที่คนเสื้อแดงเทิดทูนบูชาไม่เคยสนใจไยดีกับความเดือดร้อนของพวกเขา ลองหลับตาก็เห็นภาพปาร์ตี้ริมสระน้ำในโรงแรมฮ่องกง ค่าใช้จ่ายเป็นล้านมันต้องสุขสราญกันขนาดไหน แล้วคนเสื้อแดงลืมตาสำรวจตัวเองว่าอยู่ในสถานะไหน มันแตกต่างกันลิบลับราวฟ้ากับเหว
ลืมแล้วหรือกับคำพูดของทักษิณที่ว่า คนเสื้อแดงพายเรือให้เขานั่ง บัดนี้เรือถึงฝั่งเรียบร้อย คนเสื้อแดงหมดหน้าที่แล้ว ตัวเองจะนั่งรถไต่ภูเขามุ่งหน้าไปยังจุดหมายต่อไป
มีคลิปภาพจากสื่อฮ่องกงหลายช็อตหลายตอน เผยแพร่ต่อสาธารณชน หนึ่งในภาพนั้น ร.ต.อ.เฉลิมยืนเคียงข้างทักษิณ ขณะที่ทักษิณโอบกอดหญิงสาวคนหนึ่ง
ร.ต.อ.เฉลิมยืนยันไปฮ่องกงคราวนี้ไม่ได้พบทักษิณ ภาพที่สื่อฮ่องกงนำมาเผยแพร่นั้นเป็นภาพเก่า ถ่ายไว้ตั้งแต่ปี 2550 สมัยที่พรรคพลังประชาชนชนะเลือกตั้ง ตนไปพบทักษิณจริง แล้วยอมรับว่าถ้าไม่ไปก็ไม่ได้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย แปลไทยเป็นไทยก็ได้ความว่า......ไปขอเก้าอี้นั่นเอง
ร.ต.อ.เฉลิมยังมีหน้าย้อนถามคนไทย จะเชื่อสื่อฮ่องกง หรือเชื่อรองนายกรัฐมนตรีไทย ก็นี่ไง “กิ้งก่าได้ทอง”
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ไพร่ที่ได้เป็นอำมาตย์ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ไพร่ที่กำลังจะได้เป็นอำมาตย์ ก็ไม่ยอมพลาดโอกาสในการไปเสนอหน้า นายณัฐวุฒิบอกว่าตนมีภารกิจที่ฮ่องกงพอดี แต่ไม่ยอมบอกว่าเป็นภารกิจอะไร หรือไปรับจ๊อบอะไรไว้ที่นั่น
ส่วนนายจตุพรไปขอพรทักษิณเนื่องในวันเกิดของตัวเอง เพราะพรของนักโทษหนีคุกคนนี้มีมนต์ขลัง ขอเป็นรัฐมนตรีก็ได้เป็น พาตำรวจทหารไปขอพรก็ได้เก้าอี้ได้ตำแหน่งตามปรารถนา
สองเกลอหัวเกรียนกลับไทยคุยฟุ้ง ทักษิณมอบหมายให้ตนทำหน้าที่ดูแลคนเสื้อแดง ก็แสดงว่าทักษิณไม่ค่อยประทับใจบทบาทของ นางธิดา ถาวรเศรษฐ เมียหมอโหวงเหวง
ภารกิจการเมืองของทักษิณคงสำเร็จลุล่วงด้วยดี ทักษิณจึงบินต่อไปอังกฤษ สมุนคนไหนจะตามไปขอพรก็สุดแล้วแต่ความสามารถของตัวเอง แต่สิ่งสำคัญในการเยือนฮ่องกงครั้งนี้อยู่ตรงนี้
สื่อฮ่องกงถามทักษิณจะมาลงทุนทำธุรกิจอะไรในฮ่องกง ทักษิณตอบสั้นๆ เพียงประโยคเดียว “ไม่มีเงินแล้ว” สั้นง่ายได้ใจความ
มันคือสัญญาณที่ทักษิณต้องการสื่อไปถึงสมุนบริวาร ที่คอยแบมือขอเศษเงิน แทนคำพูด “ทนไม่ไหวแล้วโว้ย”