“ยิ่งลักษณ์” สั่ง ผบ.ตร.ลุยปราบยาเสพติด และการปราบปรามอาชญากรรมเรื่องการค้ามนุษย์ รวมถึงเรื่องเกี่ยวกับการซื้อขายตำแหน่ง รวมถึงดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวอย่างเต็มที่!
วันนี้ (5 ต.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) ว่า ภายหลังจากการประชุมเสร็จสิ้นแล้ว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. ตามนโยบายที่ได้มอบให้เมื่อวันที่ 3 ต.ค. โดยเน้นไปที่นโยบายหลักประเด็นคือ การปราบปรามยาเสพติดและการปราบปรามอาชญากรรมเรื่องการค้ามนุษย์ รวมถึงเรื่องเกี่ยวกับการซื้อขายตำแหน่ง และได้กำชับให้นายชูชาติ หาญสวัสดิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย มอบหมายนโยบายในการทำงานร่วมมือกันกับตำรวจ ตั้งแต่ระดับนายอำเภอ และผู้ว่าราชการจังหวัดต้องทำงานร่วมกันตลอด ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ชื่นชมการทำงานของ ผบ.ตร.ในการวางแผนเป็นขั้นตอนอย่างเป็นระบบ แต่ได้เน้นย้ำให้ผบ.ตร.ดูแลเกี่ยวกับความรักษาความปลอดภัยให้นักท่องเที่ยว เพราะเป็นนโยบายหลักของรัฐบาล
ส่วนวาระสำคัญที่ ก.ต.ช.ได้มีมติเห็นชอบตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอขอให้มีการบรรจุทหารเกณฑ์ และทหารพรานเข้ามาเป็นตำรวจทั้งหมด 1,700 นาย ซึ่งนายทหารดังกล่าวได้รับการฝึกฝนมาเป็นการดีแล้ว เพียงแต่อาจจะเพิ่มการให้ความรู้เกี่ยวกับข้อกฎหมายเพิ่มเติมให้ อย่างไรก็ตาม กำหนดกรอบเวลาให้อย่างช้าสุดช่วงประมาณเดือน เม.ย.2556 ให้สามารถทำงานได้ทันที ซึ่งมีกำหนดระยะเวลาในการทำงาน 6 ปี และมีช่วงเวลาทดลองงาน 6 เดือน
วันนี้ (5 ต.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) ว่า ภายหลังจากการประชุมเสร็จสิ้นแล้ว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. ตามนโยบายที่ได้มอบให้เมื่อวันที่ 3 ต.ค. โดยเน้นไปที่นโยบายหลักประเด็นคือ การปราบปรามยาเสพติดและการปราบปรามอาชญากรรมเรื่องการค้ามนุษย์ รวมถึงเรื่องเกี่ยวกับการซื้อขายตำแหน่ง และได้กำชับให้นายชูชาติ หาญสวัสดิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย มอบหมายนโยบายในการทำงานร่วมมือกันกับตำรวจ ตั้งแต่ระดับนายอำเภอ และผู้ว่าราชการจังหวัดต้องทำงานร่วมกันตลอด ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ชื่นชมการทำงานของ ผบ.ตร.ในการวางแผนเป็นขั้นตอนอย่างเป็นระบบ แต่ได้เน้นย้ำให้ผบ.ตร.ดูแลเกี่ยวกับความรักษาความปลอดภัยให้นักท่องเที่ยว เพราะเป็นนโยบายหลักของรัฐบาล
ส่วนวาระสำคัญที่ ก.ต.ช.ได้มีมติเห็นชอบตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอขอให้มีการบรรจุทหารเกณฑ์ และทหารพรานเข้ามาเป็นตำรวจทั้งหมด 1,700 นาย ซึ่งนายทหารดังกล่าวได้รับการฝึกฝนมาเป็นการดีแล้ว เพียงแต่อาจจะเพิ่มการให้ความรู้เกี่ยวกับข้อกฎหมายเพิ่มเติมให้ อย่างไรก็ตาม กำหนดกรอบเวลาให้อย่างช้าสุดช่วงประมาณเดือน เม.ย.2556 ให้สามารถทำงานได้ทันที ซึ่งมีกำหนดระยะเวลาในการทำงาน 6 ปี และมีช่วงเวลาทดลองงาน 6 เดือน