“อดุลย์” ประชุมผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ถึงตำรวจทุกหน่วยเตรียมพร้อมรับมือช่วยเหลือประชาชน เหตุพายุแกมีที่กำลังเข้าไทย
วันนี้ (5 ต.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. เป็นประธานการประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ไปยังกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1-9 และศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อเตรียมความพร้อมรับมืออุทกภัย โดยทุก บช.รายงานว่า ได้ตั้งศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.บช./ภ.) และ (ศปภ.ภ.จว/บก.) ตามแผนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รวมทั้งเตรียมกำลังพล และอุปกรณ์ในการช่วยเหลือทั้งเรือยาง เรื่องไฟเบอร์ เครื่องสูบน้ำ รองเท้าบูต เสื้อชูชีพ ไว้พร้อมหมดแล้ว ทั้งนี้ ภาพรวมสถานการณ์น้ำท่วมมีแนวโน้มลดลง ในจังหวัดที่มีเขื่อน และอ่างเก็บน้ำระดับน้ำอยู่ในปริมาณที่รับน้ำฝนได้ ยกเว้นเขื่อนลำพระเพลิง และเขื่อนสิรินธร อาจต้องปล่อยน้ำหลังเขื่อน แต่ได้เตรียมการไว้แล้ว ซึ่งหากเกิดเหตุฝนตกหนักสามารถรับมือได้ ขณะที่ บช.น.ได้มีการประสานกรมราชทัณฑ์เพื่อขุดลอกคูคลองในพื้นที่น้ำท่วมขัง เพื่อให้น้ำระบายผ่านได้ดี ภารกิจหลักป้องกันและปราบปรามการก่อเหตุอาชญากรรมในพื้นที่น้ำท่วม การแก้ไขปัญหาจราจรได้เตรียมพร้อมไว้แล้ว
พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวว่า จังหวัดที่อาจได้รับผลกระทบจากพายุแกมี 30 จังหวัด เริ่มตั้งแต่วันที่ 6-10 ต.ค.นี้ อยากฝากภารกิจที่เห็นว่ามีความสำคัญ คือ วางแผนช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ห่างไกลที่ประสบอุทกภัย แก้ปัญหาจราจรในช่วงเกิดอุทกภัย และดูแลรักษาความปลอดภัยทรัพย์สินประชาชนระหว่างเกิดอุทกภัย โดยให้ติดตามข้อมูลข่าวจากจากศูนย์ปฏิบัติการฯ เพื่อวางแผนใช้กำลังพลจัดเจ้าหน้าที่อยู่เวร จัดชุดช่วยเหลือ ชุดสายตรวจทั้งทางน้ำ และทางบกในการเข้าช่วยเหลือ ซึ่งการปฏิบัติการจะให้ทางกองบัญชาการแต่ละภาคเป็นตัวตั้ง พร้อมประสานการวางแผนร่วมกับ บช.ก. ตชด. และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ และเอกชน สำรวจอุปกรณ์เครื่องมือในการช่วยเหลือ นอกจากนี้ ให้สวมเครื่องแบบที่แสดงเอกลักษณ์ตำรวจชัดเจน และให้การช่วยเหลือประชาชนตลอด 24 ชม.ส่วนนครบาลขอให้ปูพรมช่วยเหลือด้านการจราจรขณะที่ฝนตก เพื่อให้ประชาชนเดินทางไปถึงจุดหมายได้เร็วขึ้น และพื้นที่ล่อแหลมได้ประสานไป กทม.ให้ช่วยขุดลอกคลองแล้ว
วันนี้ (5 ต.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. เป็นประธานการประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ไปยังกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1-9 และศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อเตรียมความพร้อมรับมืออุทกภัย โดยทุก บช.รายงานว่า ได้ตั้งศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.บช./ภ.) และ (ศปภ.ภ.จว/บก.) ตามแผนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รวมทั้งเตรียมกำลังพล และอุปกรณ์ในการช่วยเหลือทั้งเรือยาง เรื่องไฟเบอร์ เครื่องสูบน้ำ รองเท้าบูต เสื้อชูชีพ ไว้พร้อมหมดแล้ว ทั้งนี้ ภาพรวมสถานการณ์น้ำท่วมมีแนวโน้มลดลง ในจังหวัดที่มีเขื่อน และอ่างเก็บน้ำระดับน้ำอยู่ในปริมาณที่รับน้ำฝนได้ ยกเว้นเขื่อนลำพระเพลิง และเขื่อนสิรินธร อาจต้องปล่อยน้ำหลังเขื่อน แต่ได้เตรียมการไว้แล้ว ซึ่งหากเกิดเหตุฝนตกหนักสามารถรับมือได้ ขณะที่ บช.น.ได้มีการประสานกรมราชทัณฑ์เพื่อขุดลอกคูคลองในพื้นที่น้ำท่วมขัง เพื่อให้น้ำระบายผ่านได้ดี ภารกิจหลักป้องกันและปราบปรามการก่อเหตุอาชญากรรมในพื้นที่น้ำท่วม การแก้ไขปัญหาจราจรได้เตรียมพร้อมไว้แล้ว
พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวว่า จังหวัดที่อาจได้รับผลกระทบจากพายุแกมี 30 จังหวัด เริ่มตั้งแต่วันที่ 6-10 ต.ค.นี้ อยากฝากภารกิจที่เห็นว่ามีความสำคัญ คือ วางแผนช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ห่างไกลที่ประสบอุทกภัย แก้ปัญหาจราจรในช่วงเกิดอุทกภัย และดูแลรักษาความปลอดภัยทรัพย์สินประชาชนระหว่างเกิดอุทกภัย โดยให้ติดตามข้อมูลข่าวจากจากศูนย์ปฏิบัติการฯ เพื่อวางแผนใช้กำลังพลจัดเจ้าหน้าที่อยู่เวร จัดชุดช่วยเหลือ ชุดสายตรวจทั้งทางน้ำ และทางบกในการเข้าช่วยเหลือ ซึ่งการปฏิบัติการจะให้ทางกองบัญชาการแต่ละภาคเป็นตัวตั้ง พร้อมประสานการวางแผนร่วมกับ บช.ก. ตชด. และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ และเอกชน สำรวจอุปกรณ์เครื่องมือในการช่วยเหลือ นอกจากนี้ ให้สวมเครื่องแบบที่แสดงเอกลักษณ์ตำรวจชัดเจน และให้การช่วยเหลือประชาชนตลอด 24 ชม.ส่วนนครบาลขอให้ปูพรมช่วยเหลือด้านการจราจรขณะที่ฝนตก เพื่อให้ประชาชนเดินทางไปถึงจุดหมายได้เร็วขึ้น และพื้นที่ล่อแหลมได้ประสานไป กทม.ให้ช่วยขุดลอกคลองแล้ว