แจ้งจับบริษัทนายหน้าตุ๋นส่ง นศ.เรียนแพทย์เมืองจีน‏

ผู้เสียหายกว่า 30 รายเข้าแจ้งความต่อ ตร.กองปราบฯ เพื่อดำเนินคดีเจ้าของบริษัท เอสโอซี เอ็ดดูเคชั่น จำกัด หลังหลอกลวงว่าสามารถจัดหาทุนส่งนักเรียนไทยไปเรียนแพทย์อินเตอร์ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีนได้ แต่เมื่อลูกผู้เสียหายไปเรียนที่มหาวิทยาลัย กลับถูกมหาวิทยาลัยทวงค่าเทอม

วันนี้ (3 ต.ค.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 13.00 น. นางพัฒนา ด่านวรพงศ์ อายุ 51 ปี พร้อมผู้เสียหายกว่า 30 ราย เข้าพบ พ.ต.ท.เกรียงไกร ขวัญไตรรัตน์ พนักงานสอบสวน (สบ 3) กก.1 บก.ป. เพื่อแจ้งความดำเนินคดีต่อเจ้าของบริษัท เอสโอซี เอ็ดดูเคชั่น จำกัด หลังหลอกลวงว่าสามารถจัดหาทุนส่งนักเรียนไทยไปเรียนแพทย์อินเตอร์ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีนได้ แต่เมื่อลูกผู้เสียหายไปเรียนที่มหาวิทยาลัย กลับถูกมหาวิทยาลัยทวงค่าเทอม

นางพัฒนากล่าวว่า ตนมีสามีเป็นนายแพทย์อยู่ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา จึงอยากให้ลูกชายได้เป็นนายแพทย์เหมือนกับสามี จากนั้นก็มีรุ่นพี่คนหนึ่งแนะนำให้รู้จักกับบริษัท เอสโอซี ซึ่งเป็นบริษัทนายหน้าส่งนักศึกษาไทยไปศึกษาต่อต่างประเทศจึงติดต่อไป โดยทางบริษัทฯ อ้างว่ามีทุนการศึกษาส่งนักเรียนไปเรียนต่อ และทางมหาวิทยาลัยที่กรุงปักกิ่ง ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยเกี่ยวกับการแพทย์อินเตอร์ก็มีทุนการศึกษาให้กับนักศึกษาเช่นกัน แต่ต้องจ่ายค่าดำเนินการ และส่วนต่างค่าเทอมรวมเป็นเงิน 450,000 บาท

นางพัฒนากล่าวต่อว่า เมื่อตนตกลงและจ่ายเงินจำนวนดังกล่าวให้ ทางบริษัทฯ ก็ได้ส่งบุตรชายไปที่มหาวิทยาลัยเมื่อปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา จากนั้นตนได้เดินทางไปเยี่ยมบุตรชายที่ปักกิ่ง ก็ทราบเรื่องว่าทางมหาวิทยาลัยทวงเงินค่าเทอม 175,000 บาทจากลูกชาย เมื่อกลับมาถึงเมืองไทยตนจึงทวงถามกับทางบริษัทฯ โดยทางบริษัทบอกว่าจะดำเนินการให้ จากนั้นได้นัดตนมาตกลงกันที่โรงแรมชาลีน่า ซ.รามคำแหง 65 เมื่อเดินทางไปถึงโรงแรมกลับพบว่ามีผู้เสียหายอีกหลายรายที่ถูกหลอกลวงเช่นกัน ต่อมาทางเจ้าของบริษัทอ้างว่าขาดทุน พร้อมกับบ่ายเบี่ยงและอ้างเหตุผลต่างๆ และขอให้ผู้เสียหายจ่ายเงินค่าเทอมกับทางมหาวิทยาลัยไปก่อน จากนั้นบริษัทจะชดใช้เงินคืนให้ภายหลัง ตนเห็นว่าการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายฉ้อโกงจึงเข้าแจ้งความที่กองปราบปรามเพื่อดำเนินคดีต่อบริษัทดังกล่าว

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่า มีผู้เสียหายที่ถูกหลอกลวงลักษณะดังกล่าวมีประมาณ 40 กว่าราย นอกจากนี้ยังมีผู้เสียหายอีกหลายรายยังไม่ได้เข้ามาแจ้งความ รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 20 ล้านบาท

ด้าน พ.ต.ท.เกรียงไกรกล่าวว่า เบื้องต้นได้สอบปากคำผู้เสียหายไว้ ก่อนเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป