โฆษก ตร.ยันดำเนินคดีม็อบสองสีตีกันหน้ากองปราบฯ เตือนนักข่าวแขวนบัตรแสดงตนกันโดนลูกหลง สั่ง ตร.คุมเข้มล้อมคอกหวั่นเหตุปะทะบานปลายวันที่ 29 ก.ย.นี้ “ผบช.น.” ถามกองปราบฯ เหตุใดคุมฝูงชนไม่อยู่ ทั้งๆ ที่มีหน่วยปราบปรามจลาจลอยู่ในมือ!
จากเหตุการณ์ที่กลุ่มคนเสื้อแดงเข้าไปก่อกวนยั่วยุกลุ่มประชาชนที่มาให้กำลังใจ น.ส.มนัสนันท์ หนูคำ อดีตครูโรงเรียนนานาชาติ ย่านคลอง 3 ที่จะมารับทราบข้อกล่าวหาหมิ่นประมาทนางดารณี กฤตบุญญาลัย ไฮโซแนวร่วมคนเสื้อแดง ที่กองปราบปราม จนเป็นเหตุให้มีการปะทะกันและมีผู้ได้รับบาดเจ็บรวม 5 รายเมื่อช่วงเช้าวันที่ 25 ก.ย.นั้น
วันนี้ (26 ก.ย.) เมื่อเวลา 11.00 น.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงเหตุการณ์ปะทะระหว่างกลุ่มคนเสื้อเหลืองและเสื้อแดงบริเวณหน้ากองปราบปรามเมื่อวันที่ 25 ก.ย.ว่า พ.ต.อ.ชาตรี กาญจนกันติ ผกก.สน.พหลโยธิน ได้ชี้แจงว่าดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุเรียบร้อยแล้ว ซึ่งแต่ละฝ่ายได้แจ้งความรวม 7 คดี โดยกลุ่มเสื้อแดงที่มาให้กำลังใจนางดารุณี กฤตบุญญาลัย แนวร่วมกลุ่ม นปช.ได้แจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ 5 ราย และรถยนต์ได้รับความเสียหาย 2 คัน ส่วนกลุ่มที่มาให้กำลังใจอดีตอาจารย์โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่ง ได้แจ้งความถูกทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ซึ่งเจ้าหน้าที่ สน.พหลโยธิน ได้รวบรวมพยานหลักฐาน ทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวที่ได้รับจากสื่อมวลชนแล้ว ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนสอบสวนเพื่อหาตัวผู้กระทำผิดในเหตุการณ์ดังกล่าวต่อไป โดย พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น.สั่งการให้ดำเนินคดีด้วยความยุติธรรมและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย สำหรับกรณีที่สมาคมนักข่าวและนักหนังสือแห่งประเทศไทย ได้ออกแถลงการณ์เตือนสื่อมวลชน ขณะปฏิบัติหน้าที่ในสถานการณ์รุนแรงนั้น ตนเห็นด้วยโดยเฉพาะกรณีการเสนอข่าวนั้น ขอให้หลีกเลี่ยงการนำเสนอข่าวที่ก่อให้เกิดความรุนแรง และขณะปฏิบัติหน้าที่ขอให้ใช้สัญลักษณ์แสดงตัวว่าเป็นสื่อมวลชน เพื่อที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ดูแลและป้องกันความปลอดภัยได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้เตรียมมาตรการดูแลความปลอดภัยในวันที่ 29 ก.ย.นี้ ที่นัดอดีตอาจารย์โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่ง เข้ามาให้ปากคำ อย่างไรบ้าง พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า เหตุการณ์เมื่อวันที่ 25 ก.ย.ที่ผ่านมาเราไม่ได้ประเมินสถานการณ์ต่ำเกินไป ในทางการข่าวรายงานว่าจะมีประชาชนทั้ง 2 ฝ่ายเดินทางมาให้กำลังใจ แต่ทั้งสองฝ่ายก็ไม่มีสัญลักษณ์แสดงตัวชัดเจน ประกอบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจการแบ่งพื้นที่ที่ห่างระหว่างคนสองกลุ่มใกล้กันจนเกินไป รวมถึงแกนนำแต่ละฝ่ายควบคุมมวลชนให้อยู่ในพื้นที่ที่เหมาะสมไม่ได้ ดังนั้น วันที่ 29 ก.ย.นั้น ขอให้ทุกฝ่ายปรับปรุงการทำงานที่เป็นอุปสรรค เจ้าหน้าที่ในพื้นที่จะต้องร่วมมือกันมากขึ้น รวมถึงทางแกนนำผู้ชุมนุมต้องควบคุมมวลชนให้ได้ ที่ต้องมีการสื่อสารกับมวลชนของตนเองอย่างชัดเจน
ด้าน พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) เปิดเผยว่า วานนี้ตนได้เดินทางไปตรวจสอบด้วยตนเอง ซึ่งสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตำรวจต้องมาวิเคราะห์ถึงสาเหตุที่ไม่สามารถควบคุมสถานการณ์รุนแรงได้ และมีผู้ได้รับบาดเจ็บฝั่งละ 1 คน ซึ่งการปะทะกันนั้นมีสาเหตุมาจากว่าพนักงานสอบสวนของกองปราบฯ ได้นัด น.ส.มนัสนันท์ มาในวันที่ 27 ก.ย. 2555 แต่ทางผู้ถูกกล่าวหาจะมาวันที่ 25 ก.ย. ที่ผ่านมา
พล.ต.ท.คำรณวิทย์กล่าวอีกว่า ทางกองปราบปรามมีชุดเจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามจลาจลอยู่แล้ว แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมคุมสถานการณ์ไม่ได้ และทำไมไม่แจ้งมาก่อนที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ซึ่งกว่าจะแจ้งมาก็ตอนที่กลุ่มมวลชนทั้ง 2 กลุ่มเริ่มปะทะกันแล้ว กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าไปได้ช้า ขอยืนยันว่าให้รีบแจ้งเข้ามาโดยเร็ว
“ปกติกลุ่มผู้ชุมนุมจะไปชุมนุมที่ไหนก็แล้วแต่ เจ้าหน้าที่ต้องไปดูแลอย่างน้อย 1 กองร้อย แต่ครั้งนี้ถือว่าเป็นบทเรียน ไม่ได้หมายความว่าล้มเหลวในการควบคุมฝูงชน” ผบช.น.กล่าวทิ้งท้าย