ฝากขังหมอเขมร! อ้างได้รับพรจากเยซูคริสต์ นวดบัณฑิตจุฬาฯ ตาย

คุมตัว “หมอเขมร” ที่อ้างว่าได้รับพรจากพระเยซูนวดให้หายจากโรคต่างๆ ได้ ก่อนทำการนวดบัณฑิตสาวจากรั้วจุฬาลงกรณ์จนหัวใจวายเสียชีวิตไปฝากขังศาลอาญา รัชดาฯ พร้อมค้านประกันหวั่นหลบหนีออกนอกประเทศ รอง ผกก.สส.สน.ดินแดง เผยหากผลชันสูตรออกมาว่าเสียชีวิตจากการรักษาจะแจ้งข้อหาประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายอีกข้อหา

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีญาติของ น.ส.โมทนา สถาปนาวิสุทธิ์ อายุ 22 ปี บัณฑิตเกียรตินิยมอันดับ 1 คณะครุศาสตร์ สาขาการศึกษาปฐมวัย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และเป็นครูโรงเรียนนานาชาติดิเออร์ลี่เลิร์นนิ่งเซ็นเตอร์ ซอยทองหล่อ 13 ได้เข้าแจ้งความที่ สน.ดินแดง ว่าบุตรสาวเข้ารับการนวดกับนางวองท์ ลลิตา หรือนางประกายศิริ วงศ์ อายุ 51 ปี ชาวกัมพูชา ซึ่งอ้างตัวว่าสามารถรักษาโรคต่างๆ ด้วยการนวดร่างกาย การใช้ยาและก้อนหินร้อน จนทำให้บุตรสาวเสียชีวิต โดยแพทย์นิติเวช รพ.รามาฯ สรุปสาเหตุการเสียชีวิตมาจากหัวใจล้มเหลว

ต่อมา นางจันทนา จินดาถาวรกิจ ผอ.สำนักกฎหมาย กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณะสุข และ พ.ต.ท.ประพจน์ อนุศิริ รอง ผกก.สส.สน.ดินแดง เข้าตรวจสอบอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น เลขที่ 22 ภายในซอยชุ่มชื่น ถนนอโศก-ดินแดง แขวงและเขตดินแดง กทม. พร้อมทั้งจับกุมตัวนางวองท์ ลลิตา เจ้าของร้านดังกล่าว หลังรับแจ้งว่าเปิดบริการประกอบโรคศิลปะและเปิดสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต วานนี้ (21 ก.ย.)

ล่าสุด วันนี้ (22 ก.ย.) พ.ต.ท.ประพจน์ อนุศิริ รอง ผกก.สส.สน.ดินแดง เปิดเผยความคืบหน้าเหตุการณ์ดังกล่าวว่า ทางพนักงานสอบสวน สน.ดินแดง ควบคุมตัวผู้ต้องหาไปส่งฟ้องที่ศาลอาญารัชดาแล้ว พร้อมกับคัดค้านการประกันตัว เพราะเป็นบุคคลต่างด้าวกลัวว่าจะหลบหนีออกนอกประเทศ

พ.ต.ท.ประพจน์กล่าวอีกว่า ส่วนการดำเนินคดีจะมีข้อหาเปิดบริการประกอบโรคศิลปะโดยไม่ขึ้นทะเบียนรับใบอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิน 3,000 บาท และประกอบกิจการสถานพยาบาลและดำเนินการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำและปรับ

“ส่วนที่คนไข้เสียชีวิตเพราะการรักษาของผู้ต้องหานั้น ต้องรอผลการชันสูตรของแพทย์ รพ.รามาฯ เสียก่อนว่าเกิดสาเหตุอะไร เพราะหากเสียชีวิตจากการรักษาของผู้ต้องหาจะแจ้งข้อหาเพิ่ม คือ กระทำประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย” รอง ผกก.สส.สน.ดินแดงกล่าว

ทั้งนี้ เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 21 ก.ย.ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ประพจน์ อนุศิริ รอง ผกก.สส.สน.ดินแดง พ.ต.ท.ณฐภัทร คูหาทอง สว.สส.สน.ดินแดง พร้อมฝ่ายสืบสวน สน.ดินแดง ร่วมกันจับกุม นางลลิตา วงศ์ หรือวองท์ ลลิตา อายุ 51 ปี ชาวกัมพูชา จากกรณีที่อ้างตัวว่าเป็นตัวแทนพระเยซูศาสดาแห่งศาสนาคริส สามารถรักษาโรคต่างๆ ด้วยการนวดร่างกาย โดยการใช้ยา และก้อนหินร้อน ซึ่งมีผู้เสียหายรายหนึ่งเข้าร้องเรียนที่กระทรวงสาธารณะสุข และสน.ดินแดง ว่าลูกสาวได้เข้าไปทำการนวดและเสียชีวิต เมื่อเวลา 02.00 น. วันที่ 19 มิ.ย. 2555 ที่ผ่านมา โดยหลังทราบเรื่องเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการเข้าล่อซื้อบริการก่อนจะจับกุมได้ที่อาคารพาณิชย์ 3 ชั้น เลขที่ 22 ถนนอโศกดินแดง แขวงและเขตดินแดง กทม. พร้อมของกลาง ยาไอบูโปรเฟน จำนวน 10เม็ด ยาเอฟฟอรัลแกน จำนวน 35 เม็ด น้ำมันนวดยี่ห้อ โกลเด้น อีเกิ้ล จำนวน1ขวด ก้อนหินจำนวน 1ก้อน

พ.ต.ท.ณฐภัทรกล่าวว่า ได้รับพรในการรักษานวดไห้หายโรคภัยไข้เจ็บจากพระเยซู ซึ่งมีผู้ใช้บริการเป็นจำนวนมากรวมถึงคนดังและคนใหญ่คนโตจนโด่งดัง ถึงขนาดมีโทรทัศน์ช่องหนึ่งมาถ่ายทำรายการจนผู้ต้องหามีคนมาใช้บริการจนเป็นจำนวนมาก โดยการรักษาก็จะมีหลากหลายวิธีทั้งการนวด โดยการเอาเท้าอังกับหินที่แช่ถ่านร้อนก่อนจะเหยียบนวดตามตัว หรือการให้ผู้มาทำการรักษานอนทับหินร้อนๆบ้าง หรือแม้กระทั่งใช้ยาคลายเส้น ยานวด ยาสวนทวาร ซึ่งยาเหล่านี้ล้วนไม่ได้รับอนุญาตทางการแพทย์ทั้งสิ้น โดยค่าบริการจะตกอยู่ที่ครั้งละ2 พันบาท

พ.ต.ท.ณฐภัทรกล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้ได้มีญาติของผู้เสียหายเข้าแจ้งความที่ สน.ดินแดง ว่าลูกสาว ได้เข้าไปรับการนวดจนเสียชีวิตที่อาคารพาณิชย์ดังกล่าว โดยผู้ต้องหาจะให้ทานยาที่อ้างว่านำเข้าจากต่างประเทศ ก่อนทายาตามร่างกาย และผู้ต้องหาก็จะนำเท้าไปเหยียบที่ก้อนหินดังกล่าว ก่อนที่จะขึ้นไปเหยียบบนร่างกายของผู้ตาย สลับกับให้ผู้ตายไปนอนทับก้อนหินร้อน ก่อนที่ผู้ตายจะเสียชีวิต ซึ่งจากสาเหตุการเสียชีวิตครั้งนั้นแพทย์ระบุว่าเกิดจากหัวใจล้มเหลว ส่วนการจับกุมในครั้งนี้ได้รับการประสานจาก เจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณะสุข จึงได้ทำการล่อซื้อ จากการสอบสวนผู้ต้องหายอมรับสารภาพว่าให้การรักษาลักษณะดังกล่าวจริง

ด้าน นายไพบูลย์ สถาปนาวิสุทธิ์ บิดาของผู้ตายกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ลูกสาวได้รับการแนะนำจากเพื่อนว่านางลลิตามีความสามารถด้านการนวดสามารถรักษาได้สารพัดโรค จึงเข้ารับการนวดแต่ก็ไม่คิดว่าลูกสาวจะเสียชีวิต โดยแพทย์นิติเวช รพ.รามาฯ สรุปสาเหตุการเสียชีวิตจากหัวใจล้มเหลว ตนจึงได้เข้าแจ้งความที่ สน.ดินแดงและร้องเรียนที่กระทรวงสาธารณสุข เพราะไม่อยากให้เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นกับผู้อื่นอีก