ผบช.น.แถลงการมอบตัวของ “หมอป็อป” ช่วงสายวันนี้ สารภาพลักลอบฉีดสารคอลลาเจนและฟิลเลอร์มาได้ 5 เดือน 20 ครั้ง เผยคาดไม่ถึงคนไข้จะมีอาการแพ้รุนแรงอาจถึงตาย ฝากเตือนผู้นิยมเสริมความงามไปทำที่ รพ.ดีกว่า อย่าเห็นแก่ราคาถูก เพราะเวลามีเหตุฉุกเฉินเช่นคนไข้รายนี้ไม่สามารถช่วยได้ทันท่วงทีอาจถึงตาย พร้อมกล่าวคำขอโทษญาติไม่คาดคิดจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ ตร.ตั้ง 3 ข้อหาหนักก่อนคุมตัวไปทำแผน
จากกรณี น.ส.อาทิตยา เอี่ยมใหญ่ หรือน้องกระแต พริตตี้สาวอายุ 33 ปี ไปรับการฉีดสารคอลลาเจนและฟิลเลอร์ที่สะโพกจากนายธนัช ณัชวีรกุล หรือหมอป็อป อายุ 24 ปี อดีตผู้ช่วยแพทย์ในสถานเสริมความงามแห่งหนึ่ง และนัดฉีดสารดังกล่าวที่คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งในซอยลาดพร้าว 101 ต่อมา น.ส.อาทิตยาได้เกิดอาการช็อกหมดสติและสมองขาดออกซิเจนไปหลายนาที ขณะนี้นอนรักษาตัวอยู่ที่ รพ.กล้วยน้ำไท 1
วันนี้ (21 ก.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. พ.ต.อ.วิวัฒน์ คำชำนาญ ผกก.กก.ดส. พร้อมด้วย นายพสิษฐ์ ศักดาณรงค์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงข่าวการติดต่อเข้ามอบตัวของ นายธนัช ณัชวีรกุล โดยมีบิดาและมารดาของน้องกระแตเดินทางมาร่วมรับฟังถึงเหตุการณ์ดังกล่าวด้วย
พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ กก.ดส.ได้ติดตามตัวนายธนัช จนกระทั่งนายธนัชได้ติดต่อเข้ามามอบตัวต่อ พ.ต.อ.วิวัฒน์ ผกก.ดส. โดยยอมรับว่าเป็นคนฉีดสารดังกล่าวให้น้องกระแต และเป็นผู้ส่งน้องกระแตไปที่โรงพยาบาลหลังจากหมดสติ
นอกจากนี้ นายธนัชยังได้ทำการฉีดสารต่างๆ รวมทั้งสารฟิลเลอร์เพื่อเสริมความงามให้บรรดาพริตตี้มาแล้วกว่า 20 ราย จึงอยากฝากไปถึงบุคคลใดที่เคยให้นายธนัชฉีดสารดังกล่าวไปแล้ว ให้รีบติดต่อเจ้าหน้าที่โดยเร็วเพื่อจะกันไว้เป็นพยานและมาตรวจร่างกาย หากเกิดได้รับอันตรายจากสารดังกล่าวจะได้รักษาอย่างถูกวิธี
ด้านนายพสิษฐ์กล่าวว่า เบื้องต้น ผลการตรวจสอบจากทางแพทย์ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าสารดังกล่าวเป็นชนิดใด ซึ่งผู้ที่ฉีดสารดังกล่าวให้น้องกระแตก็ไม่สามารถระบุได้แน่ชัดว่าเป็นสารฟิลเลอร์ที่มีความบริสุทธิ์มากน้อยแค่ไหน ดังนั้น ถ้าเป็นสารฟิลเลอร์ที่มีความบริสุทธิ์ไม่มากนัก หรือไม่มีความบริสุทธิ์เลยและไม่ผ่านมาตรฐานของ อย. ก็อาจก่อให้เกิดอันตรายแก่ร่างกายได้โดยที่ไม่รู้ว่าจะเกิดผลข้างเคียงเมื่อใด หลังจากฉีดไปแล้วอาจจะเกิดภาวะแทรกซ้อนก็เป็นได้ จึงอยากให้ผู้ที่เคยฉีดสารดังกล่าวเข้ามาพบเพื่อตรวจร่างกายอย่างละเอียด
นายธนัชกล่าวด้วยว่า ตนเคยเป็นผู้ช่วยแพทย์ในคลินิกเสริมความงามแห่งหนึ่งและใช้ประสบการณ์ที่มีมารับจ้างทำให้ลูกค้า ก่อนหน้านี้เคยฉีดสารต่างๆ เพื่อเสริมความงามให้พริตตี้และสาวประเภท 2 มาแล้วกว่า 20 คน โดยจะเป็นสารประเภทกลูตาไทโอนเพิ่มความขาว สารฟิลเลอร์ และโบทอกซ์ ซึ่งคนที่เข้ามาให้ตนฉีดจะเป็นการบอกกันปากต่อปากและไม่เคยมีใครได้รับอันตรายมาก่อน สำหรับนางสาวอาทิตยาได้คิดค่าจ้าง 4 หมื่นบาท ซึ่งหากไปฉีดตามโรงพยาบาลจะอยู่ที่ราคาประมาณ 7 หมื่นบาท
นายธนัชกล่าวเพิ่มเติมว่า สารดังกล่าวมีราคาสูงมากเพราะต้องนำเข้า หลายคนก็อยากจะทำในราคาที่ไม่แพง สำหรับสารฟิลเลอร์ดังกล่าวตนสั่งซื้อมาจากทางอินเทอร์เน็ต แต่ลูกค้าบางคนก็จะเป็นคนหาสารเสริมความงามมาเองและมาให้ตนฉีดให้ ราคาเข็มละ 500-2,000 บาท บางรายก็ให้ตนหามาและฉีดให้ ซึ่งก็ยอมรับว่าที่ลักลอบทำศัลยกรรมเป็นความผิดจึงอยากขอโทษผู้เสียหายและยินดีชดใช้ให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบ
“ผมต้องขอโทษพ่อแม่ของน้องกระแตด้วย และอยากแนะนำให้สาวๆ ที่ต้องการเสริมความงามให้ไปพบแพทย์ในโรงพยาบาลที่มีความเชี่ยวชาญดีกว่า เพราะจะได้รับความปลอดภัย รวมถึงความสะอาด หากเกิดอันตรายขึ้นมาโรงพยาบาลก็ยังมีเครื่องมือทางแพทย์พร้อมที่จะรักษาทันที” หมอป็อปกล่าว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา 3 ข้อ คือ 1. ประกอบกิจการและดำเนินการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 2. ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้ขึ้นทะเบียนและไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 3 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และ 3. กระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6 พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ก่อนที่จะคุมตัวหมอป็อปไปตรวจค้นภายในห้องพักที่ย่านลาดพร้าวเพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติมต่อไป
ต่อมาเวลา 12.00 น. นายพสิษฐ์ ศักดาณรงค์ ที่ปรึกษา รมว.สาธารณสุข พ.ต.อ.วิวัฒน์ คำชำนาญ ผกก.กองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี (กก.ดส.) และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดส. ได้พานายธนัช ณัชวีระกุล อายุ 24 ปี หรือที่รู้จักกันในวงการเสริมความงามว่า “หมอป็อบ” ไปชี้จุดเกิดเหตุที่ฉีดสารฟิลเลอร์ให้ น.ส.อาทิตยา หรือน้องกระแต เอี่ยมใหญ่ พริตตี้สาวจนกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา ภายในซอยลาดพร้าว 1 แยก 2 เลขที่ 302 ดับบลิว พี เซ็ลทรัล คอนโดมิเนียม ถนนลาดพร้าว แขวงจอมพลเขตจตุจักร กทม.
โดยจุดแรกภายในห้องพักเลขที่ 302/93 ชั้น 6 ที่นายธนัช หรือหมอป็อปอ้างว่าพา น.ส.อาทิตยา หรือน้องกระแต มาฉีดสารฟิลเลอร์ให้บนที่นอน ก่อนที่น้องกระแตจะเดินมาส่องกระจกที่อยู่บริเวณห้องน้ำ จากนั้นประมาณ 10 นาทีน้องกระแตจึงมีอาการชักเกร็ง หายใจไม่ออก ตนจึงนำตัวน้องกระแตขึ้นรถขับไปส่งที่ รพ.ลาดพร้าว
จุดที่สอง เป็นจุดที่นายธนัชนำเข็มฉีดยาพร้อมกล่องใส่ขวดเปล่าที่บรรจุสารฟิลเลอร์ นำมาทิ้งไว้ในถังขยะสาธารณะ ซึ่งห่างจากคอนโดฯ ประมาณ 200 เมตร ก่อนที่จะเดินทางกลับห้องพัก
นายพสิษฐ์เปิดเผยว่า อยากฝากไปถึงผู้บริโภคที่ต้องการเสริมความงาม ให้ไปพบแพทย์ที่ รพ.ที่ได้รับอนุญาตจากกระทรวงสาธารณสุขเพื่อให้แพทย์เฉพาะด้านรักษาและทำในสถานพยาบาลดีกว่า เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินแพทย์สามารถช่วยชีวิตได้ทัน และปกติแพทย์ที่ถูกต้องตามกฎหมายจะไม่รับรักษาภายนอกสถานรักษาพยาบาล ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นขอให้เป็นอุทาหรณ์แก่ผู้ที่จะเสริมความงาม ส่วนที่เรียกว่า “หมอกระเป๋า” นั้นจะต้องให้ทางเจ้าหน้าที่เข้มงวดมากกว่านี้เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำขึ้นอีก
ด้านนายธนัช หรือ “หมอป็อป” กล่าวว่า ตนรู้สึกเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น ซึ่งบางครั้งไม่คุ้มกับการที่เสียเงินในราคาถูกเพราะจะไม่สามารถแก้ไขอะไรได้หากเกิดเหตุไม่คาดคิดและต้องเสียชีวิต จึงอยากจะให้ไปทำที่ รพ.ถูกต้องตามกฎหมายมากกว่า เพื่อเป็นการป้องกันชีวิตตนเอง และตนไม่ทราบมาก่อนว่าคนไข้มีอาการแพ้ หลังจากที่น้องกระแตมีอาการชักเกร็งก็รีบพาไปส่ง รพ.ทันที โดยตนเคยทำงานในคลินิกมาก่อนจึงเรียนรู้วิธีการฉีดสารให้คนไข้ และทำมาแล้วประมาณ 5 เดือนมีลูกค้าประมาณ 20 คน โดยส่วนใหญ่ลูกค้าจะเป็นการบอกปากต่อปาก ซึ่งตนเองก็ไม่ได้โฆษณาแต่อย่างใด ส่วนสารฟิลเลอร์นั้นตนจะสั่งซื้อทางอินเทอร์เน็ต และก่อนหน้านี้ตนเคยฉีดจมูกของตัวเองมาแล้วจึงไม่คิดว่าน่าจะมีอันตราย
ทางด้าน พ.ต.อ.วิวัฒน์เปิดเผยว่า ทางกองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี (กก.ดส.)ได้รับการติดต่อขอมอบตัวนายธนัช หรือ “หมอป็อป” ผ่านทาง ผบช.น. ซึ่งผู้ต้องหาได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีพร้อมรับผิดชอบทุกอย่าง และเป็นคนพาผู้เสียหายไปส่ง รพ.ลาดพร้าวด้วยตัวเอง หลังจากนี้จะนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
เวลา 14.00 น. นพ.สุวินัย บุษราคัมวงษ์ เปิดเผยความคืบหน้ากรณีที่นางสาวอาทิตยา หรือน้องกระแต เอี่ยมแย้ม พริตตี้สาว ที่ได้ฉีดฟิลเลอร์ที่สะโพกเพื่อเสริมให้ กระชับสวยงามจนเกิดอาการช็อกเป็นเจ้าหญิงนิทราซึ่งได้นอนรักษาตัวที่ รพ.กล้วยน้ำไท 1 ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น ว่า ขณะนี้อาการยังไม่ดีขึ้น ยังทรงตัวอยู่ โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาได้ทำการฝังเข็มที่มือเพื่อกระตุ้นความรู้สึกตัว แต่ก็ไม่มีการตอบสนองแต่อย่างใด
ต่อมาทางทีมแพทย์จึงใช้วิธีการรมควันที่เท้าอีกทางหนึ่ง ซึ่งผลออกมาว่าน้องกระแตตอบสนองเล็กน้อยคือมีการเคลื่อนไหวของนิ้วเท้าบ้าง แต่อย่างไรก็ตามต้องลุ้นให้น้องกระแตฟื้นขึ้นมาให้เร็ววันที่สุด เพราะหากนอนไม่ได้สตินานเท่าไหร่อาการก็ยิ่งแย่ลงไปทุกขณะ
“แพทย์ไม่สามารถระบุได้ว่าน้องกระแตจะมีโอกาสหายกลับมาปกติดังเดิมได้กี่เปอร์เซ็นต์ ต้องรอน้องกระแตฟื้นคืนกลับมาก่อนถึงจะสามารถตอบได้ เนื่องจากน้องกระแตสมองขาดออกซิเจนนานกว่า 10 นาทีจนทำให้สมองตาย” นพ.สุวินัยกล่าว
ด้านนางระเบียบ ผินกลับ อายุ 57 ปี แม่ของน้องกระแต กล่าวว่า ตนยังคงเฝ้ารอการฟื้นคืนกลับมาของลูกสาวอันเป็นที่รัก ซึ่งตนได้ทำทุกวิถีทางเพื่อรักษาให้น้องกระแตหายกลับมาเป็นดังเดิม ซึ่งวันนี้น้องกระแตไม่ยอมรับอาหาร และปัสสาวะบ่อยจนผิดปกติ ตนกังวลใจเกรงว่าลูกจะเป็นอะไรไป และในช่วงเย็นทางคุณหมอบอกว่าจะทำการสแกนสมองของน้องเพื่อตรวจดูว่าอาการทางสมองเป็นอย่างไรมีการตอบสนองบ้างหรือไม่
ทางด้าน น.ส.พิมพัพจนา สายสะอาด เพื่อนสนิทของน้องกระแต เปิดเผยว่า เห็นอาการเพื่อนแล้วก็รู้สึกไม่ค่อยดีเพราะยังไม่ดีขึ้น วันนี้มีกลุ่มเพื่อนพริตตี้จำนวนหนึ่งได้เข้ามาเยี่ยมน้องกระแตเพื่อให้กำลังใจ แต่ละคนได้เข้าไปกระซิบข้างหูของน้องกระแตโดยหวังว่ากระแตจะรับรู้ว่าเพื่อนๆ ยังรอเธอคืนกลับมา โดยตนก็ยังรอให้เพื่อนหายกลับมาเป็นเหมือนปกติแม้ความหวังจะดูเลือนราง