รู้ตัวสาวใหญ่โดดบ่อจระเข้ฆ่าตัวตาย รอทำพิธีเชิญวิญญาณกลับบ้าน

กองปราบฯ ลงพื้นที่ตรวจฟาร์มจระเข้ที่สาวป่วยด้วยโรคซึมเศร้าตกบ่อจนถูกเขมือบ พร้อมเชิญตัวผู้จัดการฟาร์มและพนักงานมาสอบปากคำทุกคน โดยผู้บริหารฟาร์มยอมรับมีหญิงตกลงไปในบ่อจริงแต่ไม่มีหลักฐานยืนยันว่าเป็นใคร และได้ไปลงบันทึกประจำวันไว้แล้วเมื่อ 27 ส.ค. ขณะที่สื่อเดลีเมล์ชื่อดังอังกฤษพาดหัวข่าวใหญ่หญิงไทยเครียดโดดบ่อจระเข้ฆ่าตัวตาย

วันนี้ (6 ก.ย.) ที่กองปราบปราม พ.ต.อ.นิรันดร์ นามสุวรรณ ผกก.2 บก.ป. กล่าวถึงความคืบหน้ากรณี นายเสน่ห์ จิตศรัทธา สามีของนางทิพวรรณ จิตศรัทธา ได้เข้ามาร้องขอความช่วยเหลือจากกองปราบปราม ขอให้ช่วยเหลือพาเข้าไปทำพิธีเชิญวิญญาณของภรรยาที่ตกลงไปเสียชีวิตภายในบ่อจระเข้ของฟาร์มจระเข้ จ.สมุทรปราการ ว่าคดีนี้หลังจากที่ผู้เสียหายได้เข้ามาร้องทุกข์ ทางเจ้าหน้าที่ได้รับเรื่องไว้แล้ว เบื้องต้นเท่าที่ทราบทางฟาร์มจระเข้ที่เกิดเหตุได้ปฏิเสธเรื่องที่เกิดขึ้น วันนี้ตนจึงได้สั่งการให้ พ.ต.ท.อรรถพล พานประทีป สว.กก.2 บก.ป.ลงไปประสานกับตำรวจของ สภ.เมืองสมุทรปราการ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว

พ.ต.อ.นิรันดร์กล่าวต่อว่า เรื่องที่เกิดขึ้นข่าวที่ออกไปอาจไม่ตรงกัน ทราบว่าเกิดจากความขัดแย้งกันเองภายในกลุ่มผู้บริหารของฟาร์ม แต่ก็เชื่อว่าไม่น่ามีปัญหาอะไร เพราะทางผู้เสียหายไม่ประสงค์รับสินไหมชดเชยอะไร เพียงแต่ขอนิมนต์พระเข้าไปทำพิธีเชิญวิญญาณของผู้ตายเท่านั้น ซึ่งเท่าที่รับรายงานความคืบหน้าจากเจ้าหน้าที่ สภ.เมืองสมุทรปราการทราบว่า ได้เรียกผู้เสียหายและตัวแทนของฟาร์มจระเข้เข้ามาเจรจากันอยู่

ด้าน พ.ต.ท.อรรถพล กล่าวว่า ได้ร่วมกับตำรวจของสภ.เมืองสมุทรปราการ เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ นอกจากนี้ยังเชิญตัวผู้จัดการฟาร์มาสอบปากคำถึงเรื่องดังกล่าวด้วย เบื้องต้นทราบว่าบริเวณที่เกิดเหตุนั้นมีกล้องวรจรปิด ติดตั้งไว้ 3 จุด ก็กำลังตรวจสอบภาพทั้งหมด รวมถึงได้ตรวจสอบบริเวณรอบๆบ่อที่เกิดเหตุ เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติมด้วย ส่วนการสอบปากคำพนักงานของฟาร์มทุกคนต่างให้ปากปฎิเสธไม่รู้ไม่เห็น ซึ่งทางพนักงานสอบสวนของ สภ.เมืองสมุทรปราการ ก็จะเรียกตัวพนักงานทั้งหมดมาสอบปากคำอย่างละเอียดต่อไป

รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า เหตุดังกล่าวขึ้นเมื่อวันที่ 24 ส.ค. ต่อมาวันที่ 27 ส.ค. นายจรูญ ยังประภากร และพล.ต.ประเสริฐ ยังประภากร กรรมการบริหารฟาร์มจรเข้และสวนสัตว์สมุทรปราการ ก็เข้าพบร.ต.ท.ฐากร เนียนสอาด พงส. (สบ1)สภ.เมืองสมุทรปราการ เพื่อขอให้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ว่าในวันดังกล่าวได้มีผู้เข้ามาเสียชีวิตภายในบ่อเลี้ยงจระเข้ของฟาร์ม แต่ผู้ตายไม่มีหลักฐานว่าเป็นใคร มาจากไหน จึงขอให้ตำรวจได้ลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน

ขณะที่รายงานของสื่อดังเมืองผู้ดีที่มียอดจำหน่ายกว่าวันละ 1.95 ล้านฉบับ ระบุว่า หญิงไทยรายนี้ซึ่งมีอายุ 36 ปีได้บอกกับสามีของเธอว่าจะเดินทางไปพบแพทย์ และจากนั้นจะไปฟาร์มจระเข้ที่จังหวัดสมุทรปราการ และเธอก็ไม่ได้กลับไปที่บ้านอีกเลย ท่ามกลางกระแสข่าวที่ระบุว่า สามีของเธอซึ่งมีชื่อว่า “สุนัย” วัย 55 ปี ออกมาอ้างว่าได้รับข้อมูลจากคนงานของฟาร์มจระเข้แห่งดังกล่าวว่าพบผู้หญิงที่มีลักษณะคล้ายกับภรรยาของเขาที่ชื่อ “ทิพวัลย์” ได้เสียชีวิตเพราะถูกจระเข้กินไปแล้ว หลังจากที่เธอกระโดดลงไปในบ่อ

อย่างไรก็ดี รายงานข่าวซึ่งไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับวันเวลาที่เกิดเหตุชิ้นนี้ได้อ้างว่า ทางฟาร์มจระเข้สมุทรปราการออกมายืนยันว่าไม่เคยมีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น ทำให้เรื่องยิ่งซับซ้อนมากขึ้นไปอีก ขณะที่ผู้เป็นสามีได้อ้างว่าเขาได้รับการติดต่อจากชายคนหนึ่งที่ระบุว่าเป็นตัวแทนของฟาร์มจระเข้ที่ติดต่อมาเพื่อขอเจรจาไกล่เกลี่ยต่อโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้น

รายงานของเดลีเมล์ยังระบุว่า นายสุนัยไม่รู้สึกแปลกใจต่อการเสียชีวิตของภรรยา โดยระบุภรรยาของเขามีปัญหาทางการเงินและทนทุกข์กับอาการเครียดมานานแล้ว ซึ่งก็มีความเป็นไปได้ที่เธออาจตัดสินใจกระโดดลงบ่อจระเข้เพื่อฆ่าตัวตายหนีปัญหา

ทั้งนี้ นายสุนัยยืนยันจะไม่ฟ้องร้องเอาผิดใดๆ ต่อเจ้าของฟาร์ม แต่ต้องการทราบความจริงต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น