ตร.บช.ปส.วิสามัญฆาตกรรมคนร้ายคดียาเสพติด 1 รายขณะนำกำลังเข้าปิดล้อมจับกุมภายในหมู่บ้านบุศรินทร์ เขนตสายไหม กรุงเทพฯ ตะลึงค้นบ้านพบของกลางยาบ้าซุกซ่อนไว้ 1.5 ล้านเม็ด มูลค่ากว่า 300 ล้านบาท รวบสมาชิกขบวนการค้ายานรกได้คาบ้าน เค้นสอบรับจ้างขนยานรกครั้งละ 20,000 บาท หลังพ้นโทษเรือนจำเขาพริก จ.นครราชสีมา!
วันนี้ (24 ส.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) ได้นำกำลังเข้าทำการจับกุมเครือข่ายค้ายาเสพติดรายใหญ่ ภายในบ้านเลขที่ 78/154 ม.บุศรินทร์ ซ.8 ถ.วัดเกาะ แขวงออเงิน เขตสายไหม กทม. จากนั้น พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร. พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ โชติมา ผบช.ปส. พล.ต.ต.ชัยวัฒน์ ฉันวรลักษณ์ ผบก.สปพ. พล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง รอง ผบช.ปส. พล.ต.ต.สำเริง สุวรรณพงษ์ ผบก.น.2 พ.ต.อ.หาญ เลิศทวีวิทย์ ผกก.สน.สายไหม เดินทางมาตรวจสอบยังจุดเกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านทาวน์เฮาส์สองชั้นปลูกติดกัน 12 หลัง บ้านดังกล่าวอยู่หลังที่ 2 เจ้าหน้าที่ชุด บช.ปส.กำลังควบคุมตัวนายสิทธิชัย กรุดเที่ยง อายุ 37 ปีเอาไว้ อยู่ในสภาพสวมเสื้อโปโลสีขาว สวมกางเกงขายาวลายพราง โดยพบของกลางยาบ้า 1,500,000 เม็ด มูลค่ากว่า 300 ล้านบาทซุกซ่อนอยู่ภายในบ้าน ส่วนบริเวณป่ากกท้ายซอยติดกำแพงนอกรั้วหมู่บ้านพบศพชาย สภาพนอนหงาย สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีเขียว กางเกงขายาวสีน้ำเงิน มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่บริเวณลำคอขวา ริมฝีปากด้านบน แผ่นหลังขวา แขนขวา สะบักหลัง และเอว รวม 6 นัด ใกล้กันพบอาวุธปืนขนาด 9 มม.ยี่ห้อซีแซดสีดำตกอยู่ ทราบชื่อต่อมา คือ นายสุธี หรือขุน สุวรรณอยู่ศิริ อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 5/290 ซ.ดำรงลัทธพิพัฒน์ ซ.5 แขวงและเขตคลองเตย กทม.
พล.ต.อ.เพรียวพันธ์เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) ได้สืบทราบว่าคนร้ายดังกล่าวเป็นขบวนการค้ายา และได้ทำการติดตามมาร่วมเดือนแล้ว และเมื่อช่วงเช้านายสุธีได้ขับรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีเขียว หมายเลขทะเบียน ตค 327 กทม. ซึ่งจากการตรวจสอบทราบว่าเป็นทะเบียนปลอม มารับนายสิทธิชัยที่บ้าน ก่อนที่จะพาขับรถตระเวนแล้วไปจอดให้นายสิทธิชัยลงไปขับรถจี๊ปเชอโรกี สีบรอนซ์-ทอง หมายเลขทะเบียน ฆญ 6159 กทม. โดยรถคันดังกล่าวมีกุญแจเสียบอยู่สามารถขับไปได้เลย และให้ขับรถกลับไปจอดที่บ้านดังกล่าว จากนั้นนายสิทธิชัยได้ขับรถดังกล่าวกลับมาบ้านโดยมีนายสุธีผู้ตายขับตามประกบอยู่ห่างๆ เพื่อดูต้นทาง เมื่อไปถึงบ้านก็ได้นำยาบ้าไปซุกซ่อนไว้ในห้องใต้บันได และบางส่วนก็ซ่อนไว้บนชั้น 2 ของบ้าน หลังจากนั้นก็ผู้ต้องหาก็ยังได้มีการตรวจนับของและถ่ายรูปเก็บเอาไว้ด้วย
ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมนำโดย พ.ต.ท.กฤษดา ศรีอีสาน สว.กก.2 บก.ปส.3 บช.ปส. และชุดเฝ้าติดตาม ได้บุกเข้าตรวจค้นเพื่อจับกุม แต่นายสุธีได้วิ่งขึ้นไปบนชั้น 2 และปีนทะลุเพดานวิ่งตามฝ้าเพดานไปหลบที่บ้านหลังถัดไป 10 คูหา ก่อนที่จะตัดสินใจกระโดดออกไปทางนอกรั้วหมู่บ้านและใช้ปืน 9 มม.ยิงต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ จึงถูกวิสามัญฆาตกรรมในเวลาต่อมา ส่วนทางนายสิทธิชัยไม่ได้หลบหนีไปไหน เจ้าหน้าที่ได้ทำการจับกุมเอาไว้ได้ภายในบ้าน ขณะที่ภายในบ้านนั้นยังมีภรรยา ลูก และหลานของนายสิทธิชัยพักรวมอยู่ด้วยรวม 4 คน จึงได้ควบคุมตัวคนในบ้านทั้งหมดเพื่อทำการสอบสวนเบื้องต้นที่ บก.ปส.3 บช.ปส.
จากการสอบสวนนายสิทธิชัยให้การรับสารภาพว่า ตนเข้ามาพักได้เดือนกว่าแล้ว เช่าเดือนละ 6,000 บาท พร้อมลูก เมีย และหลาน โดยทำมาหลายครั้งแล้ว ก่อนถูกจับกุมนายสุธีได้ขับรถมารับตนตั้งแต่ช่วงเวลา 02.00 น.แล้วพาวนไปจอดที่ตลาดปัฐวิกรณ์ และได้ให้ตนลงไปขับรถที่มียาบ้าซุกซ่อนอยู่เพื่อขับกลับมายังบ้านพักนี้ จากนั้นนายสุธีก็จะขับรถนำทางมาที่บ้าน เมื่อมาถึงก็ขนของกลางลง ก่อนที่จะนำไปเก็บเอาไว้ที่ในห้องใต้บันได และบนชั้น 2 เมื่อทางเจ้าหน้าที่เข้ามาจับกุม นายสุธีได้วิ่งหลบหนีทะลุฝ้าเพดานไป จากนั้นเกิดการยิงยิงต่อสู้ ส่วนตนไม่กล้าหลบหนีและยอมให้ข้อมูลต่อเจ้าหน้าที่แต่โดยดี ส่วนนายสุธีนั้นตนได้รู้จักตอนถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำเขาพริก จ.นครราชสีมา เมื่อถูกปล่อยตัวก็ออกมาติดต่อกันอีกครั้ง โดยได้ค่าจ้าง 20,000 บาท ทุกครั้งที่ทำจะนำรถไปล้างเพื่อดับกลิ่น
พล.ต.อ.เพรียวพันธ์กล่าวอีกว่า จากการสอบสวนทราบว่านายสุธีได้ขับรถมารับนายสิทธิชัยเพื่อรับของ โดยนายสิทธิชัยจะทำหน้าที่ลงไปขับรถที่ทางเอเยนต์นำมาจอดทิ้งเอาไว้ที่ตลาดปัฐวิกรณ์ ทั้งนี้ยาบ้าล็อตดังกล่าวถูกลำเลียงมาจากทางภาคเหนือ กำลังจะนำมากระจายในกรุงเทพฯ ชั้นใน โดยมีนายทุนรับต่อไปจำหน่ายที่ย่านคลองเตย ทราบว่าทั้งหมดเป็นเครือข่ายของทางคลองเตย และบ้านหลังดังกล่าวก็ถูกใช้เป็นจุดพักยาเสพติดด้วย และจากการตรวจสอบประวัติพบว่าภรรยาของนายสุธีเป็นลูกพี่ลูกน้องของ “หมู เขาบิน” นายสุชาติ หรือหมู ปานทะโชติ ที่ติดคุกอยู่ที่ราชบุรีด้วย ส่วนการจับกุมดังกล่าวถือเป็นการตัดเส้นเลือดเครือข่ายยาบ้าครั้งใหญ่ ในการนำไปกระจายในกรุงเทพฯ เบื้องต้นได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ บช.ปส.และตำรวจนครบาลเข้มงวดในการหาข่าวเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของยาเสพติดต่อไป
