สภาทนายความยันเสนอชื่อ “สัก กอแสงเรือง” สรรหาเป็น ส.ว.อีกครั้ง

สภาทนายความเตรียมส่งชื่อ “สัก กอแสงเรือง” เพื่อเข้ารับการสรรหาเป็นสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.สรรหา) ปี 55 อีกครั้ง หลังถูกศาลฎีกาพิพากษาให้เพิกถอนตำแหน่ง “ส.ว.” ซึ่งสภาทนายฯ เห็นแย้งคำสั่งศาลในประเด็นคำว่า “ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง” ที่เป็นคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 115 (9)

วันนี้ (24 ส.ค.) นายเจษฎา อนุจารี อุปนายกฝ่ายวิชาการสภาทนายความ เปิดเผยว่า ทางสภาทนายความ ยืนยันเสนอชื่อนายสัก กอแสงเรือง นายกสภาทนายความ เข้ารับการสรรหาเป็นสมาชิกวุฒิสภา ปี 2555 อีกครั้ง แม้ศาลฎีกาจะพิพากษาเพิกถอนการเป็น ส.ว. โดยสภาทนายความยังมีความเห็นแย้งกับคำสั่งศาลฎีกาอยู่จึงขอตั้งประเด็นไว้เป็นประเด็นศึกษาทางนิติศาสตร์ต่อไปว่า คำว่า “ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง” ที่เป็นคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 115 (9) ให้หมายความถึงสมาชิกวุฒิสภาด้วย และในการสรรหานายสักเป็นสมาชิกวุฒิสภา ทาง กกต.ได้พิจารณาคุณสมบัติของนายสัก พร้อมด้วยอดีต ส.ว.คนอื่นในสมัยเดียวกัน ซึ่งกรรมการสรรหาเห็นว่านายสักพ้นสมาชิกภาพการเป็น ส.ว.เกิน 5 ปีแล้ว การวินิจฉัยของกรรมการสรรหาจึงเป็นที่สุดตามมาตรา 130 พ.ร.บ.ประกอบ รธน.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส., ส.ว. ดังนั้น กกต.ย่อมไม่มีอำนาจนำมาวินิจฉัยได้อีก และที่ศาลฎีกาอ้างคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ 20/2543 ว่าผูกพันศาลฎีกานั้น ตนเห็นว่าคำวินิจฉัยดังกล่าวยังไม่เคยวินิจฉัยเรื่องสมาชิกภาพของ ส.ว.สมัยเดียวกับนายสัก ว่ามีการเริ่มต้นนับอย่างไร ดังนั้นการอ้างคำวินิจฉัยดังกล่าวจึงคลาดเคลื่อน

อุปนายกกล่าวว่า ขั้นตอนต่อไปคือส่งชื่อนายสัก กอแสงเรือง เข้ารับการสรรหา ซึ่งทางกกต.จะตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาเป็นชุดกลั่นกรอง เมื่อส่งชื่อไปแล้วทางสภาทนายไม่มีโอกาสชี้แจงอีก ถ้าเขาวินิจฉัยแล้ว “ตัดสิทธิ” นายสักอีก เราจะไม่เสนอชื่อคนใหม่เพราะคงเลยเวลาไปแล้ว แต่จะดำเนินคดีต่อผู้เกี่ยวข้องทันที ขึ้นอยู่กับว่าคดีนั้นจะอยู่ในเขตอำนาจของศาลใด เช่น อาจเป็นศาลรัฐธรรมนูญ ศาลปกครอง หรือศาลยุติธรรม และถ้าผ่านชั้นอนุฯ กลั่นกรองไปแล้วเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการสรรหาอีก 1 ชุด แล้วยังขืนตัดสิทธินายสักอีก เราก็จะดำเนินคดีต่อกรรมการอีกเช่นกัน

นายสัก กอแสงเรือง กล่าวว่า เรื่องที่ผ่านมาทั้งหมดขอให้ทุกฝ่ายทุกองค์กรได้ปฏิบัติหน้าที่ตามที่กฎหมายมอบให้ ขอให้ปฏิบัติด้วยความสุจริต และเป็นธรรม เป็นตัวอย่างที่ดีแก่องค์กรอื่นและประชาชน การเคารพในทุกความเห็น ทุกเรื่องย่อมต้องมีข้อยุติในช่องทางของกฎหมาย แม้ความเห็นในเชิงวิชาการก็ยังต้องรับฟังด้วยเหตุด้วยผล