xs
xsm
sm
md
lg

แม่บ้าน “แหม่ม” ปัดลักทรัพย์ ยันเป็นเรื่องโอละพ่อ

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

ภาพวงจรปิดจับภาพนางปาณิสรา ศรีวิชา แม่บ้านเข้าไปลักทรัพย์สินภายในบ้าน
แม่บ้าน “แหม่ม วิชุดา” ปฏิเสธข้อหาลักทรัพย์ ยันโทรทัศน์ที่ปรากฏในกล้องวงจรปิด เป็นของตัวเอง พร้อมมีหลักฐานการซื้อขายยืนยัน ตร.ออกหมายเรียก เพื่อสอบปากคำแล้ว ด้าน “แหม่ม” แฉเพิ่ม เงินใต้หมอนที่พ่อนอนรักษาตัวอยู่หายไปอีก 2,000 บาท

วันนี้ (15 ส.ค.) พ.ต.ท.สุชัย แสงส่อง พงส.(สบ 3) สน.พหลโยธิน กล่าวถึงความคืบหน้าคดี น.ส.วิชุดา พยัคเพศ อายุ 35 ปี หรือชื่อในวงการ คือ “แหม่ม” วิชุดา พินดัม ดารานักแสดงสาวชื่อดัง เดินทางเข้าพบเพื่อร้องทุกข์ว่าถูกนางปาณิสรา ศรีวิชา อายุ 48 ปี แม่บ้านขโมยทรัพย์สินภายในบ้านเมื่อประมาณช่วงสิ้นเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา พร้อมทั้งนำภาพวงจรปิดที่บ้านมาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไว้เป็นหลักฐานนั้น

ล่าสุด นางปาณิสราได้ติดต่อมาให้การเบื้องต้นว่า เรื่องราวทั้งหมดเป็นความเข้าใจผิด พร้อมชี้แจงว่าไม่ได้ลักทรัพย์สินของ “แหม่ม-วิชุดา” ไป เพราะโทรทัศน์ที่ตนยกออกจากบ้าน ซึ่งกล้องวงจรปิดจับภาพได้นั้น เป็นโทรทัศน์ของตัวเอง รวมถึงเครื่องเล่นดีวีดีด้วย ซึ่งตนมีหลักฐานการซื้อขายโทรทัศน์และเครื่องเล่นดีวีดีดังกล่าว ส่วนกุญแจรถมอเตอร์ไซค์ 2 ดอกนั้น เขาไม่ได้ลักไปตามที่เป็นข่าว ส่วนเรื่องเงิน 20,000 บาทนั้น ทางนางปาณิสราอ้างว่าเป็นเงินที่โอนล่วงหน้า และหลังจากเป็นข่าว ทางนางปาณิสราก็อ้างว่าเดี๋ยวจะโทรศัพท์ไปคุยกับแหม่ม-วิชุดาเอง

ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนจะได้ออกหมายเรียกตัวนางปาณิสราเข้ามาให้ปากคำแล้วเมื่อวานนี้ ซึ่งนางปาณิสราก็ยืนยันว่าจะเข้ามาให้ปากคำแน่นอน แต่ขอเวลา 2-3 วัน เพราะยังตกใจกับการที่สื่อนำเสนอข่าวอยู่ ขณะนี้ยังทำงานเป็นแม่บ้านอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ ทั้งนี้ ในส่วนของเจ้าหน้าที่หากนางปาณิสราเดินทางมาให้ปากคำ ก็ต้องแจ้งข้อหาไว้ก่อนเบื้องต้นจนกว่าจะสามารถพิสูจน์หลักฐานของทรัพย์สินได้ทั้งหมด และจะทำเรื่องส่งอัยการมีความเห็นว่าจะฟ้องไม่ฟ้องต่อไป

ด้านดาราสาวเปิดเผยว่า หลังจากไปสำรวจทรัพย์สินภายในบ้านอีกครั้ง พบว่าเงินใต้หมอนที่พ่อนอนรักษาตัวอยู่หายไปอีก 2,000 บาท ส่วนเรื่องโทรทัศน์และเครื่องเล่นดีวีดีที่อีกฝ่ายอ้างว่าซื้อมานั้น ตนก็อยากให้เอาหลักฐานมายืนยัน เพราะอีกฝ่ายจะพูดอะไรก็ได้ แต่โทรทัศน์และเครื่องเล่นดีวีดีนั้น ตนยืนยันว่าเป็นของตนแน่นอน โดยโอนเงินให้ทางอีกฝ่ายไปซื้อมาให้ตน ในราคา 8,000 บาท และหลังจากเกิดเรื่องอีกฝ่ายก็ไม่ได้ติดต่อมาอีกเลย ทั้งนี้ หากตนไม่แน่ใจในข้อเท็จจริงเรื่องลักทรัพย์ คงไม่เดินทางมาแจ้งความ และอยากถามอีกฝ่ายว่าหากโทรทัศน์เป็นของอีกฝ่ายจริง ทำไมจะต้องหลบหนีไปด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น