ร้อง “เพรียวพันธ์” จี้ ตร.เอาผิดสาวแสบนามสกุล “ดามาพงศ์” เชิดรถ

เจ้าของรถแบ็กโฮและรถปิกอัพให้เช่า บุก สตช.ยื่นหนังสือร้องเรียนถึง “เพรียวพันธ์” เพื่อขอความเป็นธรรมให้เจ้าหน้าที่ ตร.เร่งรัดจับกุมสองสามีภรรยานามสกุล “ดามาพงศ์” หลอกเช่ารถไปแล้วเชิดหาย หลังฟ้องศาลแล้วนัดไกล่เกลี่ยกลับเบี้ยวอีก ชี้ ตร.ออกหมายจับแต่ไม่มีใครกล้าจับ เพราะนามสกุลตรงบิ๊กสีกากี!

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 15 ส.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) นายชลอ ช่างทอง อายุ 60 ปี อาชีพรับจ้าง อยู่บ้านเลขที่ 142 ม.3 ต.เขวา อ.เมือง จ.มหาสารคาม เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร.เพื่อขอความเป็นธรรมและให้เร่งรัดจับกุม น.ส.สุชิน ดามาพงศ์ อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 283/1-2 ม.11 ต.บางตาเถร อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี และนายเดชา อ้อมแก้ว อายุ 45 ปี สองสามีภรรยา จำเลยในคดียักยอกทรัพย์รถแบ็กโฮ และรถปิกอัพยี่ห้ออีซูซุโฟร์วีลของตน

นายชลอกล่าวว่า เมื่อเดือน ส.ค. 2553 น.ส.สุชิน ดามาพงศ์ อายุ 42 ปี และนายเดชา อ้อมแก้ว ได้ติดต่อขอเช่าซื้อรถแบ็กโฮ และรถกระบะอีซูซุจากตนเพื่อนำไปใช้ในกิจการตักดินในบ่อดิน ส.ดามาพงศ์ อ.ลาดบัวหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา โดยตกลงจ่ายค่าเช่ารถแบ็กโฮเดือนละ 100,000 บาท ขณะที่รถกระบะเดือนละ 12,000 บาท ซึ่งได้จ่ายค่าเช่าเรื่อยมากระทั่งช่วงน้ำท่วมใหญ่เมื่อปลายปี 2554 น.ส.สุชินได้ขอผ่อนผันการจ่ายค่าเช่า ซึ่งตนก็รู้สึกเห็นใจจึงยอมผ่อนผันให้ แต่ต่อมาหลังผ่านช่วงน้ำท่วมมาหลายเดือน น.ส.สุชินก็ยังไม่ยอมจ่ายค่าเช่า เมื่อตนขอดูรถก็พยายามผัดผ่อนไปเรื่อยๆ ตนจึงติดตามไปยังบ่อดินดังกล่าวก็ไม่พบรถ จึงได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.ลาดบัวหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา ขณะเดียวกันได้ยื่นฟ้อง น.ส.สุชินและนายเดชา ต่อศาลแขวง จ.พระนครศรีอยุธยา ในข้อหายักยอกทรัพย์ ซึ่งต่อมาศาลได้นัดไกล่เกลี่ย

นายชลอกล่าวต่อไปว่า ในชั้นไกล่เกลี่ย น.ส.สุชินตกลงจะซื้อรถแบ็กโฮและรถกระบะมาคืนให้ พร้อมชำระค่าเช่าที่ค้างอยู่จำนวน 800,000 บาท แต่หลังจากนั้นเจ้าตัวก็ไม่ได้ทำตามที่ตกลงไว้ รวมถึงไม่ยอมมาศาลตามกำหนดนัด กระทั่งเมื่อวันที่ 23 เม.ย. 2555 ศาลได้พิพากษาลับหลังจำเลยให้จำคุก 1 ปี 6 เดือน พร้อมอนุมัติออกหมายจับ ซึ่ง น.ส.สุชินและนายเดชายังคงหลบหนีอยู่ในพื้นที่ แต่ตำรวจกลับปล่อยปละละเลยไม่ยอมจับกุม ที่ผ่านมา น.ส.สุชินยังเคยอ้างว่าเป็นญาติกับ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ จึงอาจเป็นสาเหตุที่ตำรวจไม่ยอมดำเนินการใดๆ ทั้งนี้ ที่ผ่านมาครอบครัวตนต้องได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก เพราะรถทั้ง 2 คันเป็นเครื่องมือทำมาหากิน จึงอยากขอความเป็นธรรมต่อ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ให้เร่งรัดตำรวจท้องที่ดำเนินการจับกุมจำเลยทั้ง 2 คนด้วย