ศาลฎีกาแผนกเลือกตั้ง มีคำสั่ง ประจิตต์ โรจนพฤกษ์ พ้นตำแหน่ง ส.ว.สรรหา และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี ชี้ ขาดคุณสมบัติไม่ไปเลือกตั้ง จ.ปทุมธานี
ที่ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง สนามหลวง วันนี้ (14 ส.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น.ศาลนัดฟังคำสั่งคดีหมายเลขดำที่ ลต.3/2555 ระหว่างคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ผู้ร้อง นายประจิตต์ โรจนพฤกษ์ ส.ว.สรรหา ผู้คัดค้าน เรื่องขอให้เพิกถอนการสรรหา ส.ว.และขอให้เพิกถอนสิทธิการเลือกตั้ง 5 ปี
คดีสืบเนื่องจาก กกต.ผู้ร้อง ยื่นคำร้องว่า นายประจิตต์ ผู้คัดค้าน ได้รับการสรรหาเป็น ส.ว.โดยไม่ถูกต้อง หรือโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากผู้คัดค้านไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง และไม่แจ้งเหตุที่ไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้งดังกล่าว ผู้คัดค้านจึงเป็นผู้เสียสิทธิได้รับการเสนอชื่อเข้ารับการสรรหา เป็น ส.ว.แต่ผู้คัดค้านกลับยินยอมให้กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ เสนอชื่อผู้คัดค้าน เพื่อเข้ารับการสรรหา จึงขอให้ศาลเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งผู้คัดค้านเป็นเวลา 5 ปี และเพิกถอนการสรรหา ส.ว.ในส่วนของผู้คัดค้านและให้มีการสรรหา ส.ว.ใหม่
ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งวินิจฉัย ว่า ข้อเท็จจริงจากการไต่สวนรับฟังได้ว่า ผู้คัดค้านไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ส.ส.จังหวัดปทุมธานี เขตเลือกตั้งที่ 1 แทนตำแหน่งที่ว่าง เมื่อวันที่ 11 ม.ค.2552 และไม่ได้แจ้งเหตุขัดข้องที่ไม่ไปใช้สิทธิ ผู้คัดค้านจึงเป็นผู้เสียสิทธิการได้รับเสนอชื่อเข้ารับการสรรหาเป็น ส.ว.ตามพฤติการณ์มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าผู้คัดค้านรู้ข้อเท็จจริงดังกล่าวอยู่แล้ว แต่ยินยอมให้องค์กรภาครัฐเสนอชื่อผู้คัดค้าน เพื่อเข้ารับการสรรหาเป็น ส.ว.โดยไม่สุจริต โดยฝ่าฝืนหลักเกณฑ์ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่ง ส.ว.พ.ศ.2550 มาตรา 26 วรรค 2 มีผลให้การสรรหา ส.ว.ในส่วนของผู้คัดค้านมิได้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม กรณีมีเหตุที่จะมีคำสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้คัดค้าน เป็นเวลา 5 ปี และเพิกถอนการสรรหา ส.ว.ในส่วนของผู้คัดค้าน และให้มีการสรรหา ส.ว.ในส่วนของผู้คัดค้านใหม่