ตำรวจท่องเที่ยวรวบแก๊งเงินดำตุ๋นคนไทยเปื่อยเกือบล้าน

ตำรวจท่องเที่ยวตามรวบสองหนุ่มไลบีเลีย ผู้ต้องหาแก๊งเงินดำหลอกต้มตุ๋นคนไทย สูญ 9 แสน แลกน้ำยาล่้างสารเคมีเปลี่ยนกระดาษสีเขียวให้เป็นแบงก์ดอลลาร์สหรัฐ หลังสองดำแสบโชว์สาธิตจนเหยื่อหลงกลเชื่ออย่างสนิทใจตามทุ่มเงินร่วมล้าน

เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 6 สิงหาคม 55 ที่ศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยว กองกำกับการ 6 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พล.ต.ต.อดิศร์ งามจิตสุขศรี ผบก.ทท. พ.ต.อ.ศุภพล อรุณสิทธิ์ รอง ผบก.ทท. พ.ต.อ.บุญรอด อังกาบ ผกก.6 บก.ทท. พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ร่วมกันแถลงผลจับกุมนายคริส จีเลซ์ เวลช์ อายุ 32 ปี สัญชาติไลบีเรีย และนายฟรานซิส ซีเซย์ อายุ 32 ปี สัญชาติ เซียราลีโอน สองผู้ต้องหาแก๊งเงินดำหลอกตุ๋นเงินคนไทย พร้อมของกลางตู้เซฟบรรจุกระดาษสีเขียวตัดเป็นแผ่นเท่าขนาดธนบัตรดอลลาร์ จำนวนมาก โทรศัพท์มือถือจำนวน 4 เครื่อง ธนบัตรดอลลาร์จำนวน 4 ใบ และบัตรเอทีเอ็มจำนวน 1 ใบ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ที่ห้องพักภายในซอยอินทามระ 40 ถ.สุทธิสาร แขวงและเขตดินเดง กทม.

พล.ต.ต.อดิศร์ งามจิตสุขศรี ผบก.ทท.กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 31 ก.ค. 55 ที่ผ่านมา ได้มีผู้เสียหายชื่อนายไกรวิทย์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 59 ปี อาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง ได้เข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวว่าถูกกลุ่มคนร้ายซึ่งเป็นชาวต่างชาติผิวสีหลอกตุ๋นเงินไปราว 900,000 บาท โดยได้รู้จักกลุ่มคนร้ายขณะเดินซื้อของอยู่ภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในเมืองพัทยา จ.ชลบุรี ซึ่งกลุ่มคนร้ายเหล่านี้ได้ทำทีเข้ามาตีสนิทพร้อมกับบอกว่าหลบหนีภัยสงครามมาพร้อมกับธนบัตรจำนวนมาก ซึ่งเป็นเงินกองทุนช่วยเหลือผู้ประสบภัยสงคราม แต่ใช้สารสีเขียวเคลือบไว้เพื่อความปลอดภัย และต้องใช้น้ำยาเคมีเฉพาะล้างกระดาษเคลือบสีดังกล่าวได้ แต่จะต้องเสียเงินซื้อน้ำยาดังกล่าวในราคา 1,500,000 บาท แต่ให้ออกเงินลงทุนซื้อน้ำยาร่วมกันคนละครึ่ง โดยครั้งแรกกลุ่มคนเหล่านี้ทำให้ดูและกระดาษเปลี่ยนเป็นธนบัตรดอลลาร์ซึ่งใช้แลกเปลี่ยนได้จริง ทำให้หลงเชื่อและโอนเงินพร้อมทั้งมอบเงินสดให้เพื่อแลกเปลี่ยนกับกระดาษสีเขียวดังกล่าว และครั้งสุดท้ายนำเงินมามอบให้ที่บริเวณชั้นใต้ดินสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เนื่องจากกลุ่มคนร้ายอ้างว่าเงินที่เหลือยังอยู่ในอาคารคลังสินค้าต้องนำเงินสดไปแลกเปลี่ยนออกมา แต่ก็ยังไม่ได้รับน้ำยา เชื่อว่าถูกหลอกจึงมาแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่

ผบก.ทท.กล่าวต่อว่า หลังจากทราบเรื่องเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงสืบสวนหาข่าวจนทราบว่าแก๊งดังกล่าวมีที่พักอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ จึงไปดักซุ่มจนเจอจึงแสดงตัวเข้าจับกุมก่อนผู้ต้องหาได้ 2 ราย ส่วนเพื่อนร่วมแก๊งอีก 2 คนหลบหนีไปได้ อยู่ระหว่างตามจับกุมตัวมาดำเนินคดี จากการสอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ซึ่งทาง บก.ทท.ขอฝากเตือนไปยังประชาชนให้ระมัดระวังการหลอกลวงดังกล่าวและไม่ควรให้ความโลภเข้าครอบงำ เพราะการใช้น้ำยาเคมีล้างกระดาษให้กลายเป็นธนบัตรจริงนั้นไม่มีจริง ซึ่งในครั้งนี้ผู้เสียหายถูกลวงให้ร่วมทำธุรกิจซื้อน้ำยาเคมีดังกล่าว เพราะเมื่อล้างสารเคลือบกระดาษแล้วจะได้ธนบัตรดอลลาร์สหรัฐ ฉบับละ 100 เหรียญ รวมมูลค่าสูงถึง 4.5 ล้านเหรียญสหรัฐ ประกอบกับขณะที่ดำเนินการต้มตุ๋นนั้นสามารถแลกเงินได้จริง จึงทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อและสูญเงินจำนวนดังกล่าวไป

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาร่วมกับพวกที่หลบหนีทำการฉ้อโกงทรัพย์ ก่อนควบคุมตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป