9 ส.ค. ศาลอาญาวางกฏเหล็กกันแดงป่วน จัดโซนนิ่งควบคุม 3 โซน คือ พื้นที่นอกรั้วศาลอาญา พื้นที่ด้านในรั้วศาลอาญา โดยจะมีการนำแผงเหล็กมากั้นตั้งแต่ลานจอดหน้าธนาคารออมสินเรื่อยมาจนกระทั่งสุดด้านหน้าศาลอาญา และพื้นที่ด้านในอาคารศาลอาญา ซึ่งเป็นพื้นที่ห้ามเดินไปมาตามอำเภอใจ ส่วนผู้ที่มาติดต่อราชการศาลจะต้องแลกบัตรเท่านั้น
วันนี้ (6 ส.ค.) ที่ห้องประชุมชั้น 10 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก นายทวี ประจวบลาภ อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา นายจุมพล ชูวงษ์ รองอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา พร้อมผู้บริหาร ประชุมร่วมกับ พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รอง ผบก.น.2 พ.ต.อ.อภิชาติ ศิริสิทธิ์ รองผบก.ป. พ.ต.อ.ชาตรี กาญจนกัญติ ผกก.สน.พหลโยธิน และนายวิรัตน์ ปานศรี ผอ.ส่วนควบคุมผู้ต้องขังไปศาล เรือนจำพิเศษกรุงเทพ พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเพื่อกำหนดมาตรการรักษาความปลอดภัยในวันที่ 9 สิงหาคม ที่ศาลสอบถามนายจตุพร พรหมพันธุ์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กับพวกแกนนำนปช. จำเลยในคดีร่วมกันก่อการร้ายรวม 24 คน ทำผิดเงื่อนไขการปล่อยชั่วคราวหรือไม่ โดยใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมงเศษ
ต่อมาเวลา 13.30 น. นายจุมพล กล่าวภายหลังประชุมร่วมกองอำนวยการรักษาความปลอดภัย ว่า ในวันที่ 9 สิงหาคม จะใช้ห้องผู้อำนวยการศาลอาญาเป็นกองอำนวยการ และจะมีการแบ่งพื้นที่ศาลอาญาออกเป็น 3 โซน คือ พื้นที่นอกรั้วศาลอาญา พื้นที่ด้านในรั้วศาลอาญา โดยจะมีการนำแผงเหล็กมากั้นตั้งแต่ลานจอดหน้าธนาคารออมสินเรื่อยมาจนกระทั่งสุดด้านหน้าศาลอาญา และพื้นที่ด้านในอาคารศาลอาญา ซึ่งเป็นพื้นที่ห้ามเดินไปมาตามอำเภอใจ ส่วนผู้ที่มาติดต่อราชการศาลจะต้องแลกบัตร ทั้งนี้ผู้มาติดต่อคดีไม่ว่าคดีที่ศาลจะทำการสอบถามจำเลยคดีก่อการร้ายหรือมาติดต่อศาลปกติก็จะถูกจำแนกด้วยสีบัตร และสื่อมวลชนก็จะต้องจำแนกบัตรเช่นกัน สำหรับรถโมบายถ่ายทอดสดจะอยู่บริเวณลานจอดรถหน้าศาลอาญา เพราะต้องกันพื้นที่ส่วนหนึ่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติงาน
พ.ต.อ.ชาตรี กล่าวว่า กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะปฎิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยในเหตุการณ์เฉพาะหน้าจะใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจของ สน.พหลโยธิน จำนวน 70 นาย โดยไม่ติดอาวุธ แต่ถ้ามีเหตุการณ์เฉพาะหน้าเปลี่ยนแปลงก็จะประเมินสถานการณ์และการปรับใช้กำลังเพิ่มขึ้นจากเบาไปหาหนัก เพื่อให้เหมาะสมกับเหตุการณ์ที่ปรากฏ แต่ตอนนี้ยังไม่สามารถประเมินได้ว่าจะมีผู้มาให้กำลังใจจำนวนเท่าใด แต่เบื้องต้นหน่วยเหนือได้ประสานทางแกนนำ นปช.แล้ว ให้ควบคุมผู้เดินทางมาให้กำลังใจให้อยู่ในความสงบเรียบร้อย เพราะการที่มีมวลชนมาจำนวนมากต้องมีการประชาสัมพันธ์ขอร้องให้รักษาความสงบ
พ.ต.อ.ชาตรี กล่าวว่า ผู้ที่จะเข้ามาในอาคารศาลอาญาจะต้องผ่านการตรวจแกนเครื่องหาวัตถุระเบิดเพื่อความปลอดภัย เช่นเดียวกันกับรถยนต์ที่จะเข้ามาจอดในบริเวณศาลอาญาจะต้องมีการตรวจหาวัตถุระเบิด แต่ถ้าหากในวันนั้นมีรถยนต์เป็นจำนวนมากจะไม่อนุญาตให้เข้ามาจอด โดยได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรคอยอำนวยความสะดวกให้จอดรถได้ตั้งแต่ถนนรัชดาภิเษกขาออกหน้า สน.พหลโยธินเรื่อยมาจนกระทั่งหน้าศาล ซึ่งหากรถยนต์มีจำนวนมากอาจต้องมีการปิดถนน ซึ่งจะประชาสัมพันธ์ให้ทราบในวันนี้เป็นระยะผ่านทางสถานีวิทยุ จส.100 สวพ.91 และสถานีโทรทัศน์ต่างๆ
พ.ต.ท.สุวโรจน์ ลุนหวิทยานนท์ รอง ผกก.ปพ.บก.ป. กล่าวว่า ในส่วนกำลังเจ้าหน้าที่กองปราบพร้อมสแตนด์บายปฎิบัติงานสนุนตลอดเวลา
ด้าน นายวิรัตน์ ปานศรี ผอ.ส่วนควบคุมผู้ต้องขังไปศาล เรือนจำพิเศษกรุงเทพ กล่าวว่า ในส่วนของกำลังเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จะใช้กำลังปกติจำนวน 20 นาย ที่จะพาผู้ต้องขังกลับเรือนจำอยู่แล้ว ไม่มีการจัดรถเที่ยวพิเศษสำหรับจำเลยในคดีก่อการร้ายที่ศาลนัดสอบถาม เพราะจริงๆจำเลยกลุ่มนี้ก็เป็นผู้ที่เคยถูกคุมตัวที่เรือนจำอยู่แล้วไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
เมื่อถามว่าเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม ที่มีการจับกุมวัตถุระเบิดได้ มีการประเมินว่าจะมีการนำมาใช้ในวันที่ 9 สิงหาคม หรือไม่ พ.ต.อ.ชาตรี กล่าวว่า คงจะไม่เกี่ยวโยงกัน และยังไม่มีสิ่งบอกเหตุ
นายจุมพล กล่าวว่า ขอทำความเข้าใจก่อนว่าในวันที่ 9 สิงหาคม ยังไม่มีการชี้ชัดว่าจะมีการเพิกถอนประกันจำเลยหรือไม่ เพราะทั้งนี้อยู่ที่ข้อเท็จจริงในการพิจารณาไต่สวน ตอนนี้จึงยังไม่มีการสั่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับมือสถานการณ์ในกรณีที่ศาลเพิกถอนประกันตัว ต้องขอดูข้อเท็จจริงในหารไต่สวนซะก่อน ศาลยังไม่ได้คาดหมายว่าจะมีการถอนประกันหรือไม่ ซึ่งอาจจะไม่เกิดขึ้นก็ได้ ตอนนี้ที่ทำเพียงหามาตรการรักษาความปลอดภัยไม่ให้เกิดความวุ่นวายเหมือนวันที่ 23 กรกฎาคม ที่ผ่านมาและจะไม่อนุญาตให้กลุ่มคนเสื้อแดงเข้ามาในรั้วศาลอาญา สามารถอยู่ได้เพียงนอกรั้วศาลเท่านั้น