รวบแล้วหนุ่มอาสาฯ ตีนโหด ถีบ จยย.ชาวบ้าน

ตร.จับกุมหนุ่มตีนโหด ก่อเหตุถีบรถ จยย.ได้แล้ว ปัดไม่ได้เป็นตำรวจอาสา สน.วัดพระยาไกร ปั้นเหตุหมั่นไส้ส่วนตัว “แว้นกวนเมือง” ตบตาสื่อไม่เนียน พบพิรุธคำให้การผู้ต้องหา ขัดกับหลักฐานคลิปวิดีโอที่เผยแพร่พฤติกรรมโหด ว่อนในโลกไซเบอร์ พกวิทยุ-ปืน ติดเอว มิหนำซ้ำ ตร.ยังตามสมทบถึงที่เกิดเหตุอย่างรวดเร็ว ชี้ พฤติการณ์ผู้ก่อเหตุมีลักษณะคล้ายตำรวจ

จากกรณีคลิปวิดีโอชื่อ “วิธีจับมอไซค์ไม่ใส่หมวก” ภายใน ซ.กรรณิการ์ เข้าทางพระราม 3 ซ.19 ซึ่งเป็นพื้นที่รับผิดชอบของเจ้าหหน้าที่ตำรวจ สน.วัดพระยาไกร โดยผู้ที่โพสต์คลิปดังกล่าวใช้ชื่อว่า SODASPICY KORS จนเกิดการวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางบนโซเชียลเน็ตเวิร์ก ถึงการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

วันนี้ (26 ก.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น.ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.วรศักดิ์ นพสิทธิพร รอง ผบช.น.ดูแลงานด้านจราจร ได้นำตัว นายหมัดอาลี ฮีมหมั่นงาน อายุ 35 ปี ที่กระโดดถีบรถจักรยานยนต์ จนล้มในคลิปดังกล่าว มาแถลงข่าวเพื่อสร้างความเข้าใจแก่สังคม โดย พล.ต.ต.วรศักดิ์ กล่าวว่า จากนโยบายระดมกวาดล้างยาเสพติดและอาชญากรรม ที่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรเข้าไปช่วยในการออกตรวจตราตามตรอกซอกซอยต่างๆ ซึ่งเป็นที่มาของการตั้งด่านตรวจสกัดภายใน ซ.กรรณิการ์ เข้าทางพระราม 3 ซ.19 ที่เป็นจุดเกิดเหตุดังกล่าว โดยจากเหตุการณ์นี้ถือว่าเป็นการตรวจสอบการทำงาน ซึ่งไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมาตรวจสอบคลิปวิดีโอดังกล่าวอีกครั้ง ถือว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจตามปกติ

ร.ต.อ.คำตัน ทำดี รอง สว.จร.สน.วัดพระยาไกร (หัวหน้าด่านตรวจ) กล่าวว่า ผู้ก่อเหตุเป็นชาวบ้านในพื้นที่ ซึ่งในช่วงที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งด่านตรวจสกัดภายในซอย ก็จะเห็น นายหมัดอาลี ปั่นรถจักรยานผ่านไปมาในช่วงกลางคืนตลอด และขอยืนยันว่า นายหมัดอาลี ไม่ได้เป็นอาสาสมัครตำรวจแต่อย่างใด โดยในวันเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งด่านตรวจสกัด ซึ่งช่วงท้ายของด่านตรวจสกัดที่เป็นจุดเกิดเหตุ จะเป็นโค้งหักศอก ทำให้มองไม่เห็นว่ามีใครยืนอยู่บ้าง

ขณะเดียวกัน ด้าน พ.ต.ท. วราวัชร์ ธรรมสโรช รอง ผกก.จร.ส.น.วัดพระยาไกร กล่าวว่า เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจที่กำลังปฏิบัติหน้าที่บริเวณจุดตรวจได้ทราบเหตุดังกล่าวแล้ว ก็ได้นำตัวนาย หมัดอาลี ผู้ที่ก่อเหตุ และผู้บาดเจ็บไปที่ สน.วัดพระยาไกร โดยได้ดำเนินการแจ้งข้อหากับผู้ก่อเหตุทันที ทั้งนี้ ได้ทำการลงบันทึกประจำวัน และให้เจ้าหน้าที่พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหา “ทำร้ายให้ผู้อื่นบาดเจ็บ” ไว้แล้ว ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนที่จะนำตัวผู้ต้องหาไปฟ้องศาลแขวง และได้มีการดำเนินการตั้งแต่วันที่เกิดเหตุแล้ว

ด้าน นายหมัดอาลี ให้การว่า ไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่อาสาสมัครของตำรวจแต่อย่างใด มีอาชีพรับจ้างทั่วไป ซึ่งในวันเกิดเหตุได้ปั่นรถจักรยานบริเวณแถวบ้าน ซึ่งเห็นว่า มีด่านตรวจสกัดของเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ และก็เข้าไปร่วมกับด่านตรวจดังกล่าว โดยไม่ได้บอกกล่าวกับเจ้าหน้าที่ให้ทราบ ซึ่งไปยืนอยู่ที่ช่วงท้ายของด่านตรวจที่เป็นมุมมืด ก่อนเกิดเหตุได้ยินเจ้าหน้าที่ตำรวจตะโกนโวยวาย และเห็นว่า มีรถจักรยานยนต์ขับผ่านมาด้วยความเร็ว 2 คัน จึงคิดว่าเจ้าหน้าที่ตะโกนบอกให้ตนเองช่วยจับกุมรถ ตนก็เลยกระโดดถีบรถจักรยานยนต์ดังกล่าว อีกทั้งเกรงว่ารถจักรยานยนต์ที่ขับมาจะชน จึงทำการป้องกันตัว เพราะเคยโดนรถจักรยานยนต์ชนจนขาเกือบหัก ทำให้ฝังใจและหมั่นไส้แก๊งเด็กแว้นที่มักจะขับรถส่งเสียงดังรบกวนชาวบ้าน โดยขณะก่อเหตุไม่ได้มีอาการมึนเมาแต่อย่างใด เพราะนับถือศาสนาอิสลาม จึงไม่สามารถดื่มเหล้าได้ ซึ่งหลังจากกระทำลงไปแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่ได้เข้ามาตักเตือนแต่อย่างใด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากคำให้การของนายหมัดอาลี มีความขัดแย้งกับภาพที่ปรากฏในคลิปวิดีโอดังกล่าว ซึ่งชายที่ปรากฏสวมเสื้อยืดสีฟ้า กางเกงขายาว แล้วใช้เท้าถีบรถจักรยานยนต์ โดยคันแรกขี่ผ่านไปได้ แต่คันที่สอถูกถีบจนล้มลง จากการสังเกตบริเวณเอวของชายคนดังกล่าว มีวัตถุสีดำคล้ายกับวิทยุสื่อสาร และในมือถือสิ่งของลักษณะคล้ายกระบอกไฟฉาย ซึ่งรวมไปถึงพฤติกรรมของชายคนดังกล่าวที่ดูแล้วไม่เหมือนกับชาวบ้านทั่วไป โดยหลังจากกระโดดถีบรถจักรยานยนต์แล้ว ได้มุ่งตรงไปที่รถเพื่อดึงกุญแจรถ และนำใส่กระเป๋ากางเกงทันที หากเป็นชาวบ้านทั่วไปจะไม่แสดงท่าทางลักษณะเช่นนี้ ประกอบกับที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ชี้แจงว่า ช่วงท้ายของด่านตรวจสกัดที่เป็นจุดเกิดเหตุเป็นโค้งหักศอก ทำให้มองไม่เห็นว่ามีใครยืนอยู่บ้างนั้น หากสังเกตจากคลิปวิดีโอดังกล่าวแล้ว จะเห็นว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจในเครื่องแบบเดินมาถึงที่เกิดเหตุอย่างรวดเร็ว