เกิดเหตุผู้เสียชีวิตด้วยอาวุธปืนขนาด .38 ที่ร้านลาบเขตสาทร กรุงเทพฯ 1 รายอย่างปริศนา หลังหนุ่มช่างฟิตเครื่องยนต์อีซูซุ พร้อมพรรคพวกตั้งวงดวลเหล้าหลังเลิกงาน เพื่อนผู้ตายอ้างปืนลั่น หลังผู้ตายหยิบอาวุธปืนขึ้นมาเล่นโชว์ หันหลังพริบเดียวนอนฟุบดับปริศนา!
วันนี้ (26 ก.ค.) เมื่อเวลา 00.00 น. พ.ต.ท.ชรินทร์ ถนัดหนังสือ พนักงานสอบสวน (สบ3) สน.ยานนาวา ได้รับแจ้งเหตุคนถูกยิงด้วยอาวุธปืนเสียชีวิตบริเวณร้านอาหารอีสาน ปากซอยนราธิวาสราชนครินทร์ 8/1 ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ แขวงทุ่งวัดดอน เขตสาทร กทม. จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบแล้วรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พล.ต.ต.วัลลภ ประทุมเมือง ผบก.น.6 พ.ต.อ.สุรเดช เด่นธรรม รอง ผบก.น.6 พ.ต.อ.ธนาทิศ วงศ์วัยรักษ์ ผกก.สน.ยานนาวา เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวชฯ รพ.ตำรวจ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุเป็นร้านอาหารอีสานตามสั่งข้างทางอยู่ปากซอยดังกล่าว ใต้โต๊ะอาหารพบศพนายรณชัย ซาวาเขต อายุ 20 ปี เป็นช่างอยู่ศูนย์รถยนต์อีซูซุ สาขานราธิวาสราชนครินทร์ อยู่บ้านเลขที่ 13 หมู่ 12 ต.สถาน อ.ปัว จ.น่าน สภาพศพไม่สวมเสื้อ ใส่กางเกงสแลกขายาวสีกากี นั่งคว่ำหน้าจมกองเลือด มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดเข้าที่ขมับขวา 1 นัด ใกล้กันพบขวดเบียร์จำนวนหลายขวดวางข้างบนโต๊ะ จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐานและนำศพส่งนิติเวชรพ.ตำรวจเพื่อชัณสูตรพลิกศพ
พล.ต.ต.วัลลภเปิดเผยว่า จากการสอบสวนนายประวิทย์ ปราบหล้า อายุ 42 ปี เจ้าของร้านอาหารอีสาน เปิดเผยว่า ผู้ตายเป็นลูกค้าประจำมักมานั่งดื่มกินกับกลุ่มเพื่อนที่ทำงานเป็นช่างศูนย์รถอีซูซุ สาขานราธิวาสฯ ก่อนเกิดเหตุประมาณ 20.00 น. กลุ่มของผู้ตายได้มาสั่งอาหารและนั่งดื่มเหล้ากันจนถึง 5 ทุ่ม ใกล้ร้านปิดขณะที่ตนกำลังเก็บของก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด พอหันไปมองที่โต๊ะก็พบผู้ตายลงไปนอนกองกับพื้นแล้ว จากนั้นก็ได้ยินเสียงเพื่อนผู้ตายพูดว่าผู้ตายถูกปืนลั่นใส่ พูดจบต่างก็รีบวิ่งหลบหนีไปกันหมด ไม่มีใครเข้าไปช่วยเหลือผู้ตายแต่อย่างใด ตนก็ไม่กล้าเข้าไปช่วยจึงรีบแจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบ
ด้าน นายประยูร อุ่นไอ อายุ 26 ปี รุ่นพี่ที่ทำงานของผู้ตายให้การว่า ตนและผู้ตายทำงานอยู่ที่บริษัทเดียวกัน ก่อนเกิดเหตุได้พากันมานั่งดื่มกินกันที่ที่ร้านดังกล่าวกับกลุ่มเพื่อนรวมผู้ตาย 4 คน นั่งจนถึงเวลาประมาณ 23.00 น. ผู้ตายได้นำปืนลูกโม่ขนาด .38 ออกมาเล่น แต่ตนคิดว่าคงไม่มีลูกกระสุนอยู่ โดยขณะเกิดเหตุตนได้เดินไปที่หน้าร้านเล้วได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด หันกลับมาดูก็พบผู้ตายนอนฟุบไปแล้ว ด้วยความตกใจจึงรีบหยิบปืนเล้ววิ่งหนีออกจากร้านไปพร้อมกับเพื่อนอีก 2 คน ยืนยันได้ว่าไม่มีเหตุทะเลาะกันแต่อย่างใด แต่น่าจะเกิดจากอุบัติเหตุปืนลั่นใส่เอง
พล.ต.ต.วัลลภกล่าวอีกว่า เบื้องต้นสันนิษฐานว่าน่าจะเกิดจากอุบัติเหตุเพราะจากการสอบสวนพยานทราบว่าขณะเกิดเหตุกลุ่มของผู้ตายไม่ได้มีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกันแต่อย่างใด เพียงแต่นำอาวุธปืนขึ้นมาลองเล่นกันเอง ด้วยความมึนเมาจนพลาดท่าทำปืนลั่นใส่กัน ซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่ทราบว่าใครเป็นคนทำ ต้องตามเพื่อนของผู้ตายทั้งหมดที่อยู่ในเหตุการณ์มาสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงต่อไป
