“เพรียวพันธ์” บินลัดฟ้าอวยพรวันเกิดล่วงหน้า “ทักษิณ” ที่ฮ่องกง ขณะที่อดีตเลขาธิการสภาทนายความสวดยับ แม้ไม่ผิดกฎหมายแต่ผิดหลักจริยธรรมของข้าราชการซึ่งร้ายแรงกว่า
วันนี้ (24 ก.ค.) มีรายงานว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เดินทางไปยังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อโดยสารเครื่องบินของสายการบินไทยแอร์เอเชีย ไปยังเขตปกครองพิเศษฮ่องกง เพื่ออวยพรวันคล้ายวันเกิดล่วงหน้าแก่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ครบรอบวันเกิดในวันที่ 26 ก.ค.นี้ โดย พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ จะเดินทางกลับมายังประเทศไทยในช่วงเช้าของวันที่ 25 ก.ค.นี้ เนื่องจากได้ขอลาหยุดราชการเพียง 1 วันเท่านั้น
ทั้งนี้ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์กล่าวถึงการเดินทางดังกล่าวกับผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์บางฉบับว่าตนเองได้เดินทางไปที่ฮ่องกงตามคำเชิญจาก พ.ต.ท.ทักษิณเท่านั้น ไม่มีเรื่องอะไรเป็นพิเศษ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเดินทางไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณครั้งนี้ของ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางถึงความไม่เหมาะสม เนื่องจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ถือเป็นผู้ต้องโทษคดีอาญา หลังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาจำคุกในคดีทุจริตจัดซื้อที่ดินรัชดา โดยถูกออกหมายจับตามศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เลขที่ 353/2551 และขณะนี้อยู่ระหว่างหลบหนีคดี ขณะที่ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ เป็น ผบ.ตร.มีหน้าที่ตามกฎหมายที่จะต้องติดตามจับกุมคนร้าย รวมถึงผู้ต้องโทษที่หลบหนีคดี
นายวันชัย สอนศิริ อดีตเลขาธิการสภาทนายความ กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ตามหลักกฎหมายผู้ที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี หรือรองนายกรัฐมนตรี รวมถึง ผบ.ตร. ถือเป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมาย ที่มีอำนาจสั่งการ หรือติดตามจับกุมผู้กระทำความผิดที่ศาลได้ออกหมายจับมาดำเนินคดี และหากผู้กระทำผิดที่ศาลออกหมายจับอยู่ภายในประเทศไทย จะต้องดำเนินการตามจับกุม แต่หากไม่มีการดำเนินการจับกุม จะถือว่าเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 แต่ถ้าผู้กระทำผิดหลบหนีอยู่ที่ต่างประเทศ ซึ่งหมายจับของไทยไม่สามารถนำไปใช้ได้ จึงต้องมีการดำเนินการทางการทูต โดยการใช้สนธิสัญญาส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน เพื่อให้ทางการของประเทศที่ผู้กระทำผิดดังกล่าวหลบหนีอยู่ส่งตัวมาให้ กรณีของ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ จึงไม่ถือว่าไม่เป็นการละเว้นปฏิบัติหน้าที่
“กรณีนี้แม้จะถือว่าอยู่นอกเหนืออำนาจที่ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ในฐานะ ผบ.ตร. แต่การที่เดินทางไปพบกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ในฐานะผู้ต้องโทษหลบหนีคดี แม้จะไม่ผิดตามหลักกฎหมาย แต่ถือว่ามีความผิดที่ร้ายแรงยิ่งกว่ากระทำผิดกฎหมายเสียอีก โดยถือว่าเป็นการจงใจกระทำความผิดตามหลักจริยธรรม ที่ถือเป็นความผิดที่ร้ายแรงสำหรับผู้ที่เป็นข้าราชการ ที่ถือว่าไม่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง” นายวันชัยกล่าว
สำหรับ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ เป็นพี่ชายของคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร อดีตภรรยาของ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งกำลังจะเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 ก.ย.นี้ โดยก่อนหน้านี้ได้มีกระแสข่าวว่าเจ้าตัวได้รับการทาบทามให้ดำรงตำแหน่งสำคัญในรัฐบาล ที่กำลังจะมีการปรับคณะรัฐมนตรี แต่ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ได้ปฏิเสธกระแสข่าวดังกล่าวมาโดยตลอด โดยยืนยันว่าถ้าหากมีการยื่นข้อเสนอให้ตนดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตนขอรับผิดชอบงานด้านการปราบปรามยาเสพติดเท่านั้น
