xs
xsm
sm
md
lg

อึ้ง! ยาบ้าแพง-ขาดตลาด ทำโจ๋เสี้ยนยาก่อคดีสะเทือนขวัญ

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

ยาบ้าราคาแพง
เผยรัฐบาลปราบหนัก ทำยาบ้าขาดตลาด ราคาแพง โจ๋ติดยาหน้ามืดก่อคดีอาชญากรรมเพียบ ระบุกฎหมายคุ้มครองเด็ก จูงใจเยาวชนถูกหลอกใช้ค้ายามากขึ้น-ตะลึงเด็กหญิง 12 ชวนเพื่อนชายรุมโทรม เหตุเพราะอยากลอง ติดสื่ออิเล็กทรอนิกส์

วันนี้ (15 ก.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ร่วมกับสถาบันอิศราได้จัดกิจกรรมราชดำเนินเสวนา เรื่อง “เซ็กซ์วัยใส ติดยา ตีกัน แก้อย่างไร” โดยเชิญ นายอวิรุทธิ์ ชาญชัยกิตติกร ผู้พิพากษารองหัวหน้าศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดสมุทรปราการ นายวัลลภ ตังคณานุกรักษ์ หรือครูหยุย เลขาธิการมูลนิธิสร้างสรรค์เด็ก นพ.ยงยุทธ วงศ์ภิรมย์ศานต์ นายกสมาคมจิตแพทย์ และนายชาญวิทย์ ทับสุพรรณ เลขาธิการสนง.คณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน เป็นวิทยากร มี น.ส.อมรรัตน์ มหิทธิ์รุกข์ เลขาธิการสมาคมนักข่าวฯ เป็นผู้ดำเนินรายการ

นายอวิรุทธ์ ชาญชัยกิตติกร ผู้พิพากษารองหัวหน้าศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดสมุทรปราการ กล่าวว่า ยาเสพติดเป็นอันดับหนึ่งของคดีที่เยาวชนกระทำความผิด สาเหตุเกิดจากผู้ค้ายาเสพติดมากขึ้น โดยมีสิ่งยั่วยุให้เข้ามาค้ายา โดยเฉพาะการประกาศของหน่วยงาน ป.ป.ส. หน่วยงานจับกุมยาเสพติด ที่มักแถลงข่าวระบุว่าจำนวนของกลางเท่าใด มีมูลค่าเท่าใด ดังนั้นเมื่อจับมากขึ้น ยาเสพติดก็แพงขึ้น เมื่อแพงขึ้น ก็ยั่วยวนให้คนเข้าสู่วงจรค้ายาเสพติดมากขึ้น ยิ่งมี พ.ร.บ.เกี่ยวกับคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ. 2553 ออกบังคับใช้ และคุ้มครองสิทธิเด็กมากเท่าใด พวกแก็งค้ายาก็จะสบโอกาสหาประโยชน์จากเด็ก และใช้ให้เด็กกระทำผิด ล่าสุดมีคดีเข้าสู่ศาล คือการใช้เด็กชายวัย9ขวบขนยาเสพติด โดยให้ค่าจ้างแค่ 20บาท ซึ่งศาลจะลงโทษเด็กคนนี้ไม่ได้ เพราะเด็กไม่รู้สำนึกในการกระทำผิด แต่คดีนี้ตำรวจเองก็จับผู้ใหญ่ผู้ค้าไม่ได้ เมื่อศาลไม่ลงโทษเด็กหรือลงเบา คนก็ตำหนิศาล จึงเกิดความคิดว่าสมควรทำลายตลาดยาเสพติด ด้วยการผลิตยาเสพติดปลอม เป็นต้น

“ในความคิดผมเชิงวิชาการ เห็นว่ากฎหมายฉบับนี้ยังไม่คุ้มครองเด็กอย่างแท้จริง แต่กลับให้ประโยชน์แก่บุคคลที่เกี่ยวข้อง เช่น การสอบปากคำเด็กต้องมีนักจิตวิทยา ต้องมีผู้พิพากษามาอยู่เวรประจำที่ศาล ต้องมีอัยการมาร่วมฟังการสอบสวน ต้องมีที่ปรึกษากฎหมายหรือทนายความ เหล่านี้ต้องมีงบประมาณและค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น เมื่อเด็กต้อง เข้าฝึกและอบรมที่สถานพินิจ ซึ่งเดิมก็คือ คุกเด็ก และกลายเป็นที่ฝึกปรือฝีมือ ขณะเดียวกัน ถ้าเด็กได้ประกันตัวออกไป ก็จะกลับเข้าสู่สังคมเดิม ไปค้ายาอีก อย่างไรก็ตามปัจจุบันสถานพินิจมีคุณภาพดีขึ้น ส่วนตัวจึงจะยังไม่ให้เด็กได้ประกันตัวทันที แต่จะขอกักไว้ 1 เดือน เพื่ออบรมจิตใจเสียก่อน”

ผู้พิพากษากล่าวอีกว่า ศาลเยาวชนฯ เป็นเพียงปลายเหตุในการแก้ปัญหา และพบว่าคดีเด็กกระทำผิดเกี่ยวกับเพศ เป็นอันดับรองจากคดียาเสพติด สาเหตุเพราะเด็กไม่มีความรู้เรื่องเพศที่เพียงพอ ครอบครัวไม่อบรม เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องน่าอับอาย เด็กจึงเข้าหาสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เข้าสู่วงจรอนาจาร ล่าสุดมีคดีเด็กหญิงวัย 12 ขวบ ที่ได้รับการอบรมจากครอบครัวที่ดี หนีโรงเรียนกวดวิชาไปร่วมประเวณีกับเด็กเร่ร่อนจนท้อง และต้องให้แพทย์แก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ให้ ปัญหานี้พบว่าเกิดจากเด็กเล่นอินเตอร์เน็ต และคบหาพูดคุยทางเน็ตเวิร์กแต่ประการเดียวแล้วนัดพบกัน อีกรายเป็นเด็กหญิง ตอนแรกเป็นผู้เสียหายในคดีถูกเด็กชาย 5 คน ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนข่มขืนเป็นคดีโทรมหญิง แต่เมื่อสืบพยานไปพบว่าเด็กชายทั้ง 5 เป็นเด็กเรียน แต่ผู้เสียหายกลับเป็นเด็กแก่น โดยยอมรับว่ากระทำไปเพราะอยากรู้ว่าการถูกรุมโทรมเป็นอย่างไร คดีนี้พ่อแม่เด็กหญิงเรียกค่าเสียหาย5แสนบาท แต่เมื่อดูพฤติการณ์แล้วคิดดูว่าศาลจะกำหนดค่าเสียหายเพียงใด จึงจะเหมาะสม สาเหตุเหล่านี้เกิดจากพื้นฐานความคิด อาจต้องอาศัยเพื่อนด้วนกันช่วยแก้ปัญหา เพราะจะใกล้ชิดกันมากกว่า ส่วนเรื่องเด็กตีกันยังมีอยู่ เป็นการก่อเหตุตามแฟชั่น คือวันก่อนเด็กตีกันที่ดอนเมือง รุ่งขึ้นเด็กอาชีวะที่สมุทรปราการก็เอาบ้าง สำนักงานศาลยุติธรรมจึงแก้ปัญหาโดยให้มีการไกล่เกลี่ยระงับข้อพิพาท ซึ่งได้ทำสำเร็จมาแล้ว และเกิดแนวคิดตั้งศาลวัยรุ่นหรือ”ทีนคอร์ท” ให้พวกวัยรุ่นเป็นลูกขุนตัดสินกันเองโดยมีผู้พิพากษา1คนเป็นผู้กำกับการพิจารณาไต่สวนคดี

นายวัลลภ หรือครูหยุย กล่าวว่า ปัญหาเด็กได้เข้าสู่ยุคที่ 3แล้วคือยุคยาเสพติด เซ็กซ์และความรุนแรง ปัจจุบันได้ระบาดจากสังคมเมืองไปสู่ชนบท เกิดสลัมในเมืองใหญ่ๆโดยรัฐไม่อาจเข้าไปเยียวยาได้ เพราะบางคนเป็นพลเมืองแฝง ไม่มีบ้านไม่มีบัตรประชาชน หอพักก็กลายเป็นโรงแรมม่านรูด ร้านเกมส์เป็นที่พบกันจนเกิดเหตุ ที่เพชรบุรีมี3แก๊ง ตั้งชื่อโหดๆ เช่น แก๊ง ซามูไร , สปาต้า, .38 ตำรวจสืบสวนจนได้ตัวและตามพ่อแม่มารับตัวซึ่งพ่อแม่ไม่รู้ว่าลูกตนเป็นสมาชิกแก๊งดังกล่าว จึงให้เด็กกับครอบครัวมาคุยกัน ซึ่งร้อยละ70 ทำสำเร็จ จึงเห็นว่าชุมชนต้องเป็นศูนย์กลางในการแก้ปัญหา กระทรวงศึกษาต้องปรับหลักสูตรการสอน เน้นการแนะแนว ต้องมีนักจิตวิทยาประจำโรงเรียนและจัดกิจกรรมเป็นทางเลือก

นพ.ยงยุทธ นายกสมาคมจิตแพทย์ กล่าวว่า เด็กที่ก่อปัญหาได้รับอิทธิพลมาจากเพื่อน กลุ่มธุรกิจที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย สื่ออิเล็กทรอนิกส์ และการพนัน และพบว่าปัญหาทำแท้งและตั้งครรภ์โดยไม่ตั้งใจ มักเกิดขึ้นช่วงเป็นนักศึกษา ดังนั้น พ่อแม่ต้องเข้าใจเด็กวัยรุ่น ต้องตกลงกันในการใช้และควบคุมสื่ออิเล็กทรอนิกส์โดยห้ามมีแท็บเล็ตในห้องส่วนตัว และควบคุมเวลาใช้เครื่อง และต้องหาทางออก คืออย่าห้ามเด็กเพียงอย่างเดียว ต้องหากิจกรรมนอกเวลาเรียนให้เด็กทำ ให้เด็กบริหารกันเอง และให้มีลานกีฬา ซึ่งรัฐโรงเรียนจะทำตามลำพังคงไม่พอ ชุมชนต้องมีส่วนร่วม

นายชาญวิทย์ เลขาฯ สนง.ส่งเสริมการศึกษาเอกชน กล่าวว่า จากการวิจัยในรอบ10ปีที่ผ่านมา เด็กหญิง ม.2 จะช่วงที่เกิดปัญหามากที่สุด ส่วนชายจะเกิดช่วงม.3ถึงม.4 ที่ก่อปัญหาทางเพศ ยาเสพติด เหตุรุนแรง สาเหตุมาจากขาดความอบอุ่น ครอบครัวแตกแยก หรือปล่อยให้อยู่กับปู่ย่าตายาย เด็กขาดคำปรึกษาเลี้ยงดูจากพ่อแม่ สื่ออิเล็กทรอนิกส์เข้าถึงง่าย กระทรวงศึกษาจึงต้องปรับวิธีการโดยให้มีการแนะแนว ส่วนโรงเรียนในชุมชนที่แก้ปัญหาได้ก็ต้องมีการให้รางวัล เช่นให้เด็กม.6เข้าเรียนม.1ได้โดยไม่ต้องสอบ ส่วนแท็บเลตก็ต้องมีการควบคุมการใช้โดยพ่อแม่ต้องรู้และแนะนำเด็กได้ว่ามันมีคุณและโทษอย่างไร
คดีอาชญากรรมพุ่งสูงขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น