กองบังคับการตำรวจทางหลวง แถลงผลจับกุมหนุ่มใหญ่ชาวหนองคาย ขนกัญชาน้ำหนัก 115 กก.มูลค่า 1.3 ล้านบาท มุ่งหน้าเมืองย่าโม โดยมีรถนำเส้นทาง แต่หนีไม่พ้นเงื้อมมือเจ้าหน้าที่ ผู้ต้องหาให้การสารภาพว่า เคยถูกจับกุมเมื่อปี 50 ฐานครอบครองกัญชา 300 กิโลกรัม และเพิ่งพ้นโทษมาเมื่อเดือน ธ.ค.54
วันนี้ (4 ก.ค.) ที่กองบังคับการตำรวจทางหลวง ถนนศรีอยุธยา (บก.ทล) พ.ต.อ.อภิชิต เทียนเพิ่มพูน รรท.ผบก.ทล. พ.ต.อ.โสภณ สารพัฒน์ ผกก.4 บก.ทล. พ.ต.ท.ภาดล จันทร์ดอน สว.ส.ทล.2 กก.4 บก.ทล. ร.ต.ท.พรชัย แสงศิลา รองสว.ส.ทล.2 กก.4 บก.ทล.ขอนแก่น แถลงจับกุม นายเดชา หรือ เด พาละพล อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 14 ม.15 ต.บ้านต้อง อ.เซกา จ.หนองคาย ผู้ต้องหาลักลอบขนกัญชา พร้อมของกลางกัญชาอัดแท่ง จำนวน 115 กิโลกรัม โทรศัพท์มือถือยี่ห้อซัมซุง สีดำ จำนวน 1 เครื่อง รถยนต์กระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นไทรทัน สีเทา หมายเลขทะเบียน บบ 1461 สกลนคร จำนวน 1 คัน กล่องไม้อัดเลียนแบบลักษณะคล้ายบานประตู จำนวน 5 บาน สามารถจับกุมได้บนถนนทางหลวงหมายเลข 2 ถนนมิตรภาพ ทิศทางจากจังหวัดขอนแก่นมุ่งหน้าจังหวัดนครราชสีมา ต.หนองแวงโสกพระ อ.พล จ.ขอนแก่น ซึ่งมีมูลค่ารวมกว่า 1.3 ล้านบาท
พ.ต.อ.อภิชิต เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากได้รับแจ้งเบาะแสจากสายลับ ว่า จะมีการลักลอบขนกัญชาอัดแท่งจากจังหวัดบึงกาฬ ไปส่งให้ลูกค้าในเขตพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา โดยเส้นทางถนนมิตรภาพ (ทางหลวงหมายเลข 2) โดยใช้ยานพาหนะของกลางดังกล่าว และจะมีรถสำรวจเส้นทาง หรือ สเกาต์ คอยขับนำอีกคันหนึ่งเป็นรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า สีน้ำเงิน จะลักลอบไปส่งให้กับลูกค้าในวันที่ 4 ก.ค.2555 คาดว่า จะมาถึงเขตพื้นที่จังหวัดขอนแก่นในช่วงเช้ามืด ทางเจ้าหน้าที่จึงนำกำลังไปตั้งจุดตรวจสกัดบริเวณถนนมิตรภาพ
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งด่าน ตั้งแต่เวลา 02.00 น.วันที่ 4 ก.ค.55 จนกระทั่งเวลาประมาณ 04.00 น.ได้มีรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า สีน้ำเงิน ขับมาด้วยความเร็วสูง เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกให้รถหยุด ปรากฏว่า รถคันดังกล่าวไม่ยอมหยุดและขับรถหลบหนีไป จึงเชื่อว่ารถคันดังกล่าวเป็นรถต้องสงสัยตามที่สายแจ้งมา จากนั้นประมาณไม่เกิน 3 นาที ก็มีรถยนต์กระบะยี่ห้อมิตซูบิชิอีกคัน ลักษณะตรงตามที่สายลับแจ้งมา โดยมี นายเดชา พาละพล ขับขี่มาในลักษณะมีพิรุธ ลักษณะขับมาอย่างช้าๆ และชิดขอบทางด้านซ้ายสุดบนไหล่ถนน เจ้าหน้าที่จึงเรียกตรวจค้น นายเดชา ยินยอมให้ตรวจค้น และนำตรวจค้นด้วยตนเอง จากการตรวจค้นพบกล่องไม้อัดเลียนแบบลักษณะคล้ายบานประตูเป็นลายไม้ไผ่สีเขียวพื้นขาว จำนวน 5 บาน บรรทุกอยู่ตรงกระบะท้ายรถคันดังกล่าว เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจยกดูสังเกตว่า มีน้ำหนักผิดปกติกว่าบานประตูทั่วไป จึงได้งัดไม้อัดที่ปิดทับไว้ดู ก็พบกัญชาอัดแท่งอยู่บานละ 23 แท่งจริง จึงควบคุมตัวพร้อมของกลางมาสอบสวน
จากการสอบสวน นายเดชา ให้การรับสารภาพ โดยอ้างว่าตนไม่มีอาชีพและรายได้เพียงแต่หาผักปลาขายไปวันๆ จึงหันมารับจ้างขนส่งกัญชาให้กับญาติซึ่งมีศักดิ์เป็นหลานทางเมีย (ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง) แต่อายุมากกว่า ซึ่งอยู่ที่จังหวัดมุกดาหาร โดยร่วมกับพวกอีกคนเป็นคนโทรศัพท์ติดต่อมาให้ไปขนกัญชาบริเวณจุดใด และไปส่งที่ใด โดยญาติคนนี้จะมีหน้าที่ขับรถนำทางเป็นสเก๊าให้ กระทั่งมาถึงด่านตรวจถูกจับกุมได้ ได้ค่าจ้างขนส่งเพียง 15,000 บาท ที่ตัดสินใจทำไปเพราะจะนำเงินไปส่งค่างวดรถของกลางคันดังกล่าว ยังรับอีกว่าเคยถูกจับกุมเมื่อปี 2550 ครอบครองกัญชา 300 กิโลกรัม ที่จังหวัดกาญจนบุรี และเพิ่งพ้นโทษมาเมื่อเดือนธันวาคม 2554 และมาถูกจับกุมในครั้งนี้
เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และนำตัวส่งเจ้าหน้าที่ บช.ปส.ดำเนินคดีต่อไป พร้อมกับขยายผลการจับกุมผู้ร่วมขบวนการที่หลบหนี
วันนี้ (4 ก.ค.) ที่กองบังคับการตำรวจทางหลวง ถนนศรีอยุธยา (บก.ทล) พ.ต.อ.อภิชิต เทียนเพิ่มพูน รรท.ผบก.ทล. พ.ต.อ.โสภณ สารพัฒน์ ผกก.4 บก.ทล. พ.ต.ท.ภาดล จันทร์ดอน สว.ส.ทล.2 กก.4 บก.ทล. ร.ต.ท.พรชัย แสงศิลา รองสว.ส.ทล.2 กก.4 บก.ทล.ขอนแก่น แถลงจับกุม นายเดชา หรือ เด พาละพล อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 14 ม.15 ต.บ้านต้อง อ.เซกา จ.หนองคาย ผู้ต้องหาลักลอบขนกัญชา พร้อมของกลางกัญชาอัดแท่ง จำนวน 115 กิโลกรัม โทรศัพท์มือถือยี่ห้อซัมซุง สีดำ จำนวน 1 เครื่อง รถยนต์กระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นไทรทัน สีเทา หมายเลขทะเบียน บบ 1461 สกลนคร จำนวน 1 คัน กล่องไม้อัดเลียนแบบลักษณะคล้ายบานประตู จำนวน 5 บาน สามารถจับกุมได้บนถนนทางหลวงหมายเลข 2 ถนนมิตรภาพ ทิศทางจากจังหวัดขอนแก่นมุ่งหน้าจังหวัดนครราชสีมา ต.หนองแวงโสกพระ อ.พล จ.ขอนแก่น ซึ่งมีมูลค่ารวมกว่า 1.3 ล้านบาท
พ.ต.อ.อภิชิต เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากได้รับแจ้งเบาะแสจากสายลับ ว่า จะมีการลักลอบขนกัญชาอัดแท่งจากจังหวัดบึงกาฬ ไปส่งให้ลูกค้าในเขตพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา โดยเส้นทางถนนมิตรภาพ (ทางหลวงหมายเลข 2) โดยใช้ยานพาหนะของกลางดังกล่าว และจะมีรถสำรวจเส้นทาง หรือ สเกาต์ คอยขับนำอีกคันหนึ่งเป็นรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า สีน้ำเงิน จะลักลอบไปส่งให้กับลูกค้าในวันที่ 4 ก.ค.2555 คาดว่า จะมาถึงเขตพื้นที่จังหวัดขอนแก่นในช่วงเช้ามืด ทางเจ้าหน้าที่จึงนำกำลังไปตั้งจุดตรวจสกัดบริเวณถนนมิตรภาพ
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งด่าน ตั้งแต่เวลา 02.00 น.วันที่ 4 ก.ค.55 จนกระทั่งเวลาประมาณ 04.00 น.ได้มีรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า สีน้ำเงิน ขับมาด้วยความเร็วสูง เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกให้รถหยุด ปรากฏว่า รถคันดังกล่าวไม่ยอมหยุดและขับรถหลบหนีไป จึงเชื่อว่ารถคันดังกล่าวเป็นรถต้องสงสัยตามที่สายแจ้งมา จากนั้นประมาณไม่เกิน 3 นาที ก็มีรถยนต์กระบะยี่ห้อมิตซูบิชิอีกคัน ลักษณะตรงตามที่สายลับแจ้งมา โดยมี นายเดชา พาละพล ขับขี่มาในลักษณะมีพิรุธ ลักษณะขับมาอย่างช้าๆ และชิดขอบทางด้านซ้ายสุดบนไหล่ถนน เจ้าหน้าที่จึงเรียกตรวจค้น นายเดชา ยินยอมให้ตรวจค้น และนำตรวจค้นด้วยตนเอง จากการตรวจค้นพบกล่องไม้อัดเลียนแบบลักษณะคล้ายบานประตูเป็นลายไม้ไผ่สีเขียวพื้นขาว จำนวน 5 บาน บรรทุกอยู่ตรงกระบะท้ายรถคันดังกล่าว เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจยกดูสังเกตว่า มีน้ำหนักผิดปกติกว่าบานประตูทั่วไป จึงได้งัดไม้อัดที่ปิดทับไว้ดู ก็พบกัญชาอัดแท่งอยู่บานละ 23 แท่งจริง จึงควบคุมตัวพร้อมของกลางมาสอบสวน
จากการสอบสวน นายเดชา ให้การรับสารภาพ โดยอ้างว่าตนไม่มีอาชีพและรายได้เพียงแต่หาผักปลาขายไปวันๆ จึงหันมารับจ้างขนส่งกัญชาให้กับญาติซึ่งมีศักดิ์เป็นหลานทางเมีย (ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง) แต่อายุมากกว่า ซึ่งอยู่ที่จังหวัดมุกดาหาร โดยร่วมกับพวกอีกคนเป็นคนโทรศัพท์ติดต่อมาให้ไปขนกัญชาบริเวณจุดใด และไปส่งที่ใด โดยญาติคนนี้จะมีหน้าที่ขับรถนำทางเป็นสเก๊าให้ กระทั่งมาถึงด่านตรวจถูกจับกุมได้ ได้ค่าจ้างขนส่งเพียง 15,000 บาท ที่ตัดสินใจทำไปเพราะจะนำเงินไปส่งค่างวดรถของกลางคันดังกล่าว ยังรับอีกว่าเคยถูกจับกุมเมื่อปี 2550 ครอบครองกัญชา 300 กิโลกรัม ที่จังหวัดกาญจนบุรี และเพิ่งพ้นโทษมาเมื่อเดือนธันวาคม 2554 และมาถูกจับกุมในครั้งนี้
เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และนำตัวส่งเจ้าหน้าที่ บช.ปส.ดำเนินคดีต่อไป พร้อมกับขยายผลการจับกุมผู้ร่วมขบวนการที่หลบหนี