“ป้าเช็ง” โดนศาลสั่งจำคุก 18 เดือน ฐานขายยาหยอดตา “เจียรนัยเพชร” โดยไม่ได้ขึ้นตำรับยา ทำให้ผู้ใช้ตาบอด แถมยังต้องขึ้นศาลอีก 3 คดี ฐานผลิต-จำหน่ายยาหยอดตาเจียรนัยเพชรและยาน้ำมหาบำบัด ผ่านทีวีดาวเทียมช่อง Super Cheng โดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา
วันนี้ (22 มิ.ย.) ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) พล.ต.ต.นิพนธ์ เจริญผล ผบก.ปคบ. แถลงความคืบหน้ากรณีตำรวจ บก.ปคบ. ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ อย. และกองการประกอบโรคศิลปะ ได้ร่วมกันตรวจค้นและจับกุมตัวนางสาวศรวรรณ ศิริสุนทรินทร์ หรือป้าเช็ง ผู้ผลิตและจำหน่ายยาหยอดตา เจียรนัยเพชร และยาน้ำมหาบำบัด ผ่านทางสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมช่อง Super Cheng ไว้ดำเนินคดี ตั้งแต่ปี 2553
ต่อมาได้มีผู้เสียหายเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีเพิ่มเติม รวมเป็น 5 คดี ทำให้เป็นที่สนใจของประชาชนและสื่อมวลชนได้ติดตามข่าวเป็นจำนวนมาก ซึ่งขณะนี้ทั้ง 5 คดีได้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้วทั้งหมด โดยอยู่ระหว่างการพิจารณาคดีของศาล 3 คดี และศาลมีคำพิพากษาแล้ว 2 คดี โดยมีรายละเอียด ดังนี้
1. คดีอาญาที่ 15/2553 เป็นกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปคบ.ร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และกองการประกอบโรคศิลปะ เข้าตรวจค้นบ้านป้าเช็ง เมื่อ 21 ม.ค.2553 แล้วจับกุมตัวป้าเช็งกับพวกรวม 7 คน ไว้ดำเนินคดีข้อหาร่วมกันผลิตและขายยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับ ทั้งนี้ ผลการดำเนินการพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบสวนเสร็จสิ้นแล้วโดยมีความเห็น ควรสั่งฟ้อง และพนักงานอัยการศาลจังหวัดธัญบุรีมีความเห็นสั่งฟ้องตามความเห็นของพนักงานสอบสวน ขณะนี้คดีอยู่ระหว่างพิจารณาของศาลจังหวัดธัญบุรี
2. คดีอาญาที่ 17/2553 เป็นกรณีเจ้าหน้าที่ อย. และกองการประกอบโรคศิลปะ ได้เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปคบ. เมื่อ 26 ม.ค. 2553 ให้ดำเนินคดีกับป้าเช็งเพิ่มเติม จำนวน 4 ข้อหา คือ โฆษณาขายยาทางวิทยุ โทรทัศน์ โดยไม่ได้รับอนุมัติข้อความ เสียง หรือภาพที่ใช้ในการโฆษณาจากผู้อนุญาต, โฆษณาขายยาโดยแสดงสรรพคุณยาว่าสามารถบำบัด บรรเทา รักษา หรือป้องกันโรค หรืออาการของโรคที่รัฐมนตรีประกาศ,ประกอบกิจการและดำเนินการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต และประกอบโรคศิลปะโดยไม่ขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาต ซึ่งผลการดำเนินการพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบสวนเสร็จสิ้นแล้วโดยมีความเห็น ควรสั่งฟ้อง และพนักงานอัยการศาลจังหวัดธัญบุรีมีความเห็นสั่งฟ้องตามความเห็นของพนักงานสอบสวน ขณะนี้คดีอยู่ระหว่างพิจารณาของศาลจังหวัดธัญบุรี
3.คดีอาญาที่ 21/2553 เป็นกรณีนายสมชาย เถื่อนศรี ผู้เสียหายได้ใช้ยาหยอดตาเจียรนัยเพชรของป้าเช็งไปทำการหยอดตาจนตาบอด ได้เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปคบ. เมื่อ 12 ก.พ. 2553 ให้ดำเนินคดีกับป้าเช็ง ข้อหาขายยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับ
โดยล่าสุดผลการดำเนินการ พนักงานสอบสวนได้ทำการสอบสวนเสร็จสิ้นแล้วโดยมีความเห็น ควรสั่งฟ้อง และพนักงานอัยการศาลจังหวัดพัทยามีความเห็นสั่งฟ้องตามความเห็นของพนักงานสอบสวน ขณะนี้คดีอยู่ระหว่างพิจารณาของศาลจังหวัดพัทยา
4. คดีอาญาที่ 24/2553 กรณีนายสุทิน ชมกลิ่น ผู้เสียหายได้ใช้ยาหยอดตาเจียรนัยเพชรของป้าเช็งไปทำการหยอดตาจนตาบอด ได้เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปคบ. เมื่อ 19 ก.พ.2553 ให้ดำเนินคดีกับป้าเช็ง ข้อหาขายยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับ
และ 5. คดีอาญาที่ 25/2553 กรณีนางทิพย์อุทัย ศุภบุญมี ผู้เสียหายได้ใช้ยาหยอดตาเจียรนัยเพชรของป้าเช็งไปทำการหยอดตาแล้วดวงตาพร่ามัว ได้เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปคบ. เมื่อ 19 ก.พ. 2553 ให้ดำเนินคดีกับป้าเช็ง ข้อหาขายยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับ ซึ่งผลการดำเนินการพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบสวนเสร็จสิ้นแล้วโดยมีความเห็น ควรสั่งฟ้อง และพนักงานอัยการศาลจังหวัดธัญบุรี มีความเห็นสั่งฟ้องตามความเห็นของพนักงานสอบสวน ต่อมาศาลจังหวัดธัญบุรีได้มีคำสั่งให้รวมคดีและมีคำพิพากษาทั้งสองคดีดังกล่าวแล้ว โดยพิพากษาว่าจำเลยมีความผิด ให้จำคุกรวม 18 เดือน ริบของกลาง ตามคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 1360/2555 และที่ 1361/2555 ลง 18 มี.ค.2555
ทั้งนี้ ผบก.ปคบ.กล่าวเตือนว่า อย่าได้หลงเชื่อและซื้อยาจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ หรือที่มีการโฆษณาชวนเชื่อโอ้อวดสรรพคุณเกินจริง เพราะจะได้รับยาที่ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับ ซึ่งอาจจะเป็นยาปลอมที่ไม่มีตัวยาใดๆ เลย หรืออาจได้รับยาที่ไม่ได้มาตรฐาน ผสมสารอันตราย หากผู้ใดพบเห็นการลักลอบจำหน่ายยาในลักษณะนี้อีก ขอให้ร้องเรียนแจ้งมายังสายด่วน บก.ปคบ.1135 หรือตู้ ปณ. 459 ปณศ.สามเสนใน เขตพญาไท กทม. 10400